กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--Hermes Commnuications
บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ G LAND ผู้บริหารโครงการ The Grand Rama 9 โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาด 73 ไร่บนถนนพระราม 9 ตัดกับถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่หรือ New Central Business District – CBD ของกรุงเทพมหานคร ยืนยันการก่อสร้างอาคารจีแลนด์ ทาวเวอร์ เป็นไปตามหลักการออกแบบและการทดลองตามมาตรฐานทางวิศวกรรมแล้ว และมีความปลอดภัยสูง
กรณีที่มีการโพสต์และนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนบางแห่งและโซเชียลมีเดีย ถึงความลาดเอียงของโครงสร้างอาคารจีแลนด์ ทาวเวอร์ ที่บริเวณแยกพระรามเก้า จนเกิดความกังวลถึงความปลอดภัยนั้น กรณีดังกล่าว นายกิตติ โปตระยานนท์ วิศวกรโยธา ผู้จัดการโครงการ กล่าวว่า “การก่อสร้างอาคารจีแลนด์ ทาวเวอร์ ได้รับการออกแบบให้มีความลาดเอียง 8 องศาในอาคารฝั่งทิศใต้ (South Tower) เพื่อให้เป็นตึกที่มีการออกแบบที่ทันสมัยและใช้หลักการก่อสร้างด้วยนวัตกรรมการก่อสร้างสมัยใหม่ ที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบและทดสอบในอุโมงค์ลม และผ่านขั้นตอนตรวจสอบอย่างเข้มงวด
ซึ่งในวงการก่อสร้างของโลก มีอาคารที่มีลักษณะลาดเอียงเช่นเดียวกันนี้ ได้แก่ แคปิตอล เกต ในกรุงอาบูดาบี เมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรต กินเนสส์บุ๊กเวิลด์เรคคอร์ด ให้การรับรองว่าแคปิตอล เกต คือ หอที่สร้างด้วยมือมนุษย์ที่เอนที่สุดในโลก (World’s furthest leaning man-made tower) โดยมีพื้นที่ลาดเอียงไปทางทิศตะวันตกถึง 18 องศา ซึ่งเทียบกับอาคารจีแลนด์ ทาวเวอร์นั้นมีความลาดเอียงเพียง 8 องศาเท่านั้น
ด้านเทคนิคการก่อสร้างนี้ ทีมงานวิศกรของโครงการนำโดย ดร.การุณ จันทรางศุ บริษัทเคซีเอส แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด ได้มีความมุ่งมั่นและตั้งใจจะให้เป็นการใช้นวัตกรรมการก่อสร้างที่มีความปลอดภัยสูง ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างอาคารจีแลนด์ ทาวเวอร์ เมื่อแล้วเสร็จจะเป็นผลงานด้านวิศกรรมการก่อสร้างอีกชิ้นหนึ่งที่สร้างความภาคภูมิใจในระดับภูมิภาคให้ประเทศไทยได้ด้วย”
ในขณะที่ นายวีระ ธนากรภักดี รองกรรมการผู้จัดการ G LAND กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ที่ G LAND ขอยืนยันถึงความปลอดภัยในการก่อสร้างครั้งนี้เป็นไปตามมาตรฐานสากล “ผมต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ได้กรุณาแชร์ข้อความแสดงความกังวลว่าอาจจะไม่ปลอดภัย ผมอยากจะขอเรียนชี้แจงว่าความลาดเอียงของโครงสร้างอาคารจีแลนด์ ทาวเวอร์ นั้น เรามีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดถึงผลกระทบและความปลอดภัย และถ้าอาคารนี้สร้างเสร็จ จะถือเป็นสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทยอีกอาคารหนึ่ง อาคารนี้จะสร้างความโดดเด่นให้กับพื้นที่นี้อย่างมาก ผมมีความภูมิใจอย่างมากเพราะนอกจากจะถือเป็นสัญลักษณ์ของ G LAND แล้ว เรายังได้รับการยอมรับให้ขึ้นปกนิตยสาร Architecture@12 ปี 2012 ซึ่งนิตยสารฉบับนี้ได้คัดเลือกมากกว่า 100,000 โครงการที่กำลังจะก่อสร้างในแต่ละปีในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิคที่มีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมเมืองและอาคารสูง เราต้องการให้เป็นอาคารยุคใหม่ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีการก่อสร้างสมัยใหม่ และเมื่ออาคารแห่งนี้สร้างเสร็จสมบูรณ์ จะถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของประเทศไทย” นายวีระกล่าว
นายวีระ กล่าวเพิ่มเติมว่า G LAND มีนโยบายขายพื้นที่เช่าของอาคารจีแลนด์ ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานระดับพรีเมี่ยม จนถึงขณะนี้ GLAND ยังไม่ได้เปิดขายพื้นที่ดังกล่าว โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดขายพื้นที่เช่าของอาคารนี้ในอนาคตอันใกล้ โดยมีพื้นที่ก่อสร้าง 134,779 ตารางเมตร มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือ บริษัททั้งภายในประเทศและต่างประเทศที่ต้องการจะเข้ามาเปิดสำนักงานใหญ่หรือสำนักงานประจำภูมิภาค
“ความจริงแล้ว โครงการของเรา รวมถึงอาคารจีแลนด์ ทาวเวอร์ ถูกออกแบบและสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์กลางธุรกิจหรือ CBD ของกรุงเทพมหานคร และถือเป็นโครงการที่รองรับกับการเข้าสู่ประชาคมประชาชาติเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ดังนั้น เราจึงมีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าโครงการของเราจะได้รับการตอบรับอย่างดีแน่นอน” นายวีระ กล่าว
ข้อมูลอาคารจีแลนด์ ทาวเวอร์
มูลค่าก่อสร้าง 3,750 ล้านบาท ตั้งอยู่หัวมุมสี่แยกตัดระหว่างถนนพระราม 9 และถนนรัชดาภิเษก อาคารจีแลนด์ ทาวเวอร์ นี้ มีพื้นที่ก่อสร้างทั้งสิ้น 134,779 ตารางเมตร ประกอบด้วยอาคารสูง 36 และ 26 ชั้น พร้อมด้วยที่จอดรถใต้ดิน 2 ชั้นสำหรับพลาซ่า และที่จอดรถ 6 ชั้นสำหรับสำนักงาน สามารถจอดรถได้รวม 1,044 คัน ขณะนี้การก่อสร้างแล้วเสร็จกว่า 50% ของโครงการ และคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปี 2558 โดยมีบริษัทเออร์เบิ้น อาร์คิเต็คส์ เป็นผู้ออกแบบสถาปัตยกรรม, บริษัทเคซีเอส แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด เป็นผู้ออกแบบงานโครงสร้าง, บริษัท อีอีซี เอ็นจิเนียริ่ง เน็ทเวิร์ค จำกัด ผู้ออกแบบงานระบบ และ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างหลัก