กรุงเทพฯ--5 ม.ค.--IR network
บอร์ด บมจ.คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น (CSS) ) ไฟเขียวร่วมลงทุน “ไพร์ม โร้ด แคปปิตอล” จัดตั้งบริษัท “ไพร์ม รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์ยี่” กรุยทางบุกธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 10.2 เมกกะวัตต์ ที่ประเทศญี่ปุ่น พร้อมผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้การไฟฟ้าญี่ปุ่นใน ปี 2558 ทันที “สมพงษ์ กังสวิวัฒน์” เผยใช้เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท มั่นใจการร่วมลงทุนครั้งนี้ ช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจ หนุนรายได้-กำไรให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ระบุยังเดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ พร้อมประเมินภาพรวมธุรกิจปี 2558 ยังสดใสตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ
นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CSS เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 6/2557 ได้มีมติอนุมัติให้ร่วมลงทุนกับ บริษัท ไพร์ม โร้ด แคปปิตอล จำกัด เพื่อจัดตั้งบริษัท ไพร์ม รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด เพื่อรองรับการพัฒนาโครงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในสัดส่วนโครงสร้างการลงทุน ในอัตราส่วน 50:50 เพื่อดำเนินการศึกษาและลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 10.2 เมกกะวัตต์ ที่เมืองคันไซ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีมูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้รับสัมปทานในการขายไฟฟ้าเป็นเวลา 20 ปี และสามารถขายไฟฟ้าในอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ Feed-in-Tariff หน่วยละ 40 เยน โดยคาดว่าจะดำเนินการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าของญี่ปุ่นได้ในปี 2558 และรับรู้รายได้ไตรมาส 4/2558
"การร่วมลงทุนจัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่นในครั้งนี้ CSS จะลงทุนในสัดส่วน 50% โดยบริษัทมีการจัดหาแหล่งเงินทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเรามีความมั่นใจและเชื่อมั่นว่า การร่วมลงทุนในครั้งนี้ จะช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจของบริษัท อีกทั้งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และทำให้รายได้และกำไรของบริษัทเติบโตยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศและกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจ โดย CSS มองว่าในอนาคตตลาดการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่นยังน่าสนใจและยังเปิดกว้าง เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นพยายามหาแหล่งพลังงานด้านอื่น ๆ เพื่อลดการพึ่งพิงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ทำให้พลังงานทดแทนจากโซลาเซลล์และพลังงานทดแทนด้านอื่น ๆ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก ” นายสมพงษ์กล่าวในที่สุด
เขากล่าวต่อถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส4/2557 คาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นเนื่องจากได้รับอานิสงส์จากธุรกิจโทรคมนาคมและธุรกิจเทรดดิ้งที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่ารายได้ทั้งปีจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 4 ,000 ล้านบาท ส่วนกำไรจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน ขณะที่ภาพรวมธุรกิจของบริษัทในปี 2558 เชื่อว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นเช่นกัน โดยบริษัทยังคงเข้าประมูลงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีนโยบายที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยประเมินว่าธุรกิจพลังงานทดแทนยังเป็นธุรกิจที่มีความโดดเด่น เป็นพลังงานทางเลือกที่เป็นที่ต้องการของตลาด และยังสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศอีกด้วย