กรุงเทพฯ--27 ม.ค.--อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ
อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ฉลองครบรอบ 25 ปี เปิดแผนโรดแม็พปี 58 ส่งยุทธศาสตร์โฟร์ซี (4C) ย้ำพลังความคิดสร้างสรรค์ เชื่อมโยงเครือข่าย สร้างดีเอ็นเอ เสริมรายได้มั่นคง ยึดผู้นำตลาดภูมิภาคอาเซียน ครองพื้นที่บริษัทอีเว้นท์อันดับ 7 ของโลก 3 ปีซ้อน
อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ผู้นำตลาดอีเว้นท์ในภูมิภาคอาเซียน บริษัทอีเว้นท์อันดับ 7 ของโลก ฉลองเปิดศักราชใหม่ครบรอบ 25 ปี วาง 4 ยุทธศาสตร์ โฟร์ซี ‘4C’ ปูรากฐานธุรกิจอย่างยั่งยืน 1. ย้ำพลังความคิดสร้างสรรค์ตั้งเป้าสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจหลัก 2. พร้อมเชื่อมโยงการบริหารงานในเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ 3. สร้างดีเอ็นเอพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์สู่สังคม 4. เสริมทัพธุรกิจอื่นเพื่อสร้างความแม่นยำให้กับรายได้และองค์กร ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจความคิดสร้างสรรค์ พร้อมลุยแข่งขันในปีเปิดประชาคมอาเซียน
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปีนี้อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 25 จากการดำเนินธุรกิจอีเว้นท์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของอินเด็กซ์ฯ ในวันนี้อินเด็กซ์ฯ มีความแข็งแกร่ง จนได้รับการจัดลำดับจากสหรัฐอเมริกาให้เป็นบริษัทครีเอทีฟ อีเว้นท์ อันดับ 7 ของโลก และจากการขยายตัวไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน อาทิ เมียนมาร์ เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ทำให้อินเด็กซ์ฯ เป็นที่ยอมรับในภูมิภาคอาเซียน นับเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจภายใต้ความคิดสร้างสรรค์ทางการตลาดแบบครบวงจร (Creative Solutions) ในปีที่ 25 นี้ อินเด็กซ์ฯ มีการวางแผนกลยุทธโดยยึดหลัก โฟร์ซี ‘4C’ ได้แก่
1.Creativity การตอกย้ำความเป็นผู้นำให้กับธุรกิจภายใต้ความคิดสร้างสรรค์
หลักการทำงานของอินเด็กซ์ฯ เชื่อในเรื่องการวิเคราะห์เข้าใจผู้บริโภค สร้างสรรค์งานที่ตอบโจทย์ ความต้องการของลูกค้า และมีผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริง รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ เพื่อสร้างมิติใหม่ให้กับวงการอีเว้นท์อย่างต่อเนื่อง
2.Connectivity เชื่อมโยงการบริหารงานในเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ
ด้วยอินเด็กซ์ฯ มีการขยายธุรกิจออกไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน และรูปแบบการทำงานที่ผ่านมาจะการดำเนินธุรกิจแบบ Co-Creation คือ การนำเอาจุดแข็ง ประสบการณ์ Know-How และความเชี่ยวชาญที่แตกต่างระหว่างอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ และคู่ค้าทางธุรกิจมาผนวกกัน จึงทำให้เพิ่มศักยภาพในการสร้างสรรค์งานได้ดีและมีประสิทธิภาพ
3.Community สร้างดีเอ็นเอพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์สู่สังคม
นับเป็นเจตนารมณ์ของอินเด็กซ์ฯ ด้วยความตั้งใจอย่างต่อเนื่อง ในการนำเอาความรู้ ประสบการณ์ ในการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านงานอีเว้นท์ มาร์เก็ตติ้ง และวิธีคิดการตลาดเชิงสร้างสรรค์ เพื่อถ่ายทอดให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ใช่เพียงแค่กรอบการศึกษาในรูปแบบเดิมๆ แต่เปิดกว้าง สร้างโอกาสการเรียนรู้ในสนามจริง นอกเหนือจากการสร้างองค์ความรู้แล้ว ยังถือเป็นการสร้างอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างมีมาตราฐานอีกด้วย
4.Concrete สร้างความแม่นยำและมั่นคงให้กับรายได้และองค์กร
เพื่อสร้างให้อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ สามารถคาดการณ์ตัวเลขได้ในแต่ละปีได้อย่างแม่นยำ จึงได้มีการรุกตลาดใน 6 ธุรกิจหลัก ได้แก่
1. งานประเภทอีเว้นท์ประจำปีและการจัดงานแสดงพิเศษในช่วงฤดูท่องเที่ยว (Festive Event & Seasonal show) การจัดงานอีเว้นท์ประจำปี รวมถึงการจัดงานแสดงพิเศษในช่วงฤดูท่องเที่ยว อาทิ งานเคาท์ดาวน์ และงานสงกรานต์ทั้งที่ประเทศไทยและเมียนมาร์ หรือการจัดงานแสดง “ดันดารี” ณ พระราชวังทองพุกาม (Bagan Golden Palace) ณ เมืองพุกาม ประเทศสาธารณรัฐเมียนมาร์ ในช่วงไฮซีซั่น เดือนพฤศจิกายน – มีนาคม ของทุกปี
2. การบริหารจัดการเทรดโชว์ และเอ็กซิบิชั่นอย่างมืออาชีพ (Trade Show & Professional exhibition organizer) บริหารจัดการงานแสดงสินค้า โดยอินเด็กซ์ฯ ตั้งเป้าในการจัดงาน 4 งาน ได้แก่ งานเทรดโชว์อาหารและเครื่องดื่ม (Myanmar International Food & Beverage) โรงแรม ร้านอาหารและธุรกิจจัดเลี้ยง (Myanmar HoReCa) ด้านการแพทย์และสุขภาพ (Myanmar MediHealth & Wellness) ด้านก่อสร้างและสถาปนิก (Myanmar Architect & Decor) ด้านการศึกษา (Myanmar International Education Fair)เพื่อรองรับการเติบโตในหลากหลายอุตสาหกรรมที่จะมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในประเทศเมียนมาร์
3. สื่ออินเตอร์แรคทีฟ ณ จุดขาย (Interactive In-store Media) อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ นับว่าเป็นผู้นำเรื่องเทคโนโลยี โพรไวเดอร์ (Technology Provider) สำหรับสื่อ ณ จุดขาย อินสโตร์ มีเดีย (In-store Media) ยังให้บริการสร้างสรรค์คอนเทนท์ (Content Creator and Management) ทางบริษัทยังเป็นเหมือนผู้ช่วยสร้างสรรค์ด้านกลยุทธ์ให้กับลูกค้า โดยได้มีการพัฒนาสื่อดิจิตอล ที่มีความหลากหลายตอบโจทย์การใช้งานในด้านต่างๆ อาทิ เช่น อินเตอร์แอคทีฟ คิออส (Interactive Kiosk) ที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ข้อมูล ในระบบสัมผัส ดิจิตอล ไพรซ์ แท็ก (Digital Price Tag) ที่สามารถติดตั้งไว้ที่ชั้นวางสินค้าต่างๆ ใช้แสดงราคา เสนอวิดีโอโฆษณา และ จุดเด่นของผลิตภัณฑ์นั้นๆ อินเตอร์แอคทีฟ ฟลอล์ (Interactive Floor) การฉายภาพลงบนพื้นจากโปรเจคเตอร์ ซึ่งสามารถดึงดูดให้ผู้คนมีส่วนร่วมได้ หรือ ดิจิตอล ทรานส์พาเร้นท์ ฟริดจ์ (Digital Transparent Fridge) คือ ตู้แช่เครื่องดื่ม ที่เพิ่มพื้นที่สำหรับการโฆษณาช่วยโปรโมตสินค้าให้กับแบรนด์ต่างๆ เป็นต้น
4. งานประเภทนิทรรศการถาวรหรือพิพิธภัณฑ์ (Permanent Exhibition & Museum) งานด้านการออกแบบจัดแสดงพิพิธภัณฑ์และนิทรรศการถาวร ด้วยการผนวกเอาความความเชี่ยวชาญด้านการวางแผนผัง การออกแบบโครงสร้าง กราฟิก ผนวกกับ เนื้อหา เทคนิคการจัดแสดง และระบบแสง เสียงภายในพิพิธภัณฑ์ รวมถึงการนำเทคโนโลยี มาใช้เพื่อตอบโจทย์การเติบโตของตลาดพิพิธภัณฑ์ และนิทรรศการระยะยาว ซึ่งเป็นธุรกิจกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
5. การผลิตรายการโทรทัศน์ (Creative Content TV Program) อินเด็กซ์ฯ มีทีมงานผลิตรายการโทรทัศน์มาเป็นระยะเวลาถึง 10 ปีด้วยกัน ด้วยผลจากการเติบโตของทีวีดิจิตอลในประเทศไทย ทำให้อินเด็กซ์ฯ มีรายได้จากการผลิตรายการหลากหลายรูปแบบป้อนให้กับทีวีดิจิตัลช่องต่างๆ อย่างก้าวกระโดด และจากความเชี่ยวชาญของทีมงาน และลายมือที่ต่างจากรายการโทรทัศน์โดยทั่วไปในท้องตลาด อินเด็กซ์ฯ ยังได้ก้าวออกนอกประเทศ โดยผลิตรายการป้อนให้กับช่อง MRTV4 ช่องยอดนิยมที่สุดในเมียนมาร์
6. การบริการด้านการตลาดประเทศในกลุ่มอาเซียน (ASEAN Hub) อินเด็กซ์ฯ ได้เริ่มเข้าไปทำตลาดในภูมิภาคอาเซียนตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งช่องรายได้ใหม่ ที่มีอัตราเติบโตแบบก้าวกระโดด จนในขณะนี้ อินเด็กซ์ฯ กลายเป็นผู้นำในตลาดอาเซียน โดยเฉพาะในเมียนมาร์ ที่ไม่ได้ทำเพียงแค่อีเว้นท์ แต่ยกรูปแบบการทำธุรกิจในประเทศไทยไปด้วย ทำให้ตอบสนองและครอบคลุมงานด้านการตลาดในทุกมิติ ช่วยเชื่อมโยงลูกค้าทั้งจากเมืองไทยและต่างประเทศเข้าสู่ตลาดอาเซียน รวมถึงการดึงเม็ดเงินกลับสู่ประเทศไทยอีกด้วย โดยมีลูกค้าทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชนทั้งไทย และเมียนมาร์ รวมถึง แบรนด์ระดับโลกอีกด้วย
อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ เชื่อมั่นว่าด้วยยุทธศาสตร์ โฟร์ซี ‘4C’ ดังกล่าว ‘Creativity Connectivity Community และ Concrete’ จะตอกย้ำความเป็นผู้นำให้กับธุรกิจภายใต้ความคิดสร้างสรรค์ วางรากฐาน และโครงสร้างของธุรกิจเดิมที่มีอยู่ให้แข็งแรง และเติบโตอย่างต่อเนื่อง สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าทั้งไทย และต่างประเทศ สร้างฐานรายได้ที่มั่นคงให้กับบริษัท ครองความเป็นผู้นำตลาด และตอบรับกับการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นในปีแห่งการเปิดประชาคมอาเซียนอย่างแน่นอน” นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน กล่าวทิ้งท้าย