กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--ท่าเรือประจวบ
นับเป็นปีที่ 3 ที่ผู้บริหารบริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด ร่วมกับศูนย์ไทยอาสาป้องชาติในทะเลเขตทัพเรือภาคที่ ๑ เดินหน้าจัดกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ต่อเนื่องในโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน แบ่งปันความสุขและรอบยิ้ม “มอบรัก” ให้น้องบนดอยสูง ปี 3 อาทิ อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา เพื่อนำไปมอบให้แก่นักเรียนในโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่
พลเรือโท สุชีพ หวังไมตรี ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๑ และผู้อำนวยการศูนย์ไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล เขตทัพเรือภาคที่ ๑ เป็นประธานในพิธีส่งมอบปลากะตักและปลาทูแห้งให้กับโครงการส่วนพระองค์ ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยเสด็จพระราชกุศล โครงการตามพระราชดำริต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีนในพื้นที่ภาคเหนือ
นายถาวร คณานับ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด บริษัทหนึ่งในกลุ่มบริษัท SSi กล่าวว่า โครงการนี้เริ่มต้นมาจากทัพเรือภาคที่ ๑ เชิญ บริษัทฯ เข้าร่วมโครงการบริจาคอุปกรณ์การเรียนการสอน และอุปกรณ์กีฬา โดยปีนี้เป็นปีที่ 3 ที่ทางบริษัทฯ ได้เข้าร่วมบริจาคและเดินทางไปมอบอุปกรณ์การเรียนการสอน และอุปกรณ์กีฬาในพื้นที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 3 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนขุนอมแฮดนอก , โรงเรียนขุนอมแฮดใน , และโรงเรียนบ้านพะอัน ซึ่งโรงเรียนทั้งหมดนี้โรงเรียนในโครงการส่วนพระองค์ฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชนและสังคม อีกทั้งต้องการที่จะแบ่งปัน และตอบแทนสิ่งดีๆ เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์คืนสู่สังคม อีกแนวทางหนึ่งเราเล็งเห็นถึงความตั้งใจและจริงใจของพนักงานทุกคน ที่อาสาร่วมมือเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือสังคมในการจัดชุดอุปกรณ์การเรียนการสอน และร่วมเดินทางไปมอบอุปกรณ์การเรียนการสอน อุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนขุนอมแฮดใน ซึ่งเป็นโรงเรียนอยู่บนยอดดอยสูง การเดินทางยากลำบาก และใช้ระยะเวลานานกว่าจะถึงที่หมาย ซึ่งหนทางที่ยากลำบากนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญของการไปร่วมมอบของต่างๆ ให้กับน้องๆ บนยอดดอยแห่งนี้
คุณสมหมาย ขวัญเมือง หัวหน้าแผนกอาวุโส ฝ่ายทรัพยากรบุคคล และจัดซื้อ รู้สึกยินดีและภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเข้าร่วมกิจกรรม “มอบอุปกรณ์การเรียนและอุปกรณ์กีฬา” ในครั้งนี้ ถึงแม้มูลค่าของที่มอบจะไม่มากเมื่อเทียบกับความรู้สึก ความต้องการ ของน้องๆที่ขาดแคลน เมื่อน้องๆได้รับสิ่งของน้องๆจะแสดงความยินดีมากประหนึ่งว่ามูลค่าหรือสิ่งของเหล่านั้นมีมูลค่าและมีความสำคัญกับน้องๆมาก ถ้าเปรียบเทียบกับคนในเมืองซึ่งไม่ค่อยให้ความสำคัญกับสิ่งของเหล่านั้นนักเพราะมีมากจนเกินความต้องการใช้งาน ถ้ามีโอกาสอยากเข้าร่วมกิจกรรมดีๆเพื่อได้มีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือน้องๆที่ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนและอุปกรณ์กีฬาต่อไปค่ะ