กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--กระทรวงแรงงาน
ดร.นพดล กรรณิกา ที่ปรึกษา รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า หลังจากได้ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคำสั่ง คสช.ที่ 100 มุ่งเน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ กระทรวงแรงงานโดย พล.อ.สุรศักดิ์ กายญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวแรงงานได้เร่งรัดให้ชุดเฉพาะกิจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลงพื้นที่บังคับใช้กฎหมายทั้ง พรบ.ควบคุมการทำงานของแรงงานต่างด้าวและ พรบ. คุ้มครองแรงงาน ด้วยการสนธิกำลังระหว่างข้าราชการกระทรวงแรงงานร่วมกับตำรวจ ทหาร ข้าราชการกรุงเทพมหานคร กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และอื่นๆ เข้าตรวจสอบพื้นที่ที่มีการใช้แรงงานในการก่อสร้างในพื้นที่ สน.บางโพ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พบแรงงานกัมพูชา 67 คนเป็นกลุ่มที่ 1 มีพาสปอร์ตแต่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน จำนวน 52 คน กลุ่มที่ 2 ไม่มีใบอนุญาตและไม่มีเอกสารประจำตัวใดๆ เลยจำนวน 11 คน และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มทำงานผิดพื้นที่ จำนวน 4 คน
“การสนธิกำลังครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและ คสช.เชิงป้องกันและให้ความรู้แก่ทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ นายจ้าง และลูกจ้างแรงงานต่างชาติ หลังจากพบเจ้าหน้าที่รัฐผู้ปฏิบัติยังไม่มีความพร้อมทั้งความรู้ความเข้าใจและแนวปฏิบัติการคัดแยกเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ แต่ถ้าเป็นข้อกฎหมายควบคุมแรงงานต่างด้าวและกฎหมายคุ้มครองแรงงานพบว่า เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติทำตามหน้าที่ได้ดี เช่น แจ้งนายจ้างให้คืนเอกสารประจำตัวแก่แรงงานต่างชาติทุกคนถือติดตัวไว้ไม่ใช่ให้ถือสำเนาเอกสาร สั่งให้นายจ้างจ่ายเงินค่าจ้าง 300 บาทต่อวันครบถ้วน และปรับนายจ้างที่จ้างงานต่างชาติโดยยังไม่มีใบอนุญาตให้ทำงาน เป็นต้น” ที่ปรึกษา รมว.แรงงาน กล่าว
ที่ปรึกษา รมว.แรงงาน กล่าวต่อว่า สำหรับแรงงานกัมพูชาจำนวน 15 คน ต้องถูกส่งตัวกลับประเทศเพราะทำผิดกฎหมายควบคุมแรงงานต่างด้าว แต่ทุกคนจะได้รับการจ่ายเงินค่าจ้างก่อนส่งตัวกลับและจะมีเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน 2 หน่วยงานคือ กรมการจัดหางาน และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานคอยดูแลให้ทุกคนกลับบ้านในประเทศกัมพูชาอย่างปลอดภัยพร้อมเงินค่าจ้างที่ได้ทำงานกับนายจ้างก่อนการจับกุมตามแนวทาง “Protect, Pay, and Bring Them Home” หรือที่ว่า คุ้มครอง คัดกรอง รับค่าจ้าง ผลักดันกลับประเทศ โดยจะปฏิบัติกับแรงงานทุกชาติเท่าเทียมกัน