กรุงเทพ--10 พ.ย.--บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)
บริษัทยางสยาม จำกัด (มหาชน) เซ็นสัญญาร่วมกับ ฟุคส์ ประเทศเยอรมนี บริษัทผู้ผลิตน้ำมันหล่อลื่นชั้นนำของโลก จัดตั้งบริษัทสยาม-ฟุคส์ ลูบริแคนท์ส จำกัด เพื่อร่วมพัฒนาตลาดน้ำมันหล่อลื่นสำหรับอุตสาหกรรมและยานยนต์ในประเทศไทย
นายชลาลักษณ์ บุนนาค ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทยางสยาม จำกัด (มหาชน) ในเครือซิเมนต์ไทย ได้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฟุคส์ ลูบริแคนท์ส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นสำหรับอุตสาหกรรมในประเทศไทย ของฟุคส์ประเทศเยอรมนี และเปลี่ยนซื่อเป็นบริษัทสยาม-ฟุคส์ ลูบริแคนท์ส โดยบริษัทยางสยามถือหุ้นร้อยละ 49
"เครือซิเมนต์ไทยเข้าร่วมดำเนินธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นกับฟุคส์ เนื่องจากเครือฯ มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลและยานยนต์หลายชนิด เช่น ชิ้นส่วนอุปกรณ์ยานยนต์ ยางรถยนต์ แบตเตอรี่ และอื่น ๆ การดำเนินธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น จึงช่วยให้เครือฯ มีสินค้าครบตามความต้องการของลูกค้า ทั้งยังใช้ช่องทางการจำหน่ายร่วมกับสินค้าเดิมได้" นายชลาลักษณ์กล่าว
ดร.แมนเฟรด ฟุคส์ ประธานกรรมการ ฟุคส์ ประเทศเยอรมนี เปิดเผยเหตุผลการร่วมทุนกับเครือฯ ว่า นอกจากเชื่อมั่นในประสิทธิภาพการบริหารงาน และจริยธรรมในการดำเนินงานของเครือซิเมนต์ไทยแล้ว ยังเชื่อในศักยภาพการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในระยะยาวอีกด้วย เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจปัจจุบันเป็นเพียงปัญหาชั่วคราว ดังนั้นการใช้น้ำมันหล่อลื่นคุณภาพสูงจึงน่าเพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจที่จะเจริญเติบโตต่อไป จึงเป็นโอกาสดีในการร่วมมือขยายตลาดน้ำมันหล่อลื่นของทั้งสองบริษัท
บริษัทสยาม-ฟุคส์ ยังมีแผนก่อตั้งโรงงานผสมน้ำมันหล่อลื่นในอนาคต โดยใช้น้ำมันพื้นฐาน (Base Oil) ที่ผลิตได้ในประเทศเป็นวัตถุดิบหลัก เพื่อลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ และยังมีแผนในการส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่าง ๆ ในอินโดจีน เอเชียและยุโรป เพื่อนำเงินตราต่างประเทศมาลดการขาดดุลการค้าของไทย
"ตลาดน้ำมันหล่อลื่นในประเทศไทยมีศักยภาพการเจริญเติบโตสูง โดยปี 2539 มีความต้องการประมาณ 400,000 ตัน มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็นน้ำมันหล่อลื่นสำหรับยานยนต์ ร้อยละ 75 น้ำมันหล่อลื่นอุตสาหกรรม ร้อยละ 20 และจาระบี ร้อยละ 5 สำหรับความต้องการใช้น้ำมันหล่อลื่นภายในเครือฯ มีประมาณปีละ 13,500 ตัน มูลค่ารวม 365 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นลูกค้าเบื้องต้นของบริษัทสยาม-ฟุคส์" นายชลาลักษณ์กล่าวในที่สุด--จบ--