กรุงเทพฯ--5 ม.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ ๑/๒๕๕๘ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ
เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น ๘ อาคารใหม่ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สะพานขาว กรุงเทพฯ
พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จากกรณีสามีอายุ ๔๕ ปี ออกไปหาปลาและเป็นลมจมน้ำเสียชีวิต ทิ้งภาระให้ภรรยา ดูแลลูกชายจำนวน ๒ คน ที่กำลังอยู่ในวัยเรียน ซึ่งครอบครัวมีฐานะยากจนไม่มีเงินค่าทำศพ ต้องให้มูลนิธินำไปไว้ที่สุสานศพไร้ญาติ ที่จังหวัดชุมพร ซึ่งกรณีนี้ ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร (พมจ.ชุมพร) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าวในเบื้องต้น พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้านการศึกษาให้เด็กทั้ง ๒ คน และดูแลพัฒนาคุณภาพชีวิตครอบครัวดังกล่าวในระยะยาวให้ดีขึ้น สำหรับกรณีเด็กชายวัย ๔ เดือน ป่วยเป็นโรคประหลาด ศีรษะโตผิดปกติ ซึ่งแพทย์ระบุว่าเด็กจะมีอายุอยู่ได้ไม่นาน ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยกรณีดังกล่าวตนได้สั่งการให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา (พมจ.นครราชสีมา) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าวในเบื้องต้น พร้อมทั้งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลให้เด็กชายดังกล่าวต่อไป ส่วนกรณีเด็กหญิงอายุ ๑๓ ปี อาศัยอยู่กับตาและยาย ถูกคนในหมู่บ้านจำนวน ๖ คน รุมข่มขืนจนตั้งครรภ์และคลอดลูกออกมาแต่ทารกเสียชีวิต ที่จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งกรณีนี้ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยภูมิ (พมจ.ชัยภูมิ) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าวในเบื้องต้น พร้อมทั้งเยียวยาสภาพจิตใจเด็กหญิงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมต่อไปได้
พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีฆ่ายกครัว ๕ ศพ ภายในอาคารพาณิชย์ซอยอินทรพิทักษ์ แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ โดยมีจดหมายลาตาย ๑ ฉบับ ซึ่งเบื้องต้นตำรวจเชื่อว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตายมากกว่าจะเป็นการฆาตกรรม โดยกรณีนี้ขอให้เป็นกรณีปัญหาสังคมตัวอย่างที่ควรเอาไว้ศึกษา ทั้งนี้ หากเกิดปัญหาต่างๆในครอบครัวควรมีสติในการแก้ปัญหา ไม่ควรแก้ไขปัญหาโดยวิธีฆ่าตัวตาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นในสังคมอีก