กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--กองเกษตรสารนิเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พล.ต.อินทรัตย์ ยอดบางเตย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีมอบเอกสารสิทธิในที่ดินของนิคมสหกรณ์ แก่สมาชิกนิคมสหกรณ์วังน้ำเย็น 240 ราย และสมาชิกนิคมสหกรณ์โป่งน้ำร้อน 60 ราย รวม 300 ราย ณ นิคมสหกรณ์วังน้ำเย็น อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ว่า ที่ดินนับเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญในการประกอบอาชีพทางการเกษตร มีเกษตรกรเป็นจำนวนมากที่ประสบปัญหาขาดแคลนที่ดินทำกิน หรือมีที่ดินทำกินน้อยไม่เพียงพอกับการเพาะปลูก ต้องเช่าที่ดินจากนายทุน และเมื่อรายได้จากการจำหน่ายผลิตผลน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ ทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่มีภาระหนี้สินและมีฐานะยากจน จนยากที่จะสร้างตัวเองให้มีฐานะมั่นคงได้ และอาจนำมาซึ่งปัญหาการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์และป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งนอกจากจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายแล้ว ยังเป็นการทำลายป่าไม้ ต้นน้ำลำธาร และความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติอีกด้วย ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ รัฐจึงได้มีนโยบายช่วยเหลือราษฎรที่ประกอบอาชีพทางเกษตรแต่ขาดแคลนที่ดินเหล่านั้น ให้ได้รับจัดสรรที่ดินทำกินในขนาดที่เหมาะสม เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรม
พล.ต.อินทรัตย์ กล่าวต่อไปว่า การจัดสรรที่ดินให้กับราษฎรในรูปแบบของนิคมสหกรณ์ เป็นอีกหนึ่งภารกิจหลักของกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 ให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินหรือมีน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพได้มีที่ดินทำกินและ ที่อยู่อาศัย โดยได้รับมอบที่ดินมาดำเนินการจัดสรรในรูปนิคมสหกรณ์ รวม 36 นิคมสหกรณ์ พื้นที่รวม 3,063,537 ไร่ ได้จัดสรรให้กับราษฎรไปแล้ว 1,700,000 ไร่ ราษฎรที่ได้รับการจัดสรรแล้ว 140,000 ราย ซึ่งขั้นตอนในการจัดสรรที่ดินและการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินของนิคมสหกรณ์นั้น เริ่มจากคณะกรรมการคัดเลือกซึ่งมีนายอำเภอท้องที่เป็นประธาน จะคัดเลือกราษฎรที่ไม่มีที่ดินทำกินหรือมีน้อยไม่เพียงพอต่อการครองชีพ หลังจากคัดเลือกแล้ว กรมส่งเสริมสหกรณ์จะดำเนินการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมสหกรณ์ (กสน.3) ในฐานะของสมาชิก ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์จะมีหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการจัดตั้งสหกรณ์ประเภทสหกรณ์นิคม จำกัด ในพื้นที่นิคมสหกรณ์ เพื่อช่วยเหลือและอำนวยประโยชน์แก่สมาชิกในการจัดหาเงินทุนกู้ยืมสำหรับประกอบอาชีพ จัดหาปัจจัยการผลิต และสิ่งของจำเป็นมาจำหน่าย การบริการสาธารณูปโภคต่างๆ รวมทั้งดำเนินการด้านการตลาดและการส่งเสริมด้านวิชาการ เพื่อช่วยเหลือการประกอบอาชีพตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะทำให้สมาชิกมีความเป็นอยู่ที่ดี มีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพของตนเองและครอบครัว และเมื่อสมาชิกได้ทำประโยชน์ทางการเกษตรในพื้นที่เกินกว่า 5 ปี จึงจะได้รับ กสน.5 ซึ่งเป็นหนังสือแสดงการทำประโยชน์ และสามารถนำไปขอออกโฉนดที่ดินต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสมาชิกจะได้รับโฉนดที่ดินไปแล้ว ห้ามจำหน่ายจ่ายโอนได้ ในระยะเวลา 5 ปี จะเห็นได้ว่าการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินของนิคมสหกรณ์นั้น สมาชิกจะต้องผ่านขั้นตอน กระบวนการ และเงื่อนไขต่างๆ ตามที่กำหนด ภายใต้พระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511
อนึ่ง นิคมสหกรณ์วังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว เริ่มดำเนินการจัดนิคมตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2517 ซึ่งปัจจุบันมีสหกรณ์ในพื้นที่นิคมสหกรณ์วังน้ำเย็น รวม 5 สหกรณ์ คือ สหกรณ์นิคมวังน้ำเย็นหนึ่ง จำกัด สหกรณ์นิคมวังน้ำเย็นสอง จำกัด สหกรณ์การเกษตรวังน้ำเย็น จำกัด สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด และสหกรณ์ออมทรัพย์เจ้าหน้าที่สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด รวมเนื้อที่ที่สามารถจัดสรรได้ 92,000 ไร่ มีจำนวนสมาชิกรวม 7,482 ราย โดยสมาชิกประกอบอาชีพทำการเกษตร ปลูกพืช เช่น ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และเลี้ยงโคนม โคเนื้อ ซึ่งสมาชิกจำนวน 7,065 รายได้รับการจัดสรรที่ดิน (กสน.5) แล้วรวมเนื้อที่ 72,680 ไร่ ซึ่งในครั้งนี้จะมีสมาชิกได้รับ กสน.5 อีก 240 ราย พื้นที่ประมาณ1,512ไร่
ด้านนิคมสหกรณ์โป่งน้ำร้อน ได้จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสหกรณ์ท้องที่อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี พ.ศ. 2540 มีสหกรณ์ในพื้นที่นิคมสหกรณ์โป่งน้ำร้อน รวม 2 สหกรณ์ คือ สหกรณ์นิคมสอยดาว จำกัด และสหกรณ์โคนมสอยดาว จำกัด รวมเนื้อที่ที่สามารถจัดสรรได้ประมาณ 93,800 ไร่ มีจำนวนสมาชิกรวม 5,630 ราย โดยสมาชิกส่วนใหญ่ประกอบอาชีพปลูกพืช คือ มันสำปะหลัง ลำไย ยางพารา และเลี้ยงโคนม ซึ่งสมาชิก 4,460 ราย ได้รับการจัดสรรที่ดิน (กสน.5) แล้ว รวมเนื้อที่ 82,204 ไร่ ซึ่งในครั้งนี้จะมีสมาชิกได้รับ กสน.5 อีก 60 ราย พื้นที่ 1,097 ไร่