กรุงเทพฯ--26 ม.ค.--อาร์เอส
หลังจากลูกสาวคนสวยปลดหนี้ให้ ตอนชีวิตก็ดีขึ้นสำหรับ “น้อย โพธิ์งาม” ตลกชื่อดังที่ตอนนี้หันมาเอาดีควงสากขายส้มตำเป็นงานหลัก แต่ก็ยังไม่วายมีข่าวม้าท์เกี่ยวก้อยลูกสาวคนงาม “หญิง-รฐา โพธิ์งาม” ไปงั้นดั้งอีกรอบ ว่ากันว่าทำแล้วดี ทำแล้วเฮง เท่านั้นยังไม่พอ แว่วมาว่าแม่น้อยอัพหน้ารอบนี้หวัง “งาบฝรั่ง” ตาน้ำข้าว เจอข่าวเม้าท์แรงแบบนี้เจ้าตัวเลยขอเปิดอก คุยแบบหมดเปลือกในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทาง “ช่อง 2” บันเทิง..ถึงรส ถึงคุณ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า....
ทำจมูกเสริมดวง ?
“ทำค่ะ น้องหญิงทำก่อน มีคุณหมอคนหนึ่งเขาถาม คือใจน้อยเองอยากเสริมให้ลูก เพราะว่าลูกเองเอามีสันอยู่แล้ว เขาเหมือนคุณพ่อเขาเผื่อมันจะดีขึ้น เขาก็บอกคุณแม่แค่นี้ก็พอแล้วมั้งเราไม่ได้เป็นนางเอก ลูกก็เริ่มเล่นละครนะ พอเสริมปุ๊บก็ได้เรื่องนี้ไง ฝากดินกลิ่นดาว แล้วพอจมูกเข้าที่ก็มาได้อีกเรื่องส้มตำรำซิ่ง เรื่องนี้ไม้พูดถึงไม่ได้ เรื่องนี้ทำเงินทำทอง เรื่องนี้ทำให้หญิงได้เอาเงินไปดาวบ้าน อันแรกที่หญิงได้เงินมาหญิงตั้งใจจะดาวบ้านก่อนเพื่อนเลย”
หน้าแม่น้อยเปลี่ยนไปเยอะจากวันเก่าๆ ทำอะไรเพิ่มมาบ้าง ?
“ก็มีข้างหน้าอย่างเดียวค่ะ(ชี้ที่สันจมูก) เพราะว่าสอยตรงปลายจมูกลงมานิดกนึ่ง แล้วว่าก็ว่ากันไปตอนนั้นมันลำบาก ไม่รู้จักแต่งตัวไม่รู้จักจะเสนอหน้าไปตรงไหนเลย พอได้ทำจมูกมันก็มีกำลังใจที่จะทำหน้าแต่งหน้าแต่งตาให้มันดูดีขึ้น งานเข้า มีคนโทรมา พี่คงไม่รับแล้วมั้งให้ลูกเล่นเถอะแล้วไปเล่นบทคนใช้มันจะไม่ได้อะไรเขา เราก็วางมานาน 7-8 ปีแล้วเนาะ เขาก็บอกเอาน่ามาเหลาใหม่ คุณแอน ทองประสม ไปเล่นปัญญาชนก้นครัว จากนั้นก็มีเรื่อยๆ มาหลายช่อง”
หมอดูทัก ใส่ดั้งใหม่แล้วจะดี ?
เฮียกวง ชลบุรี ไม่ใช่ว่าใส่ดั้งใหม่แล้วจะดีเพียงแต่บอกว่าน้อยจมทุกอย่าง มาตกเรื่องครอบครัวมีปัญหา ครอบครัวมีปัญหาก่อน แล้วก็มาโดนโงแชร์ แม่เสีย พ่อเสีย พ่อป่วยพ่อยังไม่เสียน้อยถูกรถชน พอถูกรถชนพ่อก็เสีย เขาก็บอกเฮ้ยพี่น้อยมันไม่ขึ้นเลย เฮียกวงเขาว่าเอาอย่างนี้ไหมพี่น้อยเปลี่ยนหน้า เขาพูดคำว่าเปลี่ยนหน้า ทำวิธีไหนเปลี่ยนหน้าเราก็นึกในใจ ก็มีหมออีกคนหนึ่งที่สะพานควายเขาบอกให้พี่น้อยเปลี่ยนชื่อ แล้วน้องหญิงก็เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุลด้วย น้อยบอกนามสกุลไม่ขอเปลี่ยน ตอนนั้นคุณพ่อยังอยู่ เพราะว่าตอนสมัยที่มีชื่อเสียงก็มี แต่ที่เรามาตกอับนี่เป็นเพราะกรรเก่าหรือเปล่า มันไม่เกี่ยวกับนามสกุล ก็เลยเปลี่ยนชื่อ”
เปลี่ยนชื่อแล้วเฮง ?
“ของน้องหญิงเปลี่ยนชื่อหมอที่สะพานควายค่ะ สะพานอะไรพัดๆ ซักอย่างเปลี่ยนเป็น รฐา จากตรงนั้นมาก็เป็นว่าน้องหญิงเริ่มดีขึ้นมา แต่ของอย่างนี้อย่าไปลบหลู่นะคะมันเป็นเส้นผมบังภูเขาจริงๆ บางครั้งเราไม่รู้ตื้นลึกหนาบางว่ายังไง ของมีจริงไหม แต่จังหวะของมันจริงๆ อย่างนั้น”
แม่น้อยเปลี่ยนชื่อเป็นอะไร ?
“จากที่พ่อตั้งให้อัญชุลี เป็นปภาวดี อันนี้พระอาจารย์พระธาตุสุธน ที่เด่นชัย พระอาจารย์มนตรีเป็นคนตั้งให้ เพราะตอนที่มีเรื่องกันน้อยไปทำสมาธิที่นั่นท่านบอกให้ไปนั่งอยู่ใต้ถุนวัดเลยนะ ไปล้างห้องน้ำ ท่านก็ช่วยด้วยทุกอย่าง ท่านก็สวดๆ ให้ทุกวันๆ ก็ดวงดีขึ้น ชีวิตเปลี่ยนไป ไอ้นั่นเข้ามา คนโน้นมาเอื้อเฟื้อ”
หลังจากเปลี่ยนชื่องานเข้าเลยเหรอ ?
“ถูกต้องค่ะ มีคนเอื้อเฟื้อให้สถานที่ขายส้มตำฟรี มีโอ้โน้น ไอ้นี่มา แต่ก่อนไปขายที่ไหนก็เขายังไม่เชื่อ ยังไม่รู้ไง”
เป็นต้นแบบให้คนเชื่อศัลยกรรมเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนชีวิต ?
“พอเปลี่ยนตรงนั้นมันทำให้รู้สึกว่า เออยู่ๆ ก็มีโฆษณาเข้ามา เขาเมตตาหญิง จริงๆ เงินทองเขาไม่ต้องให้เยอะก็ได้ หญิงก็เอาอยู่แล้ว แต่เขาเมตตาบอกว่าเป็นเด็กดี เขาให้เป็นรางวัลชีวิตกับหญิง”
คิดจะทำตรงไหนเพิ่มอีกไหม แม่ลูก ?
“ไม่แล้วค่ะ กลัวลูกเจ็บ ครั้งแรกที่จะทำจมูกก็กลัวลูกเจ็บ แล้วจมูกเขามีคือต้องไปดูตั้งแต่เทปแรกๆ นั่นจมูกเขาโด่งเหมือนคุณพ่อเขาอยู่แล้ว แต่ที่ทำคุณหมอโหงเฮงเขาบอกว่าอย่าให้น้ำตามันไหลข้ามไปข้ามมาของน้อยเนี่ยนะมันจะกั้นขวางไว้”
ไม่พ้นขี้ปากคน เขาเม้าท์แม่น้อยทำสวยกะจะหาสามีฝรั่ง ?
“โอ้ยยยยย คิดเอาเองรึป่าว มโนไปรึป่าว ผัวเดียวเมียเดียว ฉันไม่เอาหรอกเรื่องอย่างนี้ ฉันเบื่อ”
ก็มันมีข่าวมาอย่างนั้น ?
“เมื่อก่อนตอนที่เริ่มแย่ใหม่ๆ ได้มีไปโชว์ตัวที่เดนเวอร์ ช่วงนั้นเราก็ห่วงลูก เราไปไม่ได้นานเราไป แค่ 3 วัน บินไปก็บินกลับ พอถึงมาที่โน้นทางวัดให้คนมารับ ถึงโน้นก็ 5 โมงเย็นก็มีฝรั่งเดินลงมาจากเขา หัวทอง ถามว่าเขาหล่อไหม เราไม่ได้สังเกตด้วยความที่เราเป็นตลก ขึ้นเวทีซาวด์เช็ก เราก็ทักไฮ ฮาวอายู ฌวอร์ พูดคำที่เราเรียนมาแค่นี้ แอมฟาย แต๊งกิ้ง ยูบิวตี้ฟู เราก็แต๊งกิ้ว เราก็บอกว่าเขาว่า พลีสคัมเฮีย พอเขามาใกล้ๆ เราก็บอกไอเลิฟยู ยูเลิฟมี มันก็มุกของเราอ่ะ ไปอ่อยเขาก่อน มันคือความสนุก คือมุกตลกของเรา จากนั้นมากลางคืน กิฉันขี้หนาว เราก็ไปแต่งหน้าที่บ้านเจ้าภาพ อยู่ๆ ก็มีรถยาวๆ เขามารับเรา”
ฝรั่งคนนั้นเหรอ ?
“ใช่ค่ะ แล้วพอไปถึงหลังเวที ประมาณ 2 ทุ่ม เขาก็บอกยูไม่ต้องเรา ลงก็บอกเราหนาว โชเฟอร์ก็สตาร์ทรถ แต่ว่าเขาไม่เห็นเรานะ มันมีที่บัง เขามานั่งตรงหน้า เราก็แต่งหน้า ติดขนตา รถมันอุ่นไงคะ มันมีฮีตเตอร์ เรขาก็นั่งมอง เราก็คิดว่ามันโรคจิตรึป่าว เสร็จปุ๊บเราก็ขึ้นแสดง จังหวะนั้นมันเริ่ม 3-4 ทุ่ม น้อยจะยืนโชว์อยู่ 2 ชั่วโมง พอตอนสุดท้ายงานจะปิดก็เปิดฟลอเต้นรำ เปิดฟลอน้อยไปโค้งเขา แทนที่ฝรั่งจะมาโค้งเรา(หัวเราะ) เจ้าคนนี้เขาก็นั่งอยู่ข้างหน้าแหละ เขาก็นั่งยิอ้มปลื้มกับเราอยู่อย่างนั้น”
เขาขอแต่งงานเลยไหมวันนั้น ?
“จากเลิกงานวันนั้นเขาก็พาเรากลับบ้าน พี่ที่ดูแลเขาบอกว่าเดี๋ยวเขาต้องเก็บเงินเก็บทองให้น้อยก่อน ให้น้อยไปกับคุณมาร์คก่อน เขาชื่อมิสเตอร์มาร์ค ขับรถไป เขาพาไปวนที่ไหนไม่รู้ เป็นเหมือนบ้านดีสนีย์แลนด์ แหลมๆ แต่มันมืด แล้วพอเขาดีดนิ้วป๊อก ไฟเปิดหมดเลยค่ะ ไอ้นี่มันต้องเล่นกลแน่ๆ เลย(หัวเราะ)”
สรุปแล้วคืนนั้นกินฝรั่ง ?
“ไม่ได้ ไม่ได้คิดอะไร คุณขาลูกฝรั่งกินอยู่ แต่ฝรั่งกินไม่ได้ค่ะ มันไม่ได้อยู่ตรงตตาตุ่มนะ ดิฉันมีลูกสาว กิฉันต้องวางตัวนะคะ พอถึงบ้านเขาบอกคุณพิม(เจ้าภาพงานวันนั้น) บอกว่าให้น้อยให้ทำที่อยู่มา ไปแปลภาษมา ดิฉันก็ตามเขาบอกค่ะ ไปจ้างถนนวิทยุเขาแปลให้ 2,000 พอส่งไป พอจะโทรหาเขานะ ต้องผ่านคอมพิวเตอร์นะ ต้องบอกว่าน้อย เอ็น โอ ไอ น้อยโพธิ์งาม ไปบอกกับโอเปอร์เรเตอร์ ประเดี๋ยวหนึ่งมิสเตอร์มาร์ครับทันทีเลย”
โอกาสดี ทำไมไม่คว้า ?
“แล้วยิ่งกว่านั้นอะไรรู้ไหม ฉันบอกฉันขี้หนาว เดนเวอร์มันหนาวมาเขามาซื้อบ้านที่แคลิฟอเนีย แล้วเขาบอกว่าเขาจะแต่งงานกับน้อย แล้วจะมาเมืองไทย ตอนที่เขาคุยกับน้อยเขาอายุ 58 น้อยอายุ 52 ประมาณนั้นแหละมั้ง ตอนนั้นเราก็กำลังแย่ กำลังมีหนี้สิน เราก็กลัวเขาจะดูถูกเรา ว่าผู้หญิงไทยจะไปคว้าฝรั่ง”
คิดมากไปรึป่าว ?
“จะหาผัวคนที่ 2 ให้ลูกเรียกว่าพ่อนี่ลำบากนะ มันไม่ใช่ของง่ายนะ”
สุดท้ายก็ปฎิเสธเขาไป ?
“มันพูดฝรั่งไม่ได้ แต่พี่น้องชาวไทยที่อยู่ที่โน้นเขาก็บอกเดี๋ยวอยู่ๆ ไปก็จะพูดเป็นเอง มันเรียนได้ คู่ของเราเนี่ยจะสอน แล้วน้อยดูแล้วไปพูดกับเขาแล้วส่งภาษาไบ้กันตลอดมันยาก”
ติดตามบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ได้ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ได้ทางช่อง 2 ทุกวันจันทร์-ศุกร์เวลา 11.30 / 15.00 / 20.00 น. เสาร์-อาทิตย์11.00/15.00/20.00 และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/thaich2