กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--อีริคสัน
- ความร่วมมือนี้มีจุดหมายเพื่อประเมินและทดสอบเทคโนโลยี 5G เพื่อการวางมาตรฐานในอนาคต
- การสำรวจนั้นประกอบด้วย Cloud Core เทคโนโลยีสัญญาณวิทยุและเทคโนโลยีสื่อสารระหว่างเครื่องจักร
- มีการร่วมมือวางแผนและสำรวจเทคโนโลยีและสถาปัตยกรรม 5G
SingTel และอีริคสัน ได้ประกาศความร่วมมือเพื่อทำการประเมินและทดสอบเทคโนโลยีที่จะเป็นตัวเลือกในการสร้างมาตรฐาน 5G ในอนาคตแล้ววันนี้
ทั้งสองบริษัทได้ลงนามในการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อที่จะสำรวจอนาคตของเครือข่าย 5G และเพื่อที่จะตอบสนองการใช้งานหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ระดับผู้บริโภคไปจนถึงระดับอุตสาหกรรม โดยทั้งสองบริษัทจะศึกษาว่าเทคโนโลยี 5G จะสนับสนุนวิสัยทัศน์ในการเป็น"ประเทศอัจฉริยะ" (Smart Nation) ของสิงคโปร์ได้อย่างไร
คุณเทย์ ซู เมง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของกลุ่มบริษัท SingTel กล่าวว่า "เราเห็นว่าเทคโนโลยี 5G นั้นมีศักยภาพที่จะสนับสนุนความต้องการสื่อสารที่ก้าวหน้ามากในอนาคต เรามีความกระตือรือร้นที่จะสำรวจ ศึกษาและเป็นไปได้ว่าจะทดลองเทคโนโลยี 5G ต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่า SingTel จะรักษาความเป็นผู้นำในด้านการสื่อสารเครือข่ายเคลื่อนที่"
คุณแซม ซาบ้า ประธานอีริคสันประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียกล่าวว่า "เครือข่าย 5G จะทำให้ อีริคสันเข้าถึงวิสัยทัศน์ของสังคมเครือข่ายได้อย่างเต็มที่ โดยสังคมเครือข่ายนั้นเป็นสังคมที่ทุกอย่างสามารถเชื่อมต่อถึงกันและจะเชื่อมต่อถึงกัน ความร่วมมือกับ SingTel นี้ทำให้เราสามารถสำรวจโอกาสที่อาจเกิดขึ้นด้วย 5G ด้วยการใช้เทคโนโลยีในระดับแนวหน้าของเราเพื่อพัฒนาโซลูชั่นและมอบพลังให้แก่ผู้คน ธุรกิจและสังคมสิงคโปร์
อีริคสันคาดว่าจะมีการเริ่มนำ 5G ไปใช้ประมาณช่วงปี 2020 ทาง อีริคสัน จึงมุ่งเน้นศึกษาว่าทางอุตสาหกรรมทั่วโลกจะนำมาตรฐาน5G ไปใช้อย่างไรเพื่อมอบขีดความสามารถและบริการที่เหนือกว่าเครือข่าย 4G กระแสหลัก
ทั้งสองบริษัทนั้นจะทำการตั้งทีมเพื่อทำการศึกษาเทคโนโลยีที่อาจมีการนำมาใช้เป็น 5G ซึ่งสามารถใช้งานได้ในสิงคโปร์ ข้อตกลงนี้จะเอื้อความยืดหยุ่นให้แก่ทั้ง อีริคสัน และ SingTel ในการสำรวจหลากหลายด้าน เช่นเทคโนโลยีที่จะสนับสนุนการสื่อสารระหว่างเครื่องจักร (MTC) ในระดับใหญ่มหึมาและการพัฒนาเครือข่ายที่มีพื้นฐานบนคลาวด์