อย. แนะใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายอย่างปลอดภัย

ข่าวทั่วไป Wednesday July 21, 1999 15:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--21 ก.ค.--อย.
อย. แนะผู้บริโภค ควรซื้อผลิตภัรพ์ระงับกลิ่นกายจากแหล่งน่าเชื่อถือ และต้องมีฉลากภาษาไทยแสดงรายละเอียดครบถ้วนชัดเจน สำหรับผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาว่าช่วยให้ผิวใต้วงแขนขาวขึ้น ผู้บริโภคควรพิจารณาก่อนซื้อ เพราะผิวที่ดำคล้ำอาจมีสาเหตุจากกรรมพันธุ์ ผลจากการใช้ยา หรือผลของระบบฮอร์โมนในร่างกาย ถ้าไม่แก้ที่เหตุ ใช้ผลิตภัณฑ์นี้อย่างเดียวก็ไม่ช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้
น.พ.บรรพต ต้นธีรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากการที่มีผู้นิยมใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย เพื่อช่วยลดการขับเหงื่อ หรือลดกลิ่นตัว ซึ่งปัจจุบันมีการจำหน่ายผลิตภัรพ์ดังกล่าวอย่างแพร่หลายโดยที่บางผลิตภัณฑ์มีการโฆษณาว่าสามารถช่วยให้ผิวบริเวณใต้วงแขนขาวขึ้นนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีความห่วงใยผู้บริโภคในเรื่งอนี้ จึงขอชี้แจงว่า ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ระงับกลิ่นการจะประกอบด้วยสารที่ช่วยลดการขับเหงื่อ หรือลดจำนวนแบคทีเรีย เช่น สารในกลุ่มเกลือของอลูมินั่ม และเซอร์โคเนียม, สารในกลุ่มไตรโคลซาน หรือไตรโคลคาร์บาน นอกจากนี้บางชนิดอาจใช้สารซิงก์ พารา-ฟีนอล ซัลโฟเนต ซึ่งจัดเป็นสารควบคุมพิเศษกำหนดอัตราส่วนสูงสุดที่ให้ใช้คือ 6% รวมถึงอาจมีการใช้สารแต่งกลิ่นหอม เพื่อกลบกลิ่นกายอีกด้วย สำหรับผลิตภัณฑ์บางยี่ห้อที่ได้โฆษณาว่ามีสารช่วยให้ผิวใต้วงแขนขาวขึ้น เช่น ลิโคไรซ์ เอ็กซ์แทรกซ์ ซึ่งสารนี้มีข้อมูลว่าช่วยทำให้ผิวขาวขึ้นได้บ้าง แต่เป็นการศึกษาวิจัยในประเทศที่อากาศเย็น แสงแดดไม่จัด ประชาชนส่วนใหญ่มีผิวขาวอยู่แล้ว การนำมาใช้กับคนไทย จึงมักเห็นผลไม่ชัดเจน ส่วนสารที่ทำให้สีผิวจางลงบางชนิด เช่น โมโนเบนโซน, สารปรอท แอมโมเนีย และสารไฮโดรควิดนน จัดเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง เนื่องจากหากใช้ติดต่อเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดอัตรายกับผู้ใช้มาก เพาะจะมีผลต่อการสร้างสีที่ผิวหนัง ทั้งนี้ โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายจะมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อใช้ระงับกลิ่นตัวเท่านั้น หากมีการอ้างสรรพคุณอื่น ๆ ด้วย เช่น ช่วยให้ผิวบริเวณรักแร้ขาวขึ้น เจ้าของผลิตภัณฑ์ต้องมีหลักฐานพิสูจน์ว่ามีสารที่ช่วยให้ผิวขาวขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้บริโภคควรพิจารณาถึงสาเหตุที่ผิวดำคล้ำด้วยว่าเกิดจากสาเหตุใด เช่น กรรมพันธุ์, ผลจากากรใช้ยา, ผลของระบบฮอร์โมนในร่างกาย หรือเกิดจากการแพ้ระคายเคือง ทำให้สีผิวคล้ำลง เป็นต้น หากไม่สามารถแก้ปัญหาที่สาเหตุ การใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้เพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้
รองเลขาธิการฯ กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า ขอให้ผู้บริโภคพิจารณาไตร่ตรองก่อนที่ะซื้อมาใช้ ที่สำคัญไม่ควรหลงเชื่อโฆษณาเกินจริงเป็นอันขาด และเพื่อป้องกันอัตราจากการใช้ ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือและมีฉลากภาษาไทยแสดงรายละเอียด เช่น ชื่อและชนิดของผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบสำคัญ วิธีใช้ วันเดือนปีที่ผลิต ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต/หรือผู้นำเข้า ปริมาณสุทธิ ครบถ้วนชัดเจน แต่ถ้าผลิตภัณฑ์นั้นเป็นเครื่องสำอางควบคุมพิเศษควรสังเกตุที่ฉลากต้องมีข้อความว่า เครื่องสำอางควบคุมพิเศษ มีการแสดงเลขที่ทะเบียนในกรอบเครื่องหมย อย. มีเลขที่แสดงครั้งที่ผลิต และต้องมีคำเตือนด้วย สำหรับวิธีใช้ควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้ เพราะการแพ้เฉพาะบุคคลอาจเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการแพ้สี น้ำหอม หรือสารกันเสียในผลิตภัณฑ์ ถ้าพบความผิดปกติใด ๆ ต้องหยุดใช้ทันที--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ