กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--จีเอชซี เอเซีย
โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส มีความยินดีที่จะเผยโฉมรถยนต์คอลเล็คชั่นบีสโป๊กครั้งแรก ซึ่งประกอบด้วยตระกูลยนตรกรรมทั้งหมดของแบรนด์ การประกาศเปิดตัวรถยนต์คอลเล็คชั่นใหม่นี้ตรงกับช่วงจุดสูงสุดของปีที่น่าจดจำ ซึ่งแบรนด์โรลส์-รอยซ์ ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความจริงที่ว่า บีสโป๊ก คือ วิถีแห่ง โรลส์-รอยซ์
ซูเฮล คอลเล็คชั่น เป็นคอลเล็คชั่นแรกที่จะให้บริการกับรถยนต์ รุ่น แฟนธอม โกสต์ และเรธ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากกลุ่มดาวที่ส่องประกายสุขสว่างที่สุดกลุ่มหนึ่งบนท้องฟ้า เพื่อเฉลิมฉลองผลงานของนักวิทยาศาสตร์ชาวอาหรับ ผู้ซึ่งได้รับการยอมรับและยกย่องในวงกว้างให้เป็นบิดาแห่งฟิสิกส์เชิงทฤษฎี และมีอิทธิพลอย่างมากต่อแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ของชาวตะวันตก
การเปิดตัวคอลเล็คชั่นพิเศษนี้เป็นการส่งท้ายปีที่บริการบีสโป๊กของโรลส์-รอยซ์ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอีกระดับ โดยได้มีการสร้างคอลเล็คชั่นรถยนต์ที่งดงามหาใครเสมอเหมือน เช่น ยนตรกรรมเยียร์ ออฟ เดอะ ฮอร์ส (Year of the Horse), พินนาเคิล ทราเวล (Pinnacle Travel), วอเทอร์สปีด (Waterspeed), เมโทรโพลิตัน (Metropolitan) และมหาราชา (Maharajah)
ซูเฮล คอลเล็คชั่น
คอลเล็คชั่นนี้ตั้งชื่อตามกลุ่มดาวที่ส่องประกายสุกสว่างที่สุดกลุ่มหนึ่งบนท้องฟ้าอย่างกลุ่มดาวซูเฮล นอกจากนี้ยังเชื่อกันอีกด้วยว่าแสงแห่งกลุ่มดาวกลุ่มนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักคณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ และนักฟิสิกส์ชาวอาหรับแห่งศตวรรษที่ 10 อย่างอิบน์ อัล-ไฮตัม เจ้าของผลงานซึ่งเป็นที่รู้จักอย่าง Book of Optics (Kitab al-Manazir) จิม อัลคาลีลี นักฟิสิกส์ลูกครึ่งอังกฤษ-อิรัก ยกย่องให้อัล-ไฮตัม "นักวิทยาศาสตร์ตัวจริง" อันเนื่องมาจากผลงานที่เป็นการบุกเบิกเกี่ยวกับวิธีการทางด้านวิทยาศาสตร์ ในบรรดาความสำเร็จของอัล-ไฮตัม เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรกที่ตระหนักว่าแสงเดินทางเข้าสู่ดวงตาแทนที่จะสะท้อนออกจากดวงตา
ผลงาน Book of Optics ของเขาได้รับการแปลเป็นภาษาละตินในช่วงศตวรรษที่ 13 และได้สร้างอิทธิพลต่อนักคิดเชิงวิทยาศาสตร์ชื่อดังชาวตะวันตกหลายคน ไม่ว่าจะเป็นโรเจอร์ เบคอน เลโอนาร์โด ดา วินชี กาลิเลโอ กาลิเลอี และเรอเน เดการ์ต
มร. ทอร์สตัน มูเลอร์-ออทเวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จํากัด กล่าวว่า “อิบน์ อัล-ไฮตัม เป็นผู้บุกเบิกที่ได้รับการยกย่องโดยผลงานความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ของเขาเป็นตัวแทนของจุดเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของโลกวิทยาศาสตร์ เราเล็งเห็นว่ากลุ่มดาวซูเฮล เป็นแรงบันดาลใจที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับคอลเล็คชั่นบีสโป๊กสุดพิเศษนี้ เพื่อเฉลิมฉลองอิทธิพลที่นักวิทยาศาสตร์ผู้นี้มีต่อวงการวิทยาศาสตร์ตะวันออกและตะวันตก”
คอลเล็คชั่นนี้เพิ่มรายละเอียดที่หรูหราสง่างามให้กับยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ แฟนธอม แฟนธอม คูเป้ โกสต์ และเรธ เพื่อชุบจิตวิญญาณแห่งซูเฮลให้มีชีวิตขึ้นมาในคอลเล็คชันที่พิเศษไม่เหมือนใครนี้ ด้านนอกของคอลเล็คชั่นยนตรกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศาสตร์แห่งดวงดาวนี้ส่องประกายในสีมุกมูนสโตนที่ไม่เหมือนใคร เพื่อระลึกถึงสีของดวงดาวในยามค่ำคืน ในขณะที่ตราประทับรูปดาวซูเฮลช่วยเสริมเส้น coachline สีฟ้า Turchese Blue ซึ่งได้รับแรงบันดาใจมาจากท้องฟ้ายามราตรีที่มองเห็นดาวซูเฮล
ภายในห้องโดยสารใช้โทนสีเดียวกันกับภายนอก โดยผสมผสานหนังสีครีมอ่อนตัดด้วยสีฟ้า Turchese และใช้สีน้ำเงินกรมท่าตัดเส้นเป็นกรอบแผงควบคุมและพรม นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งตราประทับรูปดาวซูเฮลบนแผงหน้าปัดที่ทำจากไม้ปุ่มไม้มะค่า ในขณะที่ Starlight Headliner ในรถยนต์รุ่น แฟนธอม และเรธ ช่วยให้เจ้าของได้มองดูดาวได้จากในรถยนต์ของตัวเอง ท้ายที่สุดคือ นาฬิกาบีสโป๊กซึ่งมีสีที่เข้ากันกับภายในห้องโดยสาร โดยสื่อให้เห็นถึงกลุ่มดาวซูเฮล เออร์ซาเล็กและใหญ่ บนหน้าปัดนาฬิกา
หนึ่งปีกับยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ อันน่าทึ่งในบริการบีสโป๊ก
นอกจากซูเฮล คอลเล็คชั่น แล้ว ปี 2557 ยังมีการเปิดตัวรถยนต์ในคอลเล็คชั่นที่งดงามหาใครเสมอเหมือนอย่างเยียร์ ออฟ เดอะ ฮอร์ส (Year of the Horse), พินนาเคิล ทราเวล (Pinnacle Travel), วอเทอร์สปีด (Waterspeed), เมโทรโพลิตัน (Metropolitan) และมหาราชา (Maharajah)
หนึ่งปีแห่งบีสโป๊กเริ่มต้นด้วยการประกาศในเดือนมกราคมว่า ทีมบีสโป๊กของโรลส์-รอยซ์ ได้ออกแบบผลงานยนตรกรรมรุ่น โกสต์ มาเจสติก ฮอร์ส เพื่อเฉลิมฉลองปีม้าตามปีนักษัตรจีน มาเจสติก ฮอร์ส นำเอาธรรมเนียมด้านศิลปะของจีนและความงดงามของหัตถศิลป์มาผสมผสานกันกับการออกแบบยานยนต์ร่วมสมัยที่ดีที่สุดของอังกฤษ เพื่อมอบคุณลักษณะด้านในและด้านนอกที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นงานปักรูปม้าในพนักพิงศีรษะและเบาะที่นั่งด้านหลัง ตลอดจนโลโก้รูปวาดรูปม้าทางด้านข้าง และรูปม้าที่วาดลงบนแดชบอร์ดทำจากไม้
ในเดือนเมษายนมีการเปิดตัวยนตรกรรมรุ่น แฟนธอม พินนาเคิล ทราเวล ที่งานแสดงยนตรกรรมเมืองปักกิ่งปี 2557 รถยนต์สุดพิเศษคันนี้แสดงให้เห็นถึงจินตนาการแห่งหัตถศิลป์และการออกแบบระดับสูงที่ส่งมาจากโรงงานกู้ดวูด ซึ่งสะท้อนผ่านแง่มุมของการเดินทางสุดหรูหราและทันสมัย
ยนตรกรรมรุ่น แฟนธอม พินนาเคิล ทราเวล ของโรลส์-รอยซ์ ตอบโจทย์ความต้องการด้านการเดินทางอันหรูหราที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในประเทศจีน โดยการมอบโทนสีที่หรูหรา วัสดุที่มั่งคั่ง สมบูรณ์แบบและซับซ้อน การตกแต่งแบบทำด้วยมือ ชวนให้ระลึกถึงยุคทองแห่งการเดินทางบนรถไฟข้ามทวีปสุดหรู
ความโดดเด่นของสีด้านนอกแบบทูโทนเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความหรูหราที่รอผู้โดยสารอยู่ภายใน ขณะที่เส้น coach line พร้อมลวดลายแบบนามธรรมสื่อถึงรถไฟที่กำลังเดินทางด้วยความเร็วสูง และเชื้อเชิญให้ผู้โดยสารมาร่วมการเดินทางแห่งการสำรวจ
โทนสีที่หรูหรานี้ยังได้นำมาใช้กับด้านในห้องโดยสารด้วย โดยการผสมผสานหนังสีแดง Morello Red และสี Seashell สำหรับที่นั่ง เส้นหลังคา เสา pillar และแผงประตู อีกทั้งยังมีแผ่นรองเท้าสีแดง Morello Red ทำจากขนลูกแกะที่ผลิตมาเป็นพิเศษด้วยลวดลายด้ายสีเทา Smoke Grey ชวนให้นึกถึงการเดินทางที่หรูหรา ขณะที่ piece de la resistance เป็นการประดับด้วยส่วนประกอบ 230 ชิ้นที่วางเรียงรายกันด้วยมือเพื่อสร้างลักษณะที่โดดเด่นของรถไฟข้ามทวีปที่เดินเครื่องอย่างรวดเร็วผ่านภูมิทัศน์ ทิ้งไว้เพียงกลุ่มไอน้ำจากหัวรถจักรในเบื้องหลัง ลักษณะเดียวกันนี้ยังมีอยู่ในแผงประตูผ่านการเย็บ 24,633 ครั้งซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความเพียรพยายามแห่งหัตถศิลป์ อันเป็นสิ่งจำเป็นในการรังสรรค์ให้ลวดลายทั้งสองข้างเหมือนกันอย่างสมบูรณ์แบบ
ในเดือนพฤษภาคม โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส เผยโฉมยนตรกรรมแฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ วอเทอร์สปีด คอลเล็คชั่น วอเทอร์สปีด ออกแบบมาเพื่อสรรเสริญ เซอร์ มัลคอล์ม แคมป์เบลล์ ในการสร้างสถิติการแข่งเครื่องบินน้ำครั้งใหม่ของโลกที่บริเวณใกล้ๆ กับทะเลสาบมัจจอเรในปี ค.ศ. 1937
รถยนต์ในคอลเล็คชั่นวอเทอร์สปีด ใช้เฉพาะวัสดุร่วมสมัยคุณภาพดีที่สุดในการตกแต่งเพื่อสะท้อนถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ใช้ในการสร้างเครื่องบิน Bluebird K3 ของเซอร์ มัลคอล์ม พื้นผิวสตีลขัดเงาช่วยเสริมโทนสีน้ำเงิน "มัจจอเร" ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษได้อย่างลงตัว ขณะที่การตกแต่งแบบฝังบนไม้อาบาชิที่ทำด้วยมือ ชวนให้นึกถึงเรือที่ล่องลอยไปเรื่อยๆ ตามผิวน้ำ และเส้น coachline ภายนอกตลอดจนภาพพิมพ์เลเซอร์ภายในรถทำให้ลักษณะของเครื่องบิน "Bluebird" ของแคมป์เบลล์กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง
นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของโรลส์-รอยซ์ ที่มีการทาสีเครื่องยนต์เป็นสีเดียวกับด้านนอกของรถ ซึ่งเป็นดังการสรรเสริญขุมพลังเบื้องหลังการสร้างสถิติของแคมป์เบลล์ ได้อย่างงดงามต้องตา ขณะที่แผงไม้สักแบบเดิมของรถยนต์รุ่น แฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ ที่ด้านหลังมีการตกแต่งเพิ่มด้วยสตีลขัดเงา
การอ้างอิงถึงผลงานของแคมป์เบลล์ยังรวมถึงมาตรวัด "การประหยัดพลังงาน" ที่โด่งดังของโรลส์-รอยซ์ ซึ่งได้รับการตีความใหม่อีกด้วย เมื่อคนขับกดเปิด มาตรวัดจะเคลื่อนไปด้านหลังตามโซนสีเหลืองและสีฟ้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง "การแล่นไปไกลลิ่ว" ของ K3 ด้วยนวัตกรรมความเร็วสูงสุดของเครื่องยนต์
การระลึกถึงสถิติที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนั้นโดยตรงอยู่ที่ช่องเก็บของด้านหน้ารถ โดยมีแผงที่ปักด้วยมือซึ่งบ่งบอกถึงสถิติของแคมป์เบลล์ที่ทำได้ ณ ทะเลสาบมัจจอเร ทะเลสาบเฮลเวล และแอ่งน้ำคอนิสตันด้วยเครื่องบิน K3 และ K4
งาน Salon de l’Automobile ที่ปารีสในเดือนกันยายนเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์คอลเล็คชั่นใหม่ของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ยนตรกรรม รุ่น แฟนธอม เมโทรโพลิตัน คอลเล็คชั่น รำลึกถึงเมืองใหญ่ชื่อดังทั่วโลกผ่านการตกแต่งที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมาของโรลส์-รอยซ์ เมื่อเปิดโต๊ะปิกนิกที่เป็นจุดเด่นของรถยนต์รุ่น แฟนธอม ผู้โดยสารจะเห็นวิวของเมืองแบบยกระดับ ซึ่งสร้างขึ้นจากการใช้ไม้วีเนียร์ 500 ชิ้น
แน่นอนว่าขั้นตอนในการตัด ลงสี เหลาขึ้นรูป และประกอบด้วยมือมีความซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง ช่างผู้เชี่ยวชาญด้านงานไม้ของเราจึงต้องใช้เวลาหลายวันในการประกอบผลงานศิลปะชิ้นนี้ขึ้นมา เมื่อปิดโต๊ะ ผู้โดยสารจะได้เห็นทิวทัศน์ของเมืองในมุมมองที่แตกต่าง ซึ่งสะท้อนให้เห็นวิวที่ผู้โดยสารจะได้เห็นเวลานั่งรถอย่างผ่อนคลายที่ด้านหลังของรถยนต์ รุ่น แฟนธอม
ธีมทิวทัศน์ในเมืองยังขยายไปนอกเหนือจากพื้นผิวส่วนไม้ต่างๆ ของรถยนต์ รุ่น แฟนธอมอีกด้วย หนังสีเทา Aetherius Grey ซึ่งพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อสะท้อนโทนสีของเมืองที่ทันสมัย ขณะที่การเย็บสีทูโทน 6,800 ครั้งไปยังร่องของที่นั่งด้านหลังสื่อให้เห็นภาพของตึกระฟ้าในแบบนามธรรม นาฬิกาบีสโป๊กที่พัฒนามาเป็นพิเศษขยายธีมของรถยนต์คันนี้ไปจนถึงด้านหน้าของรถ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ที่มีการใช้หนามเตยแบบหมุนได้แสดงเมืองดัง 24 แห่งของโลก รวมถึงเขตเวลาของเมืองเหล่านั้น ซึ่งรวมถึงปารีส มาตกแต่งอยู่บนคอนโซลส่วนกลางของรถยนต์โรลส์-รอยซ์
ยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ ในคอลเล็คชั่นบีสโป๊กล่าสุดคือ ยนตรกรรมรุ่น แฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ มหาราชาที่ไม่มีใครเหมือน ซึ่งเผยโฉมไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนนี้ รถยนต์รุ่นนี้รับแรงบันดาลใจมาจากยุคทองแห่งราชา โดยได้รับแนวคิดและได้รับการรังสรรค์ด้วยมือขึ้นมาเพื่อเป็นเกียรติแก่ความใกล้ชิดของประเทศอินเดียกับแบรนด์ที่หรูหราเหนือระดับ 100 ปีที่ผ่านมา เจ้าชายและมหาราชาแห่งอินเดีย มีส่วนร่วมในความสัมพันธ์ที่ยาวนานที่สุดครั้งหนึ่งในโลกที่ควรจะพึงมีกับผู้ผลิตยานยนต์รายหนึ่ง ตลอดระยะเวลา 5 ทศวรรษ บรรดามหาราชาซื้อรถยนต์โรลส์-รอยซ์ รุ่นต่างๆ กว่า 840 คัน ซึ่งช่วยผลักดันให้ผู้สร้างสรรค์ "รถยนต์ที่ดีที่สุดในโลก" ไปสู่ระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนในแง่ของการออกแบบ ระบบวิศวกรรม และความหรูหรา วันนี้ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส กำลังสร้างสรรค์ยุคทองแห่งมรดกด้านยานยนต์ของอินเดียขึ้นมาอีกครั้งผ่านคอลเล็คชั่นรถยนต์บีสโป๊กซึ่งได้รับแรงบันดาลจมาจากรถยนต์ของมหาราชา
คอลเล็คชั่นนี้เพิ่มรายละเอียดที่เรียบหรูให้กับยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ รุ่น แฟนธอม คูเป้ เพื่อสร้างสรรค์ยุคทองแห่งราชาให้มีชีวิตขึ้นมา ด้านนอกของรถเปล่งประกายไปด้วยสีขาว Carrara White พร้อมตราประทับรูปนกยูง ซึ่งเป็นนกประจำชาติของอินเดีย เพิ่มความสมบูรณ์แบบของเส้น coachline สีเขียวมรกต ประทุนสีเขียวเข้มเปิดออกได้เพื่อเผยโฉมแผงด้านหลังที่สวยงามพร้อมตราประทับรูปนกยูงที่ผสานรวมอยู่ในการตกแต่ง เป็นการเสริมรายละเอียดรูปนกยูงด้านนอกตัวรถได้อย่างกลมกลืน ภายในยังใช้ชุดสีที่สง่างามเหมือนด้านนอกโดยผสมผสานหนังสีครีมอ่อนตัดกับสีเขียวมรกต ซึ่งเสริมด้วยการตกแต่งแบบฝังประดับบนแผงหน้าปัดและที่วางแขน
นอกจากนี้ยังมีตราประทับรูปนกยูงที่ซับซ้อนปักไว้บนพนังพิงศีรษะในสีเขียวมรกตและสีฟ้า Cobalto รวมถึงลวยลายขนนกยูงสี Seashell ซึ่งปักอยู่ด้านข้างและบนที่วางแขนตรงกลาง นาฬิกานกยูงมหาราชาแบบบีสโป๊ก ช่วยเสริมสีภายในห้องโดยสารให้โดยเด่นด้วยสีฟ้า Cobalto และองค์ประกอบที่ทำจากหยกบริสุทธิ์
คอลเล็คชั่นแบบลิมิเตดเหล่านี้มีไว้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกค้า พร้อมเป็นหลักฐานแห่งความต้องการในระดับต่างๆ ของบริการบีสโป๊กที่เราได้เห็นกันในปี 2557 รถยนต์รุ่น แฟนธอม เกือบทุกคันทั่วโลก 90% ของรถยนต์รุ่น เรธ และ 80% ของรถยนต์ในตระกูลยนตรกรรม รุ่น โกสต์ ได้รับการสั่งทำพร้อมบริการบีสโป๊กจากลูกค้า บีสโป๊ก คือวิถีแห่ง โรลส์-รอยซ์