กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แจงผลการดำเนินงานปี 2557 สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้จำนวน 142,697 ล้านบาท เกินกว่าเป้าสินเชื่อปี 2557 ที่ตั้งไว้ 134,000 ล้านบาท พร้อมบริหารจัดการลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ได้ดีกว่าเป้าหมาย โดย NPL คงเหลือ 42,613 ล้านบาท คิดเป็น 5.36% ของสินเชื่อคงค้าง ลดลงจากปี 2557 จำนวน 2,436 ล้านบาท สำหรับปี 2558 ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อปล่อยใหม่ตามแผนธุรกิจ จำนวน 140,700 ล้านบาท พร้อมเดินหน้ายุทธศาสตร์เชิงรุกนำองค์กรสู่ความเป็นเลิศทุกด้าน ควบคู่กับกลยุทธ์มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) โดยสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรและคู่ค้าในการปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินเพื่อสามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ทุกระดับ และเดินหน้าโครงการยกระดับมาตรฐานการให้บริการที่ดีทั่วทั้งองค์กรอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “ธอส.บริการด้วยหัวใจ” เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด ตอกย้ำภาพลักษณ์ “ธนาคารมั่นคงทันสมัย และเป็นผู้นำสินเชื่อด้านที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร”
นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2557 เมื่อเทียบกับปี 2556 ว่า ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 142,697 ล้านบาท สูงกว่าปีที่ผ่านมา 15,858 ล้านบาท และเกินเป้าหมายปี 2557 ที่ตั้งไว้ 134,000 ล้านบาท เป็นจำนวน 8,697 ล้านบาท โดยเป็นสินเชื่อปล่อยใหม่วงเงินไม่เกิน 1.5 ล้านบาท จำนวน 66,586 ล้านบาท คิดเป็น 46.66% ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวม 794,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.85% ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่จำนวน 42,613 ล้านบาท คิดเป็น 5.36% ของยอดสินเชื่อรวม ลดลงจาก ณ สิ้นปี 2556 ซึ่งมี NPL อยู่ที่ 45,049 ล้านบาท หรือ 6.12% ของสินเชื่อรวม ซึ่งลดลง 2,436 ล้านบาท นับว่าธนาคารสามารถบริหารจัดการหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ดีกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ ขณะที่ทรัพย์สินรอการขาย (NPA) คงเหลือจำนวน 1,491 ล้านบาท ลดลง 10.31% เมื่อเทียบกับปีก่อน ด้านสินทรัพย์ธนาคารมีสินทรัพย์รวม 824,998 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58,724 ล้านบาท คิดเป็น 7.66% เงินฝากรวม 652,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52,464 ล้านบาท คิดเป็น 8.75%
จากตัวเลขผลการดำเนินงานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า แม้ในปีที่ผ่านมาจะเกิดเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจ แต่ด้วยความมุ่งมั่นและร่วมแรงร่วมใจภายในองค์กร ธนาคารสามารถดำเนินธุรกิจได้บรรลุเป้าหมายทุกด้าน สามารถเป็นสถาบันการเงินหลักในการสร้างโอกาสให้คนไทยโดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อยและปานกลางมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองถึง 120,579 ราย ซึ่งเป็นไปตามพันธกิจหลักของ ธอส.
นอกจากนี้ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่รองรับความต้องการของลูกค้าทุกระดับ และมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี อาทิ โครงการบ้าน ธอส.เพื่อสานรัก ปี 2557 สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระซึ่งมีรายได้สุทธิไม่เกิน 15,000 บาท/เดือน มียอดอนุมัติสินเชื่อ ณ สิ้นปี 2557 จำนวน 6,422 บัญชี วงเงิน 4,655 ล้านบาท รวมถึง 2 โครงการสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและคืนความสุขให้แก่ประชาชนตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. คือ โครงการสินเชื่อบ้าน ธอส. เพิ่มสุข สำหรับลูกค้าเดิมที่มีประวัติการผ่อนชำระดีจะได้รับสิทธิ์กู้เพิ่ม ยอดอนุมัติสินเชื่อ 2,340 ล้านบาท 10,268 บัญชี และโครงการสินเชื่อ ธอส. มีบ้าน มีสุข 1 และ 2 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษคงที่ 3.50% ต่อปี นาน 2 ปีแรก ยอดอนุมัติสินเชื่อรวม 13,551 ล้านบาท หรือ 10,170 บัญชี เป็นต้น
“ขณะเดียวกันยังได้จัดทำโครงการยกระดับมาตรฐานการให้บริการที่ดีทั่วทั้งองค์กรเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยจัดทำ “คู่มือมาตรฐานการให้บริการที่ดีทั่วทั้งองค์กร” เพื่อให้พนักงาน ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศถือปฏิบัติ มีการขยายพื้นที่การให้บริการแก่ลูกค้าและประชาชน โดยการเปิดสาขาใหม่ในปี 2557 จำนวน 12 แห่ง และขยายพื้นที่การให้บริการของสาขาเดิมอีก 9 แห่ง โดยเฉพาะตามหัวเมืองใหญ่ในภูมิภาคต่างๆ ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2557 ธนาคารมีจำนวนสาขารวม 202 แห่ง ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการของ ธอส.ได้สะดวกยิ่งขึ้น สำหรับปี 2557 นับเป็นอีกปีหนึ่งที่ธนาคารประสบความสำเร็จโดยนิตยสารดอกเบี้ย และหนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจ ได้ประกาศยกย่องให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์เป็น “สุดยอดธนาคารแห่งปี 2557” หรือ “Bank of the Year 2014” และ “สุดยอดนักการธนาคารแห่งปี 2557” หรือ “Banker of the Year 2014” นางอังคณากล่าว
นางอังคณา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวทางการดำเนินงานปี 2558 ธนาคารยังคงมุ่งเน้นความมั่นคงและความยั่งยืนขององค์กร เพื่อให้สามารถดำเนินตามพันธกิจเพื่อสร้างโอกาสให้คนไทยโดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อยและปานกลางสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำได้ง่ายยิ่งขึ้น ธนาคารกำหนดเป้าสินเชื่อปล่อยใหม่ไว้จำนวน 140,700 ล้านบาท และให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ดูแลลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ตลอดจนนโยบายดูแลลูกค้าตลอดอายุสัญญากู้ แม้ในระหว่างผ่อนชำระเงินงวดลูกค้าประสบปัญหาวิกฤตจากภัยธรรมชาติไม่สามารถชำระเงินงวดค่าบ้านได้ ธนาคารมีมาตรการช่วยเหลือลดภาระเงินงวดเพื่อให้ลูกค้ามีกำลังผ่อนชำระเพื่อให้สามารถรักษาบ้านเป็นของตนเองไว้ได้
นอกจากนี้ธนาคารยังมีนโยบายด้านผลิตภัณฑ์และสร้างความร่วมมือกับพันธมิตร / คู่ค้า คิดค้นปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ๆเพื่อสามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ทุกระดับ และเดินหน้าโครงการยกระดับมาตรฐานการให้บริการที่ดีทั่วทั้งองค์กรอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “ธอส.บริการด้วยหัวใจ” เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด โดยธนาคารได้จัดทำยุทธศาสตร์เชิงรุกในการเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจ ในด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการทางการเงินเพื่อสามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ทุกกลุ่ม เพิ่มช่องทางการให้บริการ ขยายสาขา คลอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงการเพิ่มช่องทางการให้บริการทางInternet & Mobile Banking พร้อมๆกับการบริหารต้นทุนที่เหมาะสมเพื่อนำมาปล่อยสินเชื่อเพื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำให้กับลูกค้าและประชาชน
ในการดำเนินการ ธนาคารมุ่งเน้นยุทธศาสตร์ในการสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อสร้างความพึงพอใจและความผูกพันกับลูกค้า ผ่านกิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์กับลูกค้าและผู้มีได้ส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งจะนำมาสู่ความร่วมมือที่ช่วยให้เราสามารถพัฒนานวัตกรรมทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคารที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจรและยั่งยืน อาทิ การออกแบบนวัตกรรมสินเชื่อบ้านสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่มสาขาอาชีพ เพื่อตอกย้ำแบรนด์ ธอส. ที่เป็นที่หนึ่งในด้านสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
สำหรับยุทธศาสตร์ในการบริหารงาน ธนาคารจะส่งเสริมระบบธรรมาภิบาล/ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CG/CSR ให้เข้มแข็ง โดยการรับฟังความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และการเผยแพร่ข้อมูลการดำเนินงานสู่ภายนอกอย่างมีธรรมาภิบาล นอกจากนี้ ธนาคารยังมุ่งเน้น การพัฒนาทุนมนุษย์และองค์กรแห่งการเรียนรู้ ด้วยการสร้างความพร้อมของบุคลากรต่อการดำเนินยุทธศาสตร์ สร้างบุคลากรที่มีความสามารถสูง ปลูกฝังค่านิยมองค์กร (GIVE) ประกอบด้วย “ยึดมั่นธรรมาภิบาล (Good Governance) สร้างสรรค์สิ่งใหม่ (Innovative Thoughts) ร่วมใจทำงาน (Value Teamwork) บริการเป็นเลิศ (Excellent Services) และจัดการความรู้แบบมีส่วนร่วมของพนักงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากขึ้น
ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ ข้างต้นถือเป็นส่วนสำคัญที่จะนำธนาคารสู่ความเป็นเลิศทุกด้าน และทำให้ธนาคารสามารถเดินหน้าไปสู่เป้าหมายสำคัญของธนาคารภายในปี 2562 ที่ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อคงค้าง 1 ล้านล้านบาท สัดส่วน NPL ลดลงเหลือ 4.00% รวมถึงเป็นผู้นำสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางอีกด้วย