ปภ.แนะวิธีสังเกตสัญญาณเตือนความผิดปกติของรถยนต์

ข่าวทั่วไป Monday February 9, 2015 11:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ก.พ.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะวิธีสังเกตสัญญาณเตือนความผิดปกติของรถยนต์ อาทิ สตาร์ทเครื่องยนต์นานกว่าปกติ มีร่องรอยน้ำมันใต้ท้องรถ ควันจากท่อไอเสียผิดปกติ สัญญาณไฟสัญลักษณ์ค้างอยู่บนหน้าปัดรถหลังสตาร์ทเครื่องยนต์ พวงมาลัยหลวมหรือสั่น เกียร์มีอาการติดขัด คลัตช์ลื่นหรือเข้าคลัตช์ไม่สนิท ยางมีรอยปริ แตก ไม่มีดอกยาง ไม่สามารถหยุดรถได้ในระยะทางที่กำหนด มีเสียงดังขณะเบรก หากสังเกตพบสัญญาณเตือนความผิดปกติ ผู้ขับขี่ควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถให้มากขึ้น นำรถไปตรวจสอบและหาสาเหตุความผิดปกติ จะช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ความบกพร่องของอุปกรณ์รถยนต์เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน การสังเกตสิ่งผิดปกติของรถทั้งในช่วงก่อนเดินทางและขณะขับรถ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะวิธีสังเกตสัญญาณเตือนความผิดปกติของรถยนต์และอุปกรณ์รถยนต์ ดังนี้ สตาร์ทเครื่องยนต์นานกว่าปกติ หากใช้เวลาในการสตาร์ทเครื่องยนต์เกินกว่า 30 วินาที แสดงว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพหรือระบบไดชาร์จมีปัญหา มีร่องรอยน้ำมันใต้ท้องรถ หากจอดรถแล้วพบว่ามีรอยน้ำมันหยด แสดงว่าระบบบางส่วนของเครื่องยนต์ผิดปกติหรือเสียหาย ทำให้น้ำมันรั่วไหล ท่อไอเสียมีควันสีขาวและมีกลิ่นฉุน อาจเกิดสิ่งผิดปกติกับเครื่องยนต์ ได้กลิ่นผิดปกติขณะขับรถ อาทิ กลิ่นยางไหม้ กลิ่นน้ำมัน กลิ่นก๊าซ อาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ระบบเบรก ถังน้ำมันรั่วหรือท่อก๊าซรั่ว สัญลักษณ์ไฟแสดงสถานะค้างบนหน้าปัดรถหลังจากสตาร์ทเครื่องยนต์ อาจเกิดความผิดปกติจากส่วนใดส่วนหนึ่งของเครื่องยนต์เครื่องยนต์ เสียงสตาร์ทรถผิดปกติหรือมีเสียงดัง กว่าปกติในขณะขับรถ มาตรวัดระดับความร้อนของเครื่องยนต์อยู่ใกล้ตัว H แสดงว่าเครื่องยนต์ร้อนจัด พวงมาลัย ขณะขับรถพวงมาลัยจะหนัก บังคับทิศทางยาก โดยเฉพาะขณะเลี้ยวต้องใช้แรงมากกว่าปกติ พวงมาลัยหลวมหรือสั่น เกียร์ มีเสียงดังขณะเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่งหรืออยู่ในเกียร์ว่าง เปลี่ยนเกียร์ยากทั้งที่เหยียบคลัตช์ เกียร์มีอาการติดขัดใช้เวลาในการเปลี่ยนเกียร์นานกว่าปกติ ห้องเกียร์มีน้ำมันหล่อลื่นไหลออกมา คลัตช์ มีอาการคลัตช์ลื่นหรือเข้าคลัตช์ไม่สนิท เหยียบแป้นคลัตช์แล้ว ไม่สามารถเข้าเกียร์ได้ คลัตช์มีเสียงดัง ขณะเหยียบคลัตช์แล้วแป้นคลัตช์สั่นขึ้นๆ ลงๆ ยาง กรณียาง มีรอยปริ แตก ปูดบวม ร่องยางตื้น และไม่มีดอกยาง แสดงว่ายางหมดอายุ ให้เปลี่ยนยางใหม่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุยางระเบิดเบรก ไม่สามารถหยุดรถได้ในระยะทางที่กำหนด มีเสียงดังขณะเบรก เบรกแล้วรถปัดไปข้างใดข้างหนึ่ง แป้นเบรกจมหรือแป้นเบรกค้างทั้งที่ถอนเท้าออกแล้วเหยียบแป้นเบรกแล้วความเร็วคงที่ แสดงว่าระบบเบรกผิดปกติ ทั้งนี้ หากผู้ขับขี่สังเกตพบสัญญาณเตือนความผิดปกติดังกล่าวข้างต้น ควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถให้มากขึ้น นำรถไปตรวจสอบสภาพและหาสาเหตุความผิดปกติ จะได้ซ่อมแซมให้ถูกจุด ที่สำคัญ ไม่ควรฝืนนำรถไปใช้งาน เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากความบกพร่องของรถยนต์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ