กรุงเทพฯ--3 ก.พ.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเปิดการสัมมนารับฟังความคิดเห็น เรื่อง “ร่างพระราชบัญญัติรายได้และสวัสดิการเกษตรกร พ.ศ. ...” ณ ห้องประชุมพึ่งบุญ ณ อยุธยา ชั้น 8 ตึกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ว่า การจัดสัมมนาในครั้งนี้เพื่อให้มีการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อร่างพระราชบัญญัติรายได้และสวัสดิการเกษตรกร พ.ศ. ... ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี จากผู้ที่มีส่วนได้เสียและผู้ที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรทั้งภาครัฐและเอกชน
นายปีติพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ร่างพระราชบัญญัติรายได้และสวัสดิการเกษตรกร พ.ศ. ... ดังกล่าว ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการดำเนินการ คือ 1. การช่วยเรื่องรายได้และสวัสดิการให้แก่เกษตรกรในขณะที่เศรษฐกิจตกต่ำ เนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศ 2. การจัดตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่ 1 คณะ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือเกษตรกรในด้านรายได้และสวัสดิการ มีหน้าที่วางแผนระยะยาว และกำหนดงบประมาณที่จะใช้ในแต่ละปีตามความเหมาะสม โดยจะคิดคำนวณจากผลิตภัณฑ์มวลรวมของภาคเกษตร หรือ GDP ภาคเกษตร ในเบื้องต้นคาดการณ์ 10% ซึ่งจะเป็นกลไกที่จะสามารถกำหนดงบประมาณที่จะใช้ เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาในระยะยาวกับฐานะทางการเงินของประเทศ 3. การจัดตั้งคณะกรรมการทางเทคนิค เพื่อกำหนดรายได้และการช่วยเหลือแก่เกษตรกร ต้องเป็นผู้ที่ประชาชนเชื่อถือและมีความเป็นกลาง และ 4. ภาระของเกษตรกร เกษตรกรที่จะได้รับความช่วยเหลือจะต้องขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และต้องจ่ายเงินบำรุงเพื่อนำมาใช้จ่ายเฉพาะในการบริหารงาน เพื่อให้หน่วยงานสามารถขับเคลื่อนการทำงานไปได้ เช่น เงินเดือน หรือค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เป็นต้น
“เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยการเกษตรที่มีผลบังคับใช้ในปัจจุบันนี้ทั้งหมด เป็นกฎหมายที่มุ่งให้ความช่วยเหลือหรือคุ้มครองแก่เกษตรกรในเรื่องการจัดสรรที่ดินทำกิน การจัดหาแหล่งทุนเพื่อการประกอบอาชีพเกษตรกรรมตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายแต่ละฉบับ การจัดตั้งองค์กรเกษตรกร การควบคุมหรือการช่วยเหลือเกี่ยวกับปัจจัยการผลิตหรือผลผลิตทางการเกษตร แต่ยังไม่มีกฎหมายฉบับใดที่มุ่งให้ความช่วยเหลือให้ความคุ้มครองในเรื่องรายได้และสวัสดิการแก่เกษตรกร จึงทำให้คนไทยในภาคเกษตรกรรมขาดความมั่นคงในอาชีพ นอกจากนั้น เมื่อใดที่การประกอบอาชีพเกษตรกรรมประสบภัยจากราคาสินค้าเกษตรมีความผันผวน ทำให้รายได้ของเกษตรกรต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานรายได้ของประเทศ เป็นเหตุให้เกษตรกรไทยมีหนี้สินเป็นจำนวนมาก จำเป็นที่รัฐต้องเร่งลดความเหลื่อมล้ำ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการจัดให้มีกฎหมายเพื่อดูแลด้านรายได้และสวัสดิการเกษตรกรเป็นการเฉพาะ และเพื่อให้ร่างพระราชบัญญัติมีความสมบูรณ์และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อภาคการเกษตรของประเทศ” นายปีติพงศ์ กล่าว