กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--The Sib Clinic
ผู้หญิงเราสิ่งหนึ่งที่รับไม่ได้นั่นคือริ้วรอย ความเหี่ยวย่น ไม่ว่าจะเป็นรอยตีนกา รอยย่นของผิวหน้าและคอ ซึ่งการกำจัดริ้วรอยเรียบเนียนแบบระยะยาวทางการแพทย์จะใช้วิธีการผ่าตัดดึงหน้าได้กลายเป็นเรื่องเล็ก โดยทางการแพทย์มีเทคนิคการดึงหน้าที่เรียกว่า Mini Facelift
Mini Facelift เป็นเทคนิคใหม่ในการดึงหน้า ที่ซ่อนแผลโดยไม่สามารถสังเกตเห็นได้ เปิดแผลเล็ก เจ็บน้อยกว่า พักฟื้นระยะสั้น ผลที่ได้คือผิวหน้าที่เรียบตึงย้อนวัยไปถึง 7-10ปี
แพทย์จะเป็นผู้ประเมินการรักษาตามปัญหาที่เกิดขึ้นของคนไข้แต่ล่ะคน ถ้ามีปัญหารอยย่นบริเวณหน้าผาก คิ้วตก หางตาตก ก็จะทำการดึงหน้าส่วนครึ่งบน และซ่อนแผลไว้ตามไรผมหรือหลังใบหู แต่ถ้ามีรอยเหี่ยวย่นบริเวณคอ ร่องแก้ม ร่องปาก ร่องจมูกลึก ก็จะทำการดึงใบน้าส่วนล่าง และลำคอ เก็บไว้ที่บริเวณท้ายทอยหรือหลังใบหู
Mini Facelift จะผ่าตัดโดยการเปิดแผลเล็กๆสั้นๆในแต่ละจุดแต่ยังใช้หลักการเหมือนการดึงหน้าแบบเดิม คือดึงทั้งผิวหนังชั้นบนและดึงตึงในผิวหนังชั้นลึกคือชั้น SMASโดยทำการเปิดผิวหนังบริเวณไรผมและดึงผิวหนังบริเวณผิวหนังชั้น SMAS ให้ตึง เย็บตรึงเนื้อเยื่อให้กระชับ พร้อมกับตัดผิวหนังส้วนเกินและเย็บตึงในผิวหนังชั้นในคือชั้น SMAS ซึ่งจะทำให้รอยเหี่ยวย่นทั้ง Fine และ Deep Winkle หายไป ได้ผิวหน้าใหม่ที่เรียบเนียนกระชับอย่างชัดเจน
แผลหลังผ่าตัดจะมีขนาดเล็กมากและถูกซ่อนอยู่ในบริเวณไรผมหรือตำแหน่งที่มองไม่เห็นอย่างเช่นหลังใบหูหลังผ่าตัดจะรู้สึกปวดและบวมเล็กน้อยในวันแรกๆ ไม่ให้แผลโดนน้ำใน 7 วันแรก ตัดไหมภายใน 7-10 วัน และพักฟื้นระยะสั้น 4-5 วัน
การผ่าตัดดึงหน้าแบบ Mini Facelift เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุมากขึ้นหรือผู้ที่มีผิวหน้าเหี่ยวย่นมากก่อนวัย ซึ่งปัจจุบันไม่ใช่เรื่องใหญ่แล้วสำหรับการกลับสู่ความอ่อนวัยอีกกครั้งหนึ่ง