กรุงเทพฯ--12 ม.ค.--กระทรวงสาธารณสุข
นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพนานาชาติแห่งเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 12 ( 12th Asian Congress of Health Promotion) ที่จัดขึ้น โดย กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ณ รร.เดอะสุโกศล กทม.
รมช.สธ. ได้กล่าวว่า ในสังคมปัจจุบันปัญหาสุขภาพมีความหลากหลาย ซับซ้อนและเป็นปัญหาหนึ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชน หากเราปล่อยปละละเลยไม่ดูแลช่วยเหลือ เด็กจะเสียโอกาสในการพัฒนาตามวัย เกิดเป็นปัญหาที่ซับซ้อนตามมา เป็นภาระต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติในที่สุด ในทางตรงกันข้าม หากได้รับการส่งเสริมป้องกันสุขภาพอย่างเหมาะสม เด็กในวันนี้ก็จะมีการพัฒนาเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคจึงเป็นแนวทางหลักที่มีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาสาธารณสุขซึ่งได้มีการดำเนินการและพัฒนาการมาอย่างยาวนาน และปัจจุบันการสร้างเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชากรไทยตลอดช่วงชีวิต เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญและได้มีการดำเนินการอย่างเข้มข้นในขณะนี้
รมช.สธ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพนานาชาติแห่งเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 12 นี้ (12th Asian Congress of Health Promotion ) ได้เริ่มต้นจากความร่วมมือระหว่าง เมืองหลงหัว (Longhua Town) ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และมหาวิทยาลัยคุมาโมโต้ (Kumamoto University) จากประเทศญี่ปุ่น โดยจัดขึ้นที่เมืองหลงหัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2546 หลังจากนั้นในสามปีต่อมา ได้ประกาศความมุ่งมั่นในการขยายเครือข่ายแห่งความร่วมมือระหว่างประเทศในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพในระดับนานาชาติให้ครอบคลุมทั่วทั้งเอเชียตะวันออก มีสมาชิกเข้าร่วมและผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ ทั้งในเมืองต่างๆ ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลี ล่าสุดจัดที่เมืองหนานหนิง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยในครั้งที่ 12 นี้เป็นอีกหนึ่งขั้นที่สำคัญในการก้าวสู่เครือข่ายที่กว้างขวางขึ้น มีประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สนใจเข้าร่วมเพิ่มเติม ได้แก่ ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และไทย
การจัดประชุม มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีวิชาการในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยีระหว่างนักวิชาการด้านสาธารณสุข ด้านการแพทย์ และด้านการศึกษาของหน่วยงานในระดับประเทศและต่างประเทศ เช่น มหาวิทยาลัยคุมาโมโต้ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลี ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และไต้หวัน ซึ่งครั้งนี้เป็นการสร้างความร่วมมือโดยประเทศไทยหรือกรมสุขภาพจิตเป็นเจ้าภาพหลักและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานในต่างประเทศอันเป็นสนธิสัญญาด้านการส่งเสริมสุขภาพและแลกเปลี่ยนความรู้ในภูมิภาค โดยมุ่งหวังให้ ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการพัฒนาสติปัญญาเด็กไทยของบุคลากรเครือข่ายทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง รมช.สธ.กล่าว
ด้าน นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า การประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพนานาชาติแห่งเอเชียตะวันออก ในครั้งที่ 12 นี้ เจ้าภาพหลัก คือ กรมสุขภาพจิต โดย สถาบันราชานุกูล ซึ่งได้กำหนดประเด็นความสำคัญขยายจากการส่งเสริมสุขภาพโดยรวม เป็นการให้ความสนใจต่อสุขภาพของเด็ก ภายใต้หัวข้อ เรื่อง “Our Children Our Future” เพราะเด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญและการที่พวกเขาจะเติบโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพก้าวสู่วัยผู้สูงอายุที่มีคุณภาพชีวิตดีได้นั้น จำเป็นต้องได้รับการดูแลส่งเสริมสุขภาพและป้องกันปัญหาสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอย่างต่อเนื่อง
การประชุมวิชาการในครั้งนี้ มีสมาชิกจากประเทศต่างๆ เข้าร่วม 6 ประเทศ เป็นชาวต่างชาติประมาณ 60 คน และชาวไทยอีกประมาณ 250 คน จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และไทย อีกทั้งยังมีตัวแทนจากองค์กรยูนิเซฟ ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเข้าร่วมด้วย ซึ่งครอบคลุมผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กทั้งภาครัฐและเอกชน นับตั้งแต่อาสาสมัครด้านสุขภาพ ครูพี่เลี้ยงจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครู นักการศึกษาพิเศษ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาจารย์จากมหาวิทยาลัยในแขนงต่างๆ พยาบาล ทันตแพทย์ แพทย์เฉพาะทางและนักวิจัย ประกอบด้วย การนำเสนอสถานการณ์ของเด็กและวัยรุ่นในเอเชีย องค์ความรู้และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านเด็กจากนานาประเทศในหลากหลายมุมมองทางวิชาชีพตลอดจนสถานการณ์ทางสังคม เช่น ความสำคัญของนโยบายภาครัฐต่อการพัฒนาเด็ก แนวทางการส่งเสริมสุขภาพอย่างเป็นองค์รวม ซึ่งรวมถึง การดูแลการเจริญเติบโต ความก้าวหน้าทางทันตกรรม และการดูแลทางจิตใจตลอดจนสิ่งแวดล้อมทางสังคมในเด็กช่วงวัยต่างๆ การดูแลทางการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการของเด็ก นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอนิทรรศการความสำเร็จและต้นแบบกิจกรรมที่ดีจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจากชุมชน ผลการศึกษาอิทธิพลของเชื่อมโยงเด็กเล็กเข้าสู่การบริบาลผู้สูงอายุ รวมถึงประเด็นของจริยธรรมทางการแพทย์ที่น่าสนใจในยุคปัจจุบัน ตลอดจน ตัวอย่างความสำเร็จของสถาบันราชานุกูลและสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (Asian Institute of Technology) ในการร่วมพัฒนาเครือข่ายการเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับนานาชาติภายใต้การสนับสนุนของธนาคารโลก อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว