TPCH เข้าเทรดตลาด mai ตัวแรกของปี สร้างผลตอบแทนสุดประทับใจ ราคาพุ่งสูงสุด 15.60 บาท สะท้อนปัจจัยพื้นฐานแกร่ง อนาคตเจ้าของกิจการโรงไฟฟ้ากำลังการผลิต150MW

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 8, 2015 17:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--IR network TPCH หุ้นน้องใหม่ป้ายแดง ตลาดหลักทรัพย์ mai เข้าเทรดตัวแรกของปีแพะ ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง ปิดตลาดที่ราคา 13.90 บาท หรือเพิ่มขึ้น 9.02% จากราคาไอพีโอที่ 12.75 บาท ระหว่างวันราคาพุ่งสูงสุดถึง 15.60 บาท ผู้บริหารคนรุ่นใหม่ไฟแรง “เชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล” ปลื้มนักลงทุนให้การตอบรับดีเยี่ยม พร้อมเปิดแผนธุรกิจปี58 เดินหน้านำเงินที่ได้จากการขายหุ้นไอพีโอจำนวน 1.11 พันล้านบาท ไปก่อสร้างและดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มอีก 6 แห่ง ตั้งเป้าภายใน 3-5 ปีข้างหน้า เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 150 เมกะวัตต์ วันนี้ (8 ม.ค.58) บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยเปิดตลาดที่ระดับ 14.30 บาท เพิ่มขึ้น 12.16% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาไอพีโอที่ 12.75 บาท/หุ้น ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายราคาหุ้นปรับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 15.60 บาท และปิดตลาดที่ 13.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.15 บาท หรือ 9.02% มูลค่าการซื้อขาย 4,689.38 ล้านบาท นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) เปิดเผยว่า ขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้การตอบรับหุ้น TPCH เป็นอย่างดีจนกระทั่งราคาหุ้นสามารถยืนเหนือราคาโอพีโอที่ 12.75 บาทต่อหุ้น ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อธุรกิจและแผนการดำเนินงานในอนาคตของบริษัท โดยเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ประมาณ 1,111 ล้านบาท จะแบ่งเป็นจำนวนประมาณ 750 ล้านบาท บริษัทจะนำไปใช้ก่อสร้างและดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มอีก 6 แห่ง หรือคิดเป็นกำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ ภายในระยะเวลา 3 ปี ข้างหน้า ส่วนเงินที่เหลืออีกกว่า 300 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนสำรองและเป็นทุนหมุนเวียนที่จะสามารถนำไปทำโครงการโรงไฟฟ้าเพิ่มหรือซื้อโรงไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นและจะสามารถเพิ่มโอกาสของกลุ่มบริษัทที่จะมีกำลังการผลิตได้ 150 เมกกะวัตต์ ภายใน 5 ปี ข้างหน้า ตามแผนงานที่วางไว้ “ขณะนี้โรงไฟฟ้า 3 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้าที่มหาชัย แม่วงศ์ และที่ทุ่งสัง มีความคืบหน้าในด้านการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรไปมากแล้ว จึงคาดว่าน่าจะก่อสร้างเสร็จและขายไฟฟ้าได้ในปี 2558 ตามแผนที่บริษัทได้วางไว้ ส่วนโรงไฟฟ้าที่สตูลและพัทลุง ตอนนี้ก็ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง. 4) เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นบริษัทจึงมีความพร้อมที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ทันที ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มบริษัทเริ่มมีรายได้เพิ่มจาก 2 โรงไฟฟ้านี้ในปี 2559 ส่วนโรงไฟฟ้าที่ปัตตานี ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)” นายเชิดศักดิ์ กล่าวในที่สุด ด้านนางสาวอนงค์ ยุวะหงษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH เปิดเผยว่า นักลงทุนให้การตอบรับหุ้น TPCH อย่างดีมาก เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ประกอบกับผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตที่ดีและต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ มีประสบการณ์ทำงานมายาวนานด้วยความเชี่ยวชาญ ขณะเดียวกันยังเป็นบริษัทที่มีแผนการขยายธุรกิจและการดำเนินงานในระยะเวลา 3-5 ปี ข้างหน้าที่ชัดเจน ดังนั้นจึงมั่นใจว่าหลังจากที่หุ้น TPCH เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) แล้วจะสร้างผลตอบแทนที่ดีและน่าประทับใจให้กับนักลงทุน “เชื่อว่า TPCH จะเดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยประสบการณ์ทำงานที่ยาวนานและเป็นมืออาชีพ เป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนประเภทต่างๆ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีอนาคตได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และบริษัทมีแผนขยายธุรกิจและการดำเนินงานในระยะเวลา 3-5 ปี ข้างหน้าที่ชัดเจน จึงมั่นใจว่า TPCH จะสร้างผลตอบแทนที่ดีและน่าประทับใจให้กับนักลงทุน” นางสาวอนงค์ กล่าวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ