กรุงเทพฯ--4 ก.พ.--เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น
“PIONEERMOTOR” หรือ “PIMO” ประกาศแต่งตั้ง บริษัท แอสเชทโปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เล็งเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันสินค้าจากต่างประเทศ พร้อมทดแทนสินค้านำเข้า และเตรียมรุกขยายฐานลูกค้าไปต่างประเทศ
นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์มอเตอร์ จำกัด หรือ PIMO หนึ่งในผู้นำทางด้านการผลิตและจัดจำหน่ายมอเตอร์ สำหรับเครื่องปรับอากาศ (Air Movement Motor)มอเตอร์กำลัง (Induction Motor) และ เครื่องสูบน้ำ(Submersible Pump) ที่มีประสิทธิภาพสูง เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้แต่งตั้งบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากบริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงทำให้บริษัทฯ มีแผนขยายธุรกิจและกำลังการผลิต
โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงงานผลิตอยู่ที่ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโรงงานที่ผลิตมอเตอร์ที่ มีการใช้เทคโนโลยีการผลิตอุปกรณ์มอเตอร์ที่ทันสมัย เพื่อผลิตสินค้าที่มีคุณภาพออกสู่ตลาด ตอบสนองความต้องการของลูกค้า มีการส่งสินค้าที่ตรงต่อเวลาและยังมีบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ ทำให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เนเธอร์แลนด์ ตะวันออกกลาง และญี่ปุ่น และส่งผลให้บริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง และมีผลการดำเนินงานเติบโตขึ้นทุกๆ ปี
นายวสันต์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ มีจุดมุ่งหมายที่จะเป็นโรงงานผู้ผลิต มอเตอร์เครื่องปรับอากาศ (Air Movement Motor) มอเตอร์กำลัง (Induction Motor) และเครื่องสูบน้ำ (Submersible Pump) ที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม ภายใต้ตราสินค้า “Pioneer” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสินค้าจากต่างประเทศ พร้อมทดแทนสินค้านำเข้า และเตรียมขยายฐานลูกค้าไปต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น
ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทฯ กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ อยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้างของบริษัทฯ และการเตรียมความพร้อมต่างๆ เพื่อรอยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยจะยื่นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วง 3 ปี ย้อนหลัง ตั้งแต่ปี 2554 – 2556 บริษัทฯ มีรายได้ในปี 2554 มูลค่า 362.88 ล้านบาท ในปี 2555 มีรายได้ 393.44 ล้านบาท และปี 2556มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 470.26 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ ในปี 2554 เป็นจำนวน 6.6 ล้านบาท กำไรสุทธิปี 2555 จำนวน 9.06 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิในปี 2556 จำนวน 29.98 ล้านบาทโดยรายได้มาจากสินค้าประเภทมอเตอร์แอร์คอนดิชันนิ่งเป็นหลัก โดยมีสัดส่วนรายได้ในประเทศร้อยละ 70 และต่างประเทศร้อยละ 30
อนึ่ง บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด หรือ “PIMO” ก่อตั้งในปี 2544 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท เพื่อประกอบธุรกิจผลิตมอเตอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศ มอเตอร์เครื่องสูบน้ำ รวมทั้งมอเตอร์ที่ใช้ในภาคเกษตรและอุตสาหกรรมทั่วไป และเพิ่มทุนในช่วงปลายปี 2544 เพื่อขยายกิจการ ทำให้มีทุนจดทะเบียนรวม 10,000,000 บาท ต่อมาในช่วงต้นปี 2545 ทางกลุ่มครอบครัวอิทธิโรจนกุลได้เข้าถือหุ้นเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และเข้าบริหารงานจนสร้างความก้าวหน้า
และเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงได้มีการเพิ่มทุนในช่วงกลางปี 2545 ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 100,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยกลุ่มครอบครัวอิทธิโรจนกุลเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่