กรุงเทพฯ--13 ม.ค.--พีอาร์ดีดี
นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯเตรียมที่จะเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุน Mid/Small Cap(SCB Mid/Small Cap Equity Fund) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท
เนื่องจากในขณะนี้ระดับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบันได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ในช่วงที่น่าสนใจลงทุนแล้วและมองว่าเป็นจังหวะตลาดที่เหมาะสมในการลงทุนหุ้นขนาดกลางและเล็กโดยกำหนดให้เปิดจองซื้อระหว่าง วันที่ 15 – 20 ม.ค. 2558ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกเพียง 5,000 บาท และครั้งถัดไปเพียง 1,000บาท
สำหรับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุน Mid/Small Capมีนโยบายลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กซึ่งเป็นหุ้นที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ไม่รวมอยู่ในดัชนีSET50 และ/หรือลงทุนในหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอมีการบริหารการลงทุนแบบเชิงรุกมุ่งเน้นหุ้นที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสูงและต่อเนื่องตลอดจนเน้นการลงทุนระยะยาว
ทั้งนี้จะเลือกลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอาทิ กลุ่มส่งออก กลุ่มที่มีกิจการต่างประเทศ กลุ่มท่องเที่ยวและจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง อาทิ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและการค้าปลีกกลุ่มขนส่ง รวมถึงการลงทุนและการพัฒนาสาธารณูปโภคต่าง ๆ อาทิกลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง กลุ่มสื่อสารโทรคมนาคมและระบบไอที เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังรวมถึงหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวมีการเติบโตของกำไรในระดับดีอย่างต่อเนื่องและมีมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจลงทุน
นายสมิทธ์ กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนในปี 2558การลงทุนในตลาดทุนยังเป็นสินทรัพย์ที่จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวมและจากการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินของประเทศเศรษฐกิจสำคัญ
ส่งผลทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำและมีเม็ดเงินสภาพคล่องเข้ามาในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของตลาดหลักทรัพย์ในหลายภูมิภาค
สำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจไทย คาดว่าจีดีพีจะปรับตัวดีขึ้นที่ระดับ 3 –3.5% และอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิของดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะปรับตัวขึ้นประมาณ15% เนื่องจากฐานกำไรสุทธิที่ค่อนข้างต่ำในปี 2557 โดยบลจ.ไทยพาณิชย์ได้ประมาณการณ์เป้าหมายของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงปลายปี 2558อยู่ระหว่าง 1,664 – 1,792 จุด ที่ระดับค่า P/E ที่ 13 – 14 เท่าซึ่งเมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบันที่ 1,500จุดยังคงมีโอกาสที่ปรับตัวขึ้นไม่ต่ำกว่า 10%