กรุงเทพฯ--5 ม.ค.--ไนกี้ กอล์ฟ
ทีมวิศวกรของไนกี้ได้ตั้งเป้าหมายให้ไดร์ฟเวอร์ Vapor Flex ชุดนี้เป็นไดร์ฟเวอร์ที่ให้ระยะทางเฉกเช่นเดียวกับ Vapor Pro และVapor Speed
ไดร์ฟเวอร์ ไนกี้ Vapor Flex เป็นไดร์ฟเวอร์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ด้วย 3 เทคโนโยลีหลักที่ใช้ในไดร์ฟเวอร์ เวเปอร์ โปร (Vapor Pro)และ เวเปอร์ สปีด (Vapor Speed)
เทคโนโลยี FlyBeam ที่รวมไว้กับการออกแบบ Covert Cavity Back เทคโนโลยี Compression Channel ซึ่งจะช่วยส่งพลังให้ลูกออกจากหน้าไม้เช่นเดียวกับสปริงและเทคโนโลยี FlexLoft 2 จะช่วยให้นักกอล์ฟสามารถปรับลอฟท์ได้ถึง 5 แบบ ปรับมุมหน้าไม้ได้ 3ระดับ รวมการปรับลอฟท์ และระดับหน้าไม้ได้ถึง 15 ตำแหน่ง ด้วยเทคโนโลยีที่ประสานกันเช่นนี้ทำให้ส่งพลังไปสู่ลูกกอล์ฟได้มากขึ้น ได้ระยะทางเพิ่มขึ้นไม่ว่าคุณจะมีวงสวิงเช่นไร
แต่ไนกี้กอล์ฟไม่ได้หยุดการสร้างสรรค์ ไดร์ฟเวอร์ Vapor Flex ไว้เพียงแค่นั้น ทีมวิศวกรของไนกี้ยังได้คิดค้นเทคโนโลยีที่ช่วยให้นักกอล์ฟควบคุมวิถีที่ลูกออกจากหน้าไม้ได้สูงสุด ด้วยการคิดค้นเทคโนโลยี FlexFlight ความพิเศษของ FlexFlight คือ มีหลอดบรรจุเรซินที่มีความยืดหยุ่นสูงอยู่ด้านในซึ่งจะสอดไว้ในท่อที่ด้านล่างของหัวไม้ ที่เรียกว่า FlightPod ด้วยการปรับ FlightPod นักกอล์ฟสามารถปรับจุดศูนย์ถ่วงหน้าไม้ไปในทิศทางที่เข้ากับวงสวิงของตนเอง เพื่อให้ลูกเหินออกจากหน้าไม้ในวิถีทางที่ดีที่สุด
เทคโนโลยี FlexFlight นักกอล์ฟสามารถปรับแต่งจุดศูนย์ถ่วงของหัวไม้ตั้งแต่ด้านล่าง จนถึงด้านหน้า รวมถึงแนวล่างและแนวบน ด้วยการปรับระดับที่หลอดเรซินด้วยอุปกรณ์เสริมชนิดเดียวกันกับที่ใช้ปรับ FlexLoft2 การใช้ประโยชน์จาก เทคโนโลยีระบบ FlexFlight จะส่งผลกระทบต่อระดับการเหินของลูกเมื่ออกจากหน้าไม้ ความเร็วที่หน้าไม้กระทบลูก และค่าชดเชยความผิดพลาด (เพิ่มขึ้นในขณะที่ปรับจุดศูนย์ถ่วงระดับกลาง) และทำงานได้ดีขึ้น (ในขณะที่จุดศูนย์ถ่วงอยู่ต่ำ)
เนท ราดคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการด้านวิศวกรรมของไนกี้กอล์ฟกล่าวว่า “มีหลายครั้งขณะที่เรากำลังทดสอบไม้กับนักกีฬา นั่นเป็นโอกาสสุดท้ายที่ให้เราสามารถปรับแต่งรูปแบบของหัวไม้และระดับการเหินของลูกที่นักกีฬาของเราต้องการ และเทคโนโลยี FlexFlight ได้เข้ามามีบทบาท ด้วยการหมุนเพียงง่ายๆ ก็สามารถปรับแต่ง FlexFlight ให้ไปข้างหน้า หรือหลังภายในหัวไม้ได้ตามต้องการซึ่งจะช่วยเสริมเรื่องวิถีของลูกให้แก่นักกีฬาของเรา ด้วยการปรับแต่งดังกล่าว เราพบว่าการปรับเพียง 2 มิลลิเมตร ช่วยปรับวิถีของลูกให้เหินขึ้นได้ 1 องศา ซึ่งเพิ่มการหมุนของลูกได้ถึง 300 รอบต่อนาที และในขั้นตอนสุดท้ายของการปรับแต่งไม้ คือการทำให้นักกีฬาของเรารู้สึกมั่นใจและสามารถใช้ไม้เล่นจริงได้ในสนาม”
เทคโนโลยี FlexFlight นั้น ง่ายต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก ด้วยด้านหลังหัวไม้จะมีหลอดบรรจุเรซิน ขนาด 15 กรัมที่สอดไว้ในท่อFlightPod ด้วยการใช้อุปกรณ์ปรับแต่งที่ให้มา นักกอล์ฟสามารถหมุนซ้าย ขวา จนได้ยิน เสียง “คลิก”ก็สามารถเปิดและปิดล็อกท่อนี้ได้ ขณะที่ไม่ได้ใช้งานก็สามารถถอด FlightPod นี้ออกได้ และสามารถใส่กลับเข้าไปใหม่ได้อย่างง่ายดาย
“ด้วยพลังของเรซิน ที่ช่วยให้สามารถย้ายจุดศูนย์ถ่วงไปในทิศทางที่ต้องการภายในหัวไม้ เพราะมีเทคโนโลยีในการจัดการปรับน้ำหนักที่ดีเยี่ยม เทคโนโลยีเรซินซึ่งเป็นคุณสมบัติที่พบได้ในชุดเหล็ก Vapor และจากแกนกลางของลูกกอล์ฟรุ่นเรซิน”
ไดร์ฟเวอร์ Vapor Flex จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 นี้
Nike Vapor Flex
เริ่มจำหน่าย: 1 กุมภาพันธ์ 2558
คุณสมบัติเฉพาะ: 8.5° – 12.5° loft; Diamana S+ 60G (Blue Board) shaft; RH/LH: R, S, X flex