กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--โรงแรม วี กรุงเทพฯ
เชฟระดับมิชลินสตาร์ Frédéric Simonin ได้จัดเตรียม 5 ซิกเนเจอร์เมนูเด่น สำหรับช่วงเวลาสุดแสนโรแมนติก ในวันที่ 12 ถึง 14 กุมภาพันธ์ 2558 นี้ ให้ท่านได้เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาแห่งความรักไปพร้อมกับอาหารและคู่รักของคุณ ซึ่งเป็นความทรงจำที่ไม่สามารถสัมผัสที่ไหนได้อีกแล้ว...
Apéritif : Champagne Gosset Excellence Brut
Amuse-bouche
Tendre Gelée de Citron Crème de Fenouil Glacer et Basilic
เยลลี่ครีมมะนาว ใบโหระพาและยี่หร่า
Starters
Le Tourteau Servi en Cannellonis de Gelée De Crustacées, Grain de Caviar Sevruga
Crab served in Cannellonis of Shellfish Jelly, Sevruga Caviar
เนื้อปูยัดใส้ในเส้นพาสต้าเย็ลลี่ที่ทำจากน้ำสต๊อกกุ้งเสริฟพร้อมคาร์เวีย
Château Carignan Prima Cadillac Cotes de Bordeaux, France 2010
Les Raviolis de Foie Gras, dans un Bouillon de Crevette Grise Parfumé au Gingembre et Citronnelle
Raviolis Foie Gras in a Grey Shrimp Bouillon flavoured with Ginger and Lemongrass
เกี๊ยวแบบอิตาเลี่ยนยัดใส่ตับห่านกับซอสกุ้งกับขิงและตะใคร้
La Chapelle de St.Dominique IGP Pays de I'Herault, France 2007
Main Courses
Le Saint Pierre De Ligne, Daikôns Fondants, Kombawa et Galanga , Fleur d'ail aux Saveurs de Sichuan
Line-caught Saint Pierre, Melted Daikôn, Kombawa and Galanga, Garlic Blossom flavoured with Sichuan
ปลา John Dory ตุ๋นแบบยุโรป
Château Ferran Blanc, Pessac-Leognan, France 2010
Bœuf Wagyu Condiment Truffe Cebette et Fleur d’ail, Gnocchis Vert, Blette Fondante Crémée et Aillée
Wagyu Beef served with a Consommé Flavoured with Lemon Leaf
เนื้อวากิวซอสใสโรยด้วยใบเลมอน
Château Lalande - Borie, Saint Julien, France 2009
Dessert
La Meringue Craquante, Confit de Mangue et Sorbet Exotique
Crunchy Meringue, Mango Glaze, Exotic Fruit Sorbet
เมแรงครัชชี่ กับมะม่วงและผลไม้เชอเบ็ท
มื้อค่ำเริ่มเสิร์ฟเวลา 19:00 น. เป็นตันไป
ค่ำคืนสุดแสนโรโรแมนติก ที่ ห้องอาหารฝรั่งเศส La VIE – Creative French Cuisine โรงแรม วี กรุงเทพฯ กับอาหารชุดมื้อค่ำ 5 คอร์ส ราคา 7,000 บาท ต่อท่าน ไม่รวมไวน์ และ ราคา 9,000 บาท ต่อท่าน รวมไวน์จับคู่ 5 ชนิด
Frédéric Simonin เริ่มทำอาหารเมื่ออายุเพียง 15 ปี ในเมืองบริตตานี ประเทศฝรั่งเศส และเขาได้ร่วมทำงานกับภัตตาคารระดับ High-end เช่น ภัตตาคาร Meurice, Tailevent และ George V และเขาได้เรียนรู้ศิลปะการประกอบอาหาร และธุรกิจด้านภัตตาคารเป็นอย่างดี
ในปี 2545 Frédéric ได้รับเลือกมาเป็น Executive Sous Chef ที่ภัตตาคาร Ghislaine Arabian ต่อมาเมื่อเชฟ Ghislaine Arabian ออกจากภัตตาคารดังกล่าว Frédéric ก็ได้ขึ้นเป็นเชฟใหญ่ของภัตตาคารที่ได้รับรางวัลมิชลิน เมื่อตอนเขาอายุเพียง 27 ปีเท่านั้น
ในปี 2547 Frédéric ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และถูกขนานนามว่าเป็นเชฟแห่งทศวรรษ “Chef of the Century” ต่อจากนั้นเชฟระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาว อย่าง Joël Robuchon ได้ชักชวน Frédéric ให้มาเป็น เชฟใหญ่ของภัตตาคารของเขา “La Table de Joël Robuchon” ในปารีส ทำให้ภัตตาคารดังกล่าวได้รับรางวัลระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาว
ในปี 2549 Frédéric ได้ถูกทาบทามจาก Joël Robuchon ให้มาเป็น Executive Chef ของภัตตาคารใหม่อีกร้านนึงของเขาในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ และทำให้ภัตตาคารดังกล่าวได้รับรางวัลระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาว
ในปี 2553 Frédéric ได้เปิดภัตตาคารของตัวเองชื่อ Frédéric Simonin Restaurant และได้รับรางวัลระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาว เป็นของตัวเองสำหรับอาหารที่ปราณีตละเอียดอ่อนที่หาใครเหมือนได้ยาก