กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2558 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ร่วมกับ สำนักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานจังหวัดนครราชสีมา องค์การบริหารส่วนตำบลกระเบื้องใหญ่ อำเภอพิมาย และองค์การบริหารส่วนตำบลหินดาด อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา
จัดประชุมและพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางการวิจัยและพัฒนาเชิงพื้นที่ จังหวัดนครราชสีมา ภายใต้กรอบ แนวคิดการวิจัยเพื่อพัฒนาพื้นที่แบบบูรณาการ (Area Based Collaborative Research)
ณ ห้องประชุมคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 32.02.08 โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วิเชียร ฝอยพิกุล อธิการบดี เป็นประธานในพิธี พร้อมกล่าวต้อนรับ และชี้แจงแนวทางการวิจัยและพัฒนาเชิงพื้นที่
จากนั้นจึงเป็นพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ โดย อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา พร้อมด้วย นายปัญญา ศิลปะ เกษตรจังหวัดนครราชสีมา นายณรงค์ รักร้อย หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนครราชสีมา นางสุกันยา ฟุ้งพิมาย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกระเบื้องใหญ่ และนายพิบูลย์ แสงสุระ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหินดาด เป็นผู้ร่วมลงนาม ต่อด้วยการบรรยาย เรื่อง การวิจัยและพัฒนาเชิงพื้นที่ โดยได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วาสนา ภานุรักษ์ รองคณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฝ่ายวิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยี เป็นวิทยากรให้ความรู้ แล้วจึงเป็นการนำเสนอยุทธศาสตร์การพัฒนา การนำเสนอบริบทพื้นที่เป้าหมาย และปิดท้ายด้วยการเสนอแนวทางการวิจัยและพัฒนาเชิงพื้นที่
พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการครั้งนี้ มีขอบเขตความร่วมมือทางการวิจัยและพัฒนาเชิงพื้นที่ ในจังหวัดนครราชสีมาร่วมกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิจัยและพัฒนาแนวทางองค์ความรู้ด้านต่างๆ เกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนาเชิงพื้นที่ รวมไปถึงสามารถนำองค์ความรู้มาใช้ประโยชน์ได้จริงในการพัฒนาพื้นที่ให้แก่ประชาชน ซึ่งมหาวิทยาลัยได้อนุญาตให้หน่วยงานที่ร่วมลงนามทั้ง 4 หน่วยงาน สามารถใช้ห้องปฏิบัติการ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ได้ตามความเหมาะสม พร้อมทั้งได้มีการร่วมมือกันแสวงหาทรัพยากรจากแหล่งทุนภายนอก เพื่อเป็นทุนเสริมสำหรับการปฏิบัติงานวิจัยและพัฒนาเชิงพื้นที่ และได้มีการร่วมมือกันในด้านการพัฒนาบุคลากร โดยจัดให้มีการประชุม ฝึกอบรม สัมมนา และศึกษาดูงานระดับบัณฑิตศึกษา เพื่อพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากร ตลอดจนการแลกเปลี่ยนถ่ายทอดความรู้ทางวิชาการซึ่งกันและกัน โดยมีข้อตกลงร่วมกันเป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ลงนามเป็นต้นไป