กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มั่นใจตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 58 โชว์ศักยภาพความเป็นมืออาชีพอย่างต่อเนื่อง ประกาศเดินหน้ารุกตลาดอสังหาฯ ปี 2558 เตรียมเปิดโครงการใหม่ 8-10 โครงการ มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ ทั้งกรุงเทพฯ – ปริมณฑล และ ต่างจังหวัด จับลูกค้ากลุ่มเรียลดีมานด์ ที่ต้องการที่อยู่อาศัยเทียบชั้นกรุงเทพฯ ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปี 3,120 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ที่ 2,650 ล้านบาท เติบโตกว่า 12 %
นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยถึง แนวโน้มภาคอสังหาริมทรัพย์ปี 2558 คาดว่า จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 12 % โดยเป็นไปตามทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ซึ่งมีปัจจัยบวกที่จะช่วยส่งเสริมการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีทิศทางปรับตัวดีขึ้น สถานการณ์ทางการเมืองที่คาดว่าจะมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น จากโครงการพัฒนาด้านคมนาคมและอื่น ๆ ของรัฐบาล ส่งผลให้เกิดความมั่นใจของผู้ประกอบการและผู้บริโภคให้ฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ และการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะทำให้เกิดโอกาสการค้าและการลงทุนระหว่างภูมิภาค และคาดว่าจะผลักดันให้เกิดการลงทุนในภาคเศรษฐกิจต่างๆ และอสังหาฯ ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมี "ปัจจัยลบ" ที่จะส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาฯ ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวเปราะบาง ราคาที่ดินที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัญหาหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง และสถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย
สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทในปี 2558 แม้จะมีปัจจัยบวกและลบหลากหลายปัจจัยเข้ามากระทบต่อตลาดอสังหาฯ แต่ด้วยความที่บริษัทมีการวางแผนกระจายความเสี่ยงไว้ล่วงหน้า 2 - 3 ปี มีการบริหารงานและทีมงาน รวมทั้งควบคุมความเสี่ยง (Risk Management) ไว้แล้ว ประกอบกับการวางแผนธุรกิจที่สอดรับกับสถานการณ์ ตลอดจนสามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดี ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องดี และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำ ซึ่งยังมีโอกาสขยายการลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
โดยในปี 2558 นี้ บริษัทวางแผนเปิดโครงการใหม่อีกกว่า 8-10 โครงการ มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยบริษัทจะขยายฐานลูกค้าไปยังลูกค้ากลุ่มแนวราบในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น ทั้งในส่วนของหัวเมืองหลัก และหัวเมืองชั้นรอง โดยยังคงเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็น Real Demand และต้องการความคุ้มค่าในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทมีการเจริญเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะยังคงสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องจากปีก่อน โดยได้ตั้งเป้ายอดขายในปี 2558 ไว้ที่ 3,120 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ที่ 2,650 ล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ประมาณ 12 %