กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--IR network
หัวเรือใหญ่ TPCH “เชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล” ปรับแผนธุรกิจใหม่มีกำลังการผลิต 150 เมกะวัตต์ เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 2 ปี โรงไฟฟ้าชีวมวลที่สตูล-พัทลุง ได้รับใบ รง. 4 เรียบร้อยแล้ว เดินหน้าก่อสร้างทันทีและเตรียมรับรู้รายได้ในปี59 ส่วนปีนี้มั่นใจโชว์ผลงานสวย หลังมีรายได้เพิ่มจากโรงไฟฟ้าชีวมวล 3 แห่ง แม่วงก์ จ.นครสวรรค์-มหาชัย จ.สมุทรสาคร-ทุ่งสัง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมเล็งผุดโรงไฟฟ้าชีวมวลให้ครอบคลุม 14 จังหวัดภาคใต้
นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH)เปิดเผยว่าบริษัทได้ปรับแผนในการดำเนินธุรกิจใหม่ ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิต 150 เมกะวัตต์ เร็วขึ้นกว่าแผนเดิมถึง 2 ปี ขณะที่โรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัท สตูล กรีน เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งมีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าเสนอขาย 9.2เมกะวัตต์ ที่จ.สตูล และบริษัท พัทลุง กรีน เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งมีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าเสนอขาย 9.2 เมกะวัตต์ ที่จ.พัทลุง ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง. 4) เรียบร้อยแล้วและปัจจุบันบริษัทมีความพร้อมที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวได้ทันที ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจาก โรงไฟฟ้าชีวมวลที่ จ.สตูล และจ.พัทลุง ในปี 2559 ส่วนโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ จ.ปัตตานี ของบริษัท ปัตตานี กรีน จำกัด ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)
“โรงไฟฟ้าชีวมวลที่พัทลุงและสตูล ได้รับรง.4 แล้ว ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม และวันที่ 24 ธันวาคม 2557 ตามลำดับ ซึ่งบริษัทก็มีความพร้อมที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวทันที โดยพัทลุง จะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 1 ปีนี้ และรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 ปีหน้า สตูล เริ่มการก่อสร้างไตรมาส 2 ปีนี้ และรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ปี 2559 ขณะเดียวกันปีนี้บริษัทจะมีโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ COD เพิ่ม 3 โรงคือที่แม่วงก์ นครสวรรค์ , ที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร และที่ทุ่งสัง จ.นครศรีธรรมราช ดังนั้นจะส่งผลให้ในปี 2558 บริษัทมีกำลังการผลิตเท่ากับ 40 เมกะวัตต์ และแผนเดิมที่เคยบอกว่า 5 ปี ข้างหน้าจะมีกำลังการผลิต 150 เมกะวัตต์ก็จะเร็วขึ้นคือมีกำลังการผลิต 150 เมกะวัตต์ภายใน 3 ปีข้างหน้าหรือเร็วขึ้นกว่าแผนเดิมถึง 2 ปี ” นายเชิดศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้บริษัทกำลังเดินหน้าศึกษาและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าหลายแห่งในภาคใต้และศึกษาโครงการเพื่อเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าเหล่านั้น ซึ่งปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการศึกษาเข้าซื้อกิจการประมาณ 5 โครงการ นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ซึ่งเป็นไปตามแผนการดำเนินธุรกิจที่บริษัทได้ตั้งเป้าหมายไว้คือเข้าซื้อกิจการที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทั้งในและต่างประเทศ
นายเชิดศักดิ์ กล่าวอีกว่า มั่นใจว่าธุรกิจของบริษัทมีแนวโน้มที่จะเติบโตแบบก้าวกระโดด และหุ้นของ TPCHมีความคุ้มค่าแก่การลงทุนด้วยปัจจัยสนับสนุนที่ประกอบด้วย 1.แผนธุรกิจที่ชัดเจนในการที่จะเพิ่มกำลังการผลิตจาก 10 เมกะวัตต์ เป็น 150 เมกะวัตต์ ภายใน 3 ปี และ 2.การสนับสนุนจากรัฐบาลโดยกำหนดราคารับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบใหม่เป็นระบบ Feed in Tariff อย่างไรก็ตาม บริษัทยังตั้งเป้าหมายที่จะมีโรงไฟฟ้าชีวมวลให้ครอบคลุมพื้นที่14 จังหวัด ของภาคใต้ เนื่องจากมีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจในพื้นที่ดังกล่าวเป็นอย่างดี