กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--กรมสุขภาพจิต
จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในขณะนี้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าผู้กระทำมีความผิดปกติทางจิตหรือไม่นั้น นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้ชี้ว่า ผู้กระทำ น่าจะ มีความผิดปกติทางจิต อยู่ในกลุ่มกามวิตถาร (Paraphilia) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีจำนวนน้อยมาก และบางกลุ่มก็ไม่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นความผิดปกติทางจิต เป็นเพียงรสนิยมทางเพศ บางคนสามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้สูงอายุได้โดยไม่มีความรุนแรง แต่เนื่องจากในคนๆเดียวสามารถกระทำเช่นนี้ซ้ำได้ จึงทำให้มีเหยื่อมากขึ้น และเป็นอันตรายต่อสังคมเมื่อมีความรุนแรงร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม ต้องขอย้ำว่า กรณีนี้ ผู้กระทำ ไม่ใช่ “โรคจิต” (Psychosis) อย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะ “โรคจิต” คือ ผู้ป่วยทางจิตที่หูแว่ว ประสาทหลอน คนโรคจิตก่อคดีที่เห็นได้ชัด คือ กรณีของหญิงสาวที่ใช้มีดจ้วงแทงเด็กนักเรียนโรงเรียนดัง กลางกรุงเทพ มหานครเมื่อหลายปีก่อนเนื่องจากมีเสียงแว่วมาสั่งให้ทำ
เหตุการณ์นี้ยังสะท้อนให้เห็นว่า กระบวนการยุติธรรมและกระบวนการนิติจิตเวชต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและประสานการทำงานให้เป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันมีความร่วมมือกันอยู่ในระดับหนึ่ง เป็นความร่วมมือกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุขโดยสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิตและกระทรวงยุติธรรม โดย กรมราชทัณฑ์ ในการดูแลกายใจผู้ต้องขังจิตเวชในเรือนจำ ลดการกระทำผิดซ้ำภายหลังการพ้นโทษ เพื่อความปลอดภัยของสังคม อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่เกิดขึ้น ได้สั่งการให้สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์เตรียมความพร้อมในกระบวนการพิสูจน์ทราบหรือตรวจวินิจฉัย หากได้รับการประสาน ซึ่งขึ้นอยู่กับเจ้าพนักงานสืบสวน สอบสวน โดยจะไม่ก้าวล่วงอำนาจหน้าที่และการปฏิบัติงานของกันและกันแต่อย่างใด ระยะเวลาในการตรวจพิสูจน์จะอยู่ที่ 2 สัปดาห์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว
ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ผอ.สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า พฤติกรรมของผู้กระทำ อาจมีความผิดปกติทางจิต ซึ่งอยู่ในกลุ่มกามวิตถาร (Paraphilia) ที่เรียกว่า จี โร ฟีเลีย(Gerophilia) หรือ เจอรอนโตฟีเลีย (Gerontophilia) ที่มีความต้องการทางเพศกับคนสูงอายุ เป็นภาวะที่ต้องการได้รับความสุข ความพอใจทางเพศกับคนสูงอายุ หรือคนแก่ อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับการชอบร่วมเพศกับเด็ก (Pedophilia) ร่วมเพศกับศพหรือสัตว์ การถูไถอวัยวะเพศกับสิ่งของต่างๆ ถ้ำมอง ชอบโชว์ หรือ ซาดิสต์ เป็นต้น แต่ในบางกลุ่มก็ไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นความผิดปกติ เป็นเพียงรสนิยมทางเพศอย่างหนึ่งเท่านั้น
หากถูกจับได้จะได้รับการลงโทษหรือลดหย่อนโทษหรือไม่นั้น ผอ.สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับรูปคดี ซึ่งกรณีนี้มีการฆ่าร่วมด้วยจึงต้องมาดูที่มูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ หรือมีโรคร่วมทางจิตอื่นๆหรือไม่ สำหรับแนวทางการรักษา จะประกอบด้วย การบำบัดทางกาย จิต และสังคม ได้แก่ การใช้ยา เช่น ฉีดยาคุมกำเนิดที่ใช้กับผู้หญิง เพื่อลดความต้องการทางเพศลง การทำจิตบำบัด พฤติกรรมบำบัด การเรียนรู้ในเชิงลบของผลที่เกิดขึ้น และการฟื้นฟูให้อยู่กับสังคมได้ รวมทั้ง การระแวดระวังของสังคมเมื่อพ้นคดีที่ต้องมีการระบุว่าอยู่ที่ไหนเพื่อให้สังคมรับทราบและเฝ้าระวังต่อไป
แนวทางสังเกตบุคคลที่เข้าข่ายมีอาการในกลุ่มกามวิตถาร อาทิ กลุ่มที่ชอบร่วมเพศกับเด็ก สามารถดูได้จากการชอบคลุกคลีอยู่กับเด็กหรือเอ็นดูเด็กเกินปกติ รวมทั้งชอบอยู่กับเด็กตามลำพัง ซึ่งเช่นเดียวกับกลุ่มผู้สูงอายุ ทั้งนี้ ถ้ามีพฤติกรรมเชิงชู้สาวมากเกินไปให้ควรระวังเป็นพิเศษ ผอ.สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กล่าว