กรุงเทพฯ--9 ก.พ.--อาร์เอส
กลายเป็นประเด็นดราม่าในโลกโซเชี่ยลในเวลาชั่วข้ามคืน สำหรับกรณีตลกชื่อดัง “ป๋าเทพ โพธิ์งาม” ที่โดนหุ้นส่วนธุรกิจร้าน “หมูกระทะขั้นเทพ”หลังจากเปิดให้บริการไปได้ไม่นาน ล่าสุด “ป๋าเทพ” ขอตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมเปิดใจทุกเรื่องในรายการ“คนดังนั่งเคลียร์” ทาง “ช่อง 2” บันเทิง..ถึงรส ถึงคุณ โดยมี “อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์” รับหน้าที่เป็นพิธีกรสุดแซ่บ
ปัญหาร้านหมูกระทะ ?
“จริงๆก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตอะไร เราเองเห็นข่าวแล้วตกใจ เราเองไม่ได้ไปว่าว่าเขาโกง เพียงแต่ว่าตามระบบหุ้นกันแล้วมันไม่ถูกต้องเท่านั้นเอง พอเราอยู่นานๆเขามันมีเรื่องราวตรงนี้ปรากฏขึ้นให้เห็นเราก็มาคิดว่าเราจะไปนั่งอยู่ทำไม เซ็งๆก็เลยฉีกออกมา แต่ก็ยังให้เมียดูแลอยู่ ป๋าอยากจะให้ทุกอย่างมันเคลียร์ ให้มันมีลายลักษณ์อักษรเป็นเรื่องเป็นราวแบบนั้นคงไม่มีปัญหาอะไร แต่พอไม่มีตรงนี้มันก็เลยเกิดเรื่อง ซึ่งป๊าบอกตั้งแต่ต้นอยู่แล้วว่าให้ทำตรงนี้ให้เรียบร้อยเราจะได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ ไม่ต้องทำงานแบบพะวงกัน นานๆ เข้าทำไปเราคิดว่านะเหมือนเราไปเป็นลูกจ้างเขารึเปล่า พอเกิดตรงนี้เราเลยรู้สึกว่าไปร้านแล้วมันอายๆ เลยไม่ไปดีกว่า”
เรื่องของรายได้จริงๆ ตกลงไว้ยังไง ?
“เขาก็จะให้เรา 40 นะ เราก็โอเคไม่เป็นไร เราใจกว้างอยู่แล้วในบานะที่เขาออกเงินออกมาทำก่อน แต่เอาจริงเราก็เอาชื่อเสียงเรามาลง ซึ่งเราคิดว่ามันมากกว่านั่นนะ มันมากกว่าหลายเท่า จากที่เราไปลองคลุกคลีกับเขามา 4-5 เดือนโดยที่เราไม่ได้เงินสักบาทเดียว เราไม่ได้เห็นเงินเลย เพิ่งจะได้มา 7 หมื่นกว่าบาทเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เพียงแต่ว่ามันสร้างความอึดอัดให้เรา ไปแล้วเรารู้สึกอายๆ ก็อยากมีการทำอะไรให้มันเป็นระบบหน่อย เราเองไม่คิดโกงใครอยู่แล้ว เราอายที่จะทำ เพียงแต่อยากให้ทำให้ถูกต้อง เราช่วยเต็มที่อยู่แล้ว”
เหมือนเขาบอกว่าเป็นการตกลงกันไว้ว่า 3 เดือนให้เงินครั้ง ?
“เขาไม่ได้พูดแบบนั้นนะ ตอนแรกไม่ได้พูดแล้วมาพูดตอนนี้มันก็ไม่ใช่แล้วไง เราต้องดูตั้งแต่ทีแรกว่าเราตกลงกันมายังไง แล้วเขาจะยอมรับไหมว่าเขาเคยพูดอย่างนั้นอย่างนี้กับเรา เราเองถึงจะแก่แล้วแต่เราจำแม่นนะ เราคลุกคลีกับตัวมาตลอด ตั้งแต่ดูที่ทาง ไปไหว้พระ ทำอะไรเรารู้เราเห็นตลอด แต่พอเข้ามาทำจริงๆแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นไง เราก็รู้สึกว่ามันแปลกๆเราไม่ชอบ”
เขาบอกว่าเขาไม่ได้โกงแต่มันยังไม่ได้กำไร ?
“จะได้กำไรไม่ได้กำไรเราก็มาเคลียร์กันสิ วันๆ นึงมันยังไง ช่วงเดือนแรกๆยังขายได้ตั้ง 4 ล้านกว่าบาท จะไปขาดทุนอะไรล่ะ เพราะโครงเก่ามันมีอยู่แล้ว พอพูดแล้วมันขัดๆกันไง เราก็อยากจะเคลียร์ว่าคุณลงอะไรไปบ้างเท่าไหร่ ซื้อมาร้อยแต่มาบอกว่าพันผมนี่ก็ขี้แตกแล้วสิ เขาควรจะเคลียร์ในแต่ละวันไปเลย ไม่ใช่เอาบัญชีมาเป็นเดือนๆแบบนี้ก็ยากสิ ป๋าเองก็มีบัญชีเหมือนกัน เราต้องเอาบัญชีของทั้งสองฝ่ายมาคุยกันสิ มันเหมือนเราเสียเปรียบเขา คิดแล้วก็ไม่อยากจะไปร่วม แต่ในเมื่อเราทำไปแล้ว เขาจะยอมทำตามที่เขาเคยตกลงทีแรกไหมล่ะ”
รู้สึกไม่สบายใจเมื่อไหร่ ?
“ตั้งแต่เดือนแรกๆแล้ว อย่างน้องครึ่งเดือนหุ้นส่วนเขาต้องเคลียร์กันแล้ว แต่นี่ไม่ใช่ ป๊าเองเขาร้านทุกวัน เราทำงานเอ็นเตอร์เทนคนไปเรื่อย ลูกเราเองก็มาช่วยเอ็นเตอร์เทนคน แต่เขาไม่ได้ทำอะไรเลย เงินเขาก็ได้อยู่ทุกคืน เงินก็อยู่กับเขาหมด เขาไม่ได้อะไรเลย แม้กระทั้งค่ารถมาทำงานเราก็ออกเองหมด เอาคนมาช่วยเอ็นเตอร์เทนร้านเราก็ออกเองหมด เขาไม่ได้มาออกอะไร อยู่แล้วเราก็รู้สึกกระดากๆ เราเองก็ไม่ได้คิดว่าจะได้อะไรมากมาย เงินที่ได้มันไม่รู้ว่าจริงรึเปล่า เป็นเศษเงินอะไรไหม เราไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้น ถ้าจะขาดทุนก็ขอให้ขาดทุน แต่ให้เรารู้สิ มาเคลียร์กันเราไม่ว่าอะไรเลยจริงๆ แต่ที่ป๋ามองแล้วมันไม่ขาดทุน เรารู้สึกว่าเราไม่สบายใจ เราไม่รู้ว่าเราไปนั่งทำงานตรงนั้นคนจะพูดกับเรายังไงก็ไม่รู้ เราเองแก่แล้ว เราก็เลยให้เมียเราดู แล้วเราก็ออกมาทำของเราเอง ที่รามอินทรา ชื่อร้านครัวป๋าเทพ จะเปิดวันตรุษจีนนี้ ไม่ใช่ร่านหมูกระทะ เป็นร้านอาหารไทย จีน ฝรั่ง เราก็เอาลูกหลานพี่น้องมาร่วมทำกัน”
แล้วจะถอดชื่อจากร้านนั้น ?
“ยังไม่รู้ ก็ขึ้นอยู่ที่มาตกลงกันได้ ป๋าก็จะทำกับเขาอีก ก็ให้เมียไปดูบ้างอะไรบ้าง แต่ถ้าจะไม่ทำด้วยกันก็ไม่เป็นไร ตรงนั้นเราเห็นมาหมดแล้ว มันไม่ไหวแล้วไง ถ้าจะทำอีกก็จะต้องตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน คุณจะมาทำเองฝ่ายเดียวโดยที่เราไม่รู้เรื่องคงไม่ได้ เขาเองก็ยังไม่ได้ติดต่ออะไรมานะ ก็แล้วแต่เขา ถ้าเราไม่ทำด้วยกันเขาก็ต้องถอดเราออก”
ให้คนเข้าไปตรวจเช็คบัญชี ?
“ให้คนเข้าไปตรวจแล้ว เขาบอกว่ามันแปลกๆ มันเยอะแยะไปหมด เป็นลังๆเลย จะเก็บๆไว้เยอะๆเป็นลังๆเพื่ออะไร เพื่อให้งงหรอ ป๋าเองบอกตรงๆเราก็เข้าเนื้อ ไปกินอะไรของเข้าก็ต้องจ่ายให้เขานะ บางทีชวนเพื่อนๆไปนั่งที่ร้าน ลูกหลานมาเราเกรงใจเขา เราจ่ายหมด ทั้งๆที่เราขอก็ได้ แต่เราเกรงใจไง เรายังทำอย่างนั้นเลย ป๋าเองก็ควักส่วนตัวไปเป็นแสนนะ”
บาดหมางกัน ?
“เราไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน มาเคลียร์กันก็คือจบ เขาเองไม่มาเจอแล้วก็ไม่ได้โทรมามันก็เท่านั้นเอง เป็นเดือนแล้ว ก็เดี๋ยวคงจะเอาทนายมาคุยกันว่าตกลงจะทำต่อด้วยกันไหม ถ้าทำก็ให้ทำตามระบบนะ ถ้าไม่เอาก็ไม่เป็นไรก็จบกัน ไม่ใช่ว่าเราจะไปฟ้องร้องเอาความอะไรเขาเลย เราแค่อยากจะรู้รายละเอียด เราคนแก่แล้ว จาทำกันอย่างนี้ทำไม เราเป็นคนใจกว้างอยู่แล้ว ป๋าเองทุ่มให้เขานะ คิดว่าทุกอย่างมันน่าจะดี ป๊าไม่ได้เข้าร้านมาเดือนกว่าๆแล้ว เราก็ไม่ได้จะไปทำอะไรเขา ถ้าจะไม่ทำด้วยกันก็แยกย้ายด้วยดี ป๊าไม่ใช่คนปัญญาอ่อน 65 ปีแล้ว เราเห็นอะไรมาเยอะ เรารู้ว่าการเริ่มต้นมันเป็นยังไง”
คนนี้ใช่คนเดียวกับที่มีปัญหากับสมรักษ์ คำสิงห์ ?
“ใช่ ป๋าเองก็เคยได้ยิน แต่ป๋าก็ไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นยังไง เราไม่ได้สนใจ เขาพูดดี เราก็เลยอยากจะทำกับเขา ก็ลองดูว่ามันจะเป็นยังไง พอเรามาเห็นก็แบบเฮ้อ… แต่เราก็ไม่ได้ไปว่าว่าเขาโกงเรานะ แต่ว่ามันรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง เขาทำให้เราสงสัย เราก็เลยรู้สึกว่าไม่อยากจะยุ่งแล้ว ป๋าเองบอกเขามาตั้งแต่แรกแล้วว่าทำอะไรให้มันเรียบร้อยไม่อย่างนั้นเดี๋ยวมันจะทะเลาะกันนะ แต่เขาก็ยังไม่จัดการ เขาก็จะเปิดๆไปเรื่อย”
เข็ดไหมกับการทำธุรกิจ ?
“ป๋าเป็นคนเข็ดยาก เขาไม่ทำก็ไม่เป็นไร เราก็ทำของเราไป ป๋าเองก็ซวยมาเยอะ เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร”
แล้วธุรกิจใหม่เป็นไง ลงทุนเยอะ ?
“เยอะ เป็นล้านแล้ว เงินยืมเขามาทั้งนั้น ทั้งจิ้ม ทั้งหม่ำ ก็มีไปกู้เงินมาบ้าง นี่บ้านก็หมดไปหลังนึงแล้ว เราไม่ได้ขายไปทำอะไร เราเองไปใช้หนี้เขา แล้วเราก็เบาขึ้น ภาระน้อยลงเราก็ได้นอนหลับหน่อย เราไม่ตังค์ แต่เราอยากทำ ก็กู้มาเป็นล้าน”
เป็นคนชอบความเสี่ยง ?
“ไม่รู้สิ มันก็ต้องทำ ถ้าไม่ทำมันก็ไม่ใช่เทพ เราไม่เป็นไร เรามองว่ามันผ่านไปแล้ว ให้มันจบๆไปดีกว่า ถ้ากลัวเราจะไม่ทำ ครั้งนี้ที่ทำก็ทำให้ลูกหลาน จะได้มารวมตัวกันได้”
ไม่ชวนน้อยมาร่วมเพราะเขาก็อยากทำร้านอาหาร ?
“เราก็ไม่ได้ไปบอกเขา เราก็ไปชวนเขามาดูแล้วแต่ดูเหมือนเขาไม่อยากจะทำ หญิงเองเขาก็ไม่อยากให้แม่เขาไปขายของแบบนี้แล้ว เขาอยากให้แม่เขาพักผ่อน มันก็แล้วแต่ไง แต่ที่ตรงนี้มันเป็นที่ของลูกหลานอยู่แล้ว ใครจะมาขายเมื่อไหร่ก็ได้ เราอยากหัดให้มันขายของ มันจะได้มีรายได้”
มีคนเตือน ?
“ทุกคนเตือนตั้งแต่ป๋าทำธุรกิจครั้งแรก ก็เตือนกันมาทุกครั้ง เราก็ทำไม่ได้ว่าเราทำมาแล้วกี่ธุรกิจ ถ้าเราเอาแต่ไปจำเราจะไม่ได้เริ่มต้นใหม่ เราก็ทิ้งมันไปเลยแล้วตั้งใจใหม่ มองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ”
หรือว่าเราทำอะไรที่ใหญ่เกินตัว ?
“ที่เราทำมันใหญ่ๆทั้งนั้นอยู่แล้ว อันใหม่นี่ก็ใหญ่มากเหมือนกัน เราก็คิดว่ามีอะไรนิดหน่อยพอให้ลูกเราได้ทำงาน พอติดต่อไปติดต่อมามันก็กลายเป็นโครงการใหญ่ ก็ไม่รู้จะพูดยังไง เป็นมนุษย์ถ้ามัวแต่กลัวปัญหาก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี”
มีข่าวว่าพี่น้อยกับป๋าทะเลาะกัน ?
“ป๋าด่ามันยิ่งกว่านั้นอีก น้องนุ่ง ป๋าเลี้ยงมันมา ล้างตัวล้างทุกอย่างให้มัน ป๋าเป็นพี่มัน อุ้มมันมาแต่เล็ก คือบางครั้งมันไม่ใช่เรื่องของเรานะ เราก็บอกว่างั้นอย่างมายุ่งเลย เฉยๆเถอะ ไม่ใช่จะมาแบบไม่ได้กูจะยุ่ง อีนี่มันพูดไม่รู้เรื่องนะ เป็นหวงก็ให้มันรู้จังหวะหน่อย ไม่ใช่เป็นห่วงจนเลอะเทอะมันก็ไม่ใช่แล้ว จะมาหวงทำไมช่วงนี้ ตอนกูจะแย่มึงไม่มาหวงกูบ้างว่ะ”
ติดตามบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ได้ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ได้ทางช่อง 2 ทุกวันจันทร์-ศุกร์เวลา 11.30 / 15.00 / 20.00 น. เสาร์-อาทิตย์11.00/15.00/20.00 และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/thaich2