ก.ล.ต. เดินหน้ารวม AFET กับ TFEX พร้อมรับโอนงานและบุคลากรจาก ก.ส.ล.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 9, 2015 10:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ม.ค.--สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ก.ล.ต. เดินหน้ารวมตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (“AFET”) กับตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (“TFEX”) พร้อมรับโอนงานและบุคลากรจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (“ก.ส.ล.”) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2557 นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า “คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติเห็นชอบแนวทางดำเนินการรองรับการรวม AFET กับ TFEX ซึ่งการรวมตลาดดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลดีต่อประเทศในด้านการประหยัดต่อขนาด (economy of scale) และอำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนสามารถทำธุรกรรมได้ในตลาดเดียว ซึ่งจะยกระดับความสามารถในการแข่งขันของตลาดซื้อขายล่วงหน้าของไทยสู่ระดับสากล ซึ่ง ก.ล.ต. ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปได้อย่างราบรื่น โดยพิจารณาใน 3 ด้านหลัก คือ (1) ด้านสินค้าและตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า (2) ด้านผู้ประกอบธุรกิจ และ (3) ด้านบุคลากร (1) ในด้านสินค้าและตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ก.ล.ต. จะดำเนินการให้สินค้าเกษตรมาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลตาม พ.ร.บ. สัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด และให้ TFEX สามารถออกและเปิดให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงสินค้าเกษตรได้ โดยในช่วงแรกให้ซื้อขายควบคู่ไปกับตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าก่อน เพื่อให้การซื้อขายมีความต่อเนื่องและไม่กระทบต่อผู้ลงทุน (2) ด้านผู้ที่ประกอบธุรกิจสินค้าเกษตรล่วงหน้าอยู่แล้ว ก.ล.ต. จะออกเกณฑ์รองรับให้มาขออนุญาตประกอบธุรกิจตาม พ.ร.บ. สัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯ ได้ โดยอ้างอิงเกณฑ์กำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจตาม พ.ร.บ. สัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯ ในปัจจุบัน แต่จะผ่อนปรนบางเรื่องไประยะหนึ่ง อาทิ คุณสมบัติของผู้ยื่นขอรับใบอนุญาต ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว การดำรงเงินกองทุน เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถให้บริการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงสินค้าเกษตรใน TFEX ได้อย่างต่อเนื่อง และขณะเดียวกันผู้ลงทุนก็ได้รับความคุ้มครองและไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของระบบโดยรวม และ (3) ด้านบุคลากร ก.ล.ต. ยินดีรับบุคลากรของ ก.ส.ล. ที่สมัครใจเข้าปฏิบัติงานที่ ก.ล.ต. ในตำแหน่งที่เหมาะสมโดยพิจารณาตามความรู้ความสามารถและประสบการณ์ และเงินเดือนไม่น้อยกว่าเดิมรวมทั้งดูแลให้ได้รับสวัสดิการที่เทียบเท่าบุคลากรของ ก.ล.ต. ในตำแหน่งที่เทียบเท่ากันด้วย” ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจาก ก.ล.ต. ได้ที่ โทรศัพท์ 0-2263-6053 หรือ 0-2263-6255

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ