กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--จีเอชซี เอเซีย
- มีการส่งมอบรถให้ลูกค้าถึง 4,063 คัน ในปี 2557 (+12%)
- ปีที่ 5 แห่งสถิติยอดขายสูงสุดติดต่อกัน และยอดขายสูงสุดในประวัติศาสตร์ 111 ปีของแบรนด์
- เครื่องตอกย้ำการเป็นผู้นำแห่งภาคส่วนยนตรกรรมหรู (ราคาสุทธิมากกว่า 200,000 ยูโรขึ้นไป)
- การปรับแต่งรถยนต์ในแบบของตัวเองของบริการบีสโป๊กได้รับความนิยมสูงสุดเท่าที่เคยมีมา
- อเมริกาเหนือทำสถิติยอดขายในภูมิภาคสูงสุด แซงหน้าตะวันออกกลางและจีน
- สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุด
- มีการสร้างตำแหน่งงานใหม่ถึง 200 ตำแหน่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
- กำลังดำเนินการขยายกิจการครั้งใหญ่ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ
- ผลประกอบการช่วยตอกย้ำสถานะของโรลส์-รอยซ์ ในฐานะผู้ผลิตยนตรกรรมหรูชั้นนำของโลก
วันนี้ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส เปิดเผยสถิติยอดขายสูงสุดติดต่อกันเป็นปีที่ 5 โดยมีการขายรถยนต์ได้มากถึง 4,063 คันทั่วโลกในปี 2557 ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมนี้แสดงให้เห็นว่ายอดขายรถยนต์ของบริษัทเพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เท่าตั้งแต่ปี 2552
ทั่วโลกมีการรายงานยอดขายที่น่าประทับใจ โดยมีอัตราการเติบโตเป็นเลขสองตัวในภูมิภาคต่างๆ ส่วนใหญ่ เช่น อเมริกาเหนือ (เพิ่มขึ้น 30%), ตะวันออกกลาง (เพิ่มขึ้น 20%) และยุโรป (เพิ่มขึ้น 40%) สหรัฐอเมริกายังเป็นตลาดเดี่ยวที่สำคัญที่สุดของบริษัท ส่วนตลาดที่บ้านของโรลส์-รอยซ์ อย่าง สหราชอาณาจักร เป็นตลาดเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของบริษัท (เพิ่มขึ้น 13%)
ส่วนยุโรปมีการเติบโตมากขึ้นในตลาดหลายๆ แห่ง โดยที่เยอรมนีมีตลาดเติบโตขึ้น 30% ในขณะที่เอเชียแปซิฟิก ออสเตรเลีย เติบโตขึ้น 75%, ญี่ปุ่น 60% และเกาหลี 20% ในตะวันออกกลาง มีตลาดที่เติบโตอย่างโดดเด่น ได้แก่ บาห์เรน (เพิ่มขึ้น 50%), คูเวต (เพิ่มขึ้น 45%) และโอมาน (เพิ่มขึ้น 27%) ส่วนตลาดใหม่อย่างอาเซอร์ไบจาน คาซัคสถาน และเวียดนาม ต่างแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ดีในการเติบโตต่อไปในอนาคต
ผู้ขายโรลส์-รอยซ์ ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในปี 2557 คือ ผู้ขายโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ในอาบูดาบี ตามความมุ่งมั่นของแบรนด์ที่มีต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ได้มีการเปิดตัวผู้ขายใหม่ 6 แห่งในปี 2557 ได้แก่ เม็กซิโก แคลกะรี ในแคนาดา และโกลด์โคสต์ ในออสเตรเลีย ปัจจุบันมีผู้ขาย 127 รายดำเนินการอยู่และจะมีการเพิ่มจำนวนขึ้นอีกในปี 2558
มร. ทอร์สตัน มูเลอร์-ออทเวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จํากัด กล่าวว่า “การทำสถิติยอดขายสูงสุดติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ของโรสล์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส เป็นการทำยอดขายทะลุระดับ 4,000 คันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 111 ปีของบริษัท ผลประกอบการนี้ช่วยยืนยันว่า กลยุทธ์ของการเติบโตที่สมดุล ยั่งยืน และทำกำไรของเราได้ผล และโรลส์-รอยซ์ ยังคงเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์หรูชั้นนำของโลก ความสำเร็จที่โดดเด่นนี้สร้างเสริมมาจากรากฐานที่มั่นคง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์คุณภาพเป็นเลิศ บุคลากรที่ใส่ใจ และความมุ่งมั่นที่มีต่อภาพรวมยอดขายทั่วโลกที่สมดุล”
ยอดขายในปีที่ผ่านมาเป็นผลมาจากความต้องการอย่างท่วมท้นในตัวรถยนต์ รุ่น โกสต์ ซีรีส์ II ซึ่งเปิดตัวไปในเดือนพฤศจิกายน และรถยนต์ รุ่น เรธ ซึ่งทำยอดขายได้อย่างดีตลอดช่วงปีแรกที่เปิดตัว ส่วนรถยนต์ รุ่น แฟนธอม ยังคงเป็นเป็นตระกูลยนตรกรรมยอดนิยมของบริษัทที่ไม่มีใครเทียบเท่าได้
รถยนต์คอลเลคชั่น บีสโป๊ก ซึ่งประกอบด้วย ยนตรกรรมวอเทอร์สปีด (Waterspeed), พินนาเคิลทราเวล (Pinnacle Travel), และเมโทรโพลิตัน (Metropolitan) ตลอดจนผลงานสุดล้ำอย่าง มหาราชา (Maharajah) แฟนธอม ครอปเฮด คูเป้ ช่วยให้โรลส์-รอยซ์ ยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์โดยเฉพาะในแง่ของการปรับแต่งรถยนต์ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร ในปี 2557 โรลส์-รอยซ์ สร้างสถิติยอดขายอีกครั้ง โดยสามารถขายรถยนต์ราคาสุทธิมากกว่า 200,000 ยูโรขึ้นไปได้มากกว่าผู้ผลิตรายอื่นๆ ในภาคส่วนยนตรกรรมหรู
ในปี 2557 ยังเป็นปีแรกที่รถยนต์ รุ่น แฟนธอม ทุกคัน รวมถึงรถยนต์ รุ่น โกสต์ และเรธ ส่วนใหญ่ ได้รับการตกแต่งเฉพาะในบริการบีสโป๊กก่อนส่งออกจากบ้านของโรลส์-รอยซ์ ที่โรงงานกู้ดวูดในเวสต์ซัสเซ็กส์ ประเทศอังกฤษ จำนวนลูกค้าที่ใช้เวลาหารือกับที่ปรึกษาด้านการออกแบบของบริการบีสโป๊กของโรลส์-รอยซ์ เพื่อสั่งทำรถยนต์ในแบบเฉพาะตัว เพิ่มขึ้นทำลายสถิติเดิม
การตอบสนองความต้องการที่ท่วมท้นดังกล่าว โดยเฉพาะสำหรับยนตรกรรมในบริการบีสโป๊ก ทำให้บริษัทได้สร้างตำแหน่งงานประจำขึ้นใหม่กว่า 200 ตำแหน่งในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบันมีการว่าจ้างพนักงานมากกว่า 1,500 คนที่บ้านของโรลส์-รอยซ์
เครื่องยืนยันเพิ่มเติมถึงความมุ่งมั่นของโรลส์-รอยซ์ ที่มีต่อการขยายกิจการในเกาะบริเตนใหญ่ได้เปิดเผยขึ้นในเดือนกันยายน เมื่อบริษัทประกาศแผนการก่อตั้งศูนย์เทคโนโลยีและโลจิสติกส์แห่งใหม่ที่บอกนอร์รีจิส ใกล้ๆ กับกู้ดวูด การก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติงานใหม่พื้นที่ 30,000 ตร.ม. นี้คาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมเปิดทำการในปี 2559 โดยขณะนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างอย่างราบรื่น และจะมีการว่าจ้างพนักงานประมาณ 200 คน ทั้งพนักงานใหม่และพนักงานจากฝ่ายเทคโนโลยีและฝ่ายโลจิสติกส์ที่มีอยู่เดิม
มร. วินซ์ เคเบิล เลขานุการฝ่ายธุรกิจ กล่าวว่า “ยนตรกรรมของโรลส์-รอยซ์ มีชื่อเสียงไปทั่วโลก โดยมีจำนวนรถยนต์ที่ส่งออกไปต่างประเทศเพิ่มมาขึ้นเรื่อยๆ ทักษะและความทุ่มเทของพนักงานที่อังกฤษของเรา ช่วยนำเราไปสู่อีกหนึ่งปีแห่งความสำเร็จ”
“อุตสาหกรรมยานยนต์ของสหราชอาณาจักรกำลังทำงานอย่างหนักโดยมีการผลิตรถยนต์ใหม่ออกมาทุกๆ 20 วินาที และมีระดับการลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งช่วยให้ผู้คนในท้องถิ่นมีงานทำ เราสนับสนุนบริษัทอย่างโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ในการเติบโตแต่ละขั้น ผ่านกลยุทธ์ด้านอุตสาหกรรมของเรา ด้วยการมอบสภาพแวดล้อมที่ดีในการลงทุนอย่างมั่นใจ และสร้างงานที่ต้องใช้ทักษะสูง”