สำรวจพฤติกรรมการใช้บัตรเครดิตของมนุษย์เงินเดือน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 10, 2015 17:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ศ.ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส, อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ, อาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ระดับอุดมศึกษา ทำการสำรวจพฤติกรรมการใช้บัตรเครดิตของลูกจ้าง/พนักงานบริษัทเอกชน จำนวน 1,146 คน ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลระหว่างวันที่ 1-5 กุมภาพันธ์ 2558 ศ.ศรีศักดิ์ กล่าวสรุปว่าสำนักวิจัยได้ทำแบบสำรวจขึ้นมาเพื่อเป็นแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมการอนุมัติบัตรเครดิต อันสืบเนื่องจากปัญหาจากการใช้บัตรเครดิตได้ขยายวงกว้างออกไป เช่นคนเดียวมีบัตรหลายใบ การไม่พกเงินสดและการไม่ยอมซื้อสินค้าด้วยเงินสด การผิดนัดชำระค่างวด การไม่ชำระ ความฟุ่มเฟือย ก่อปัญหาหนี้สินต่อเนื่อง ทีมสำรวจได้สำรวจจากกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงคิดเป็นร้อยละ 50.79 ขณะที่ร้อยละ 49.21 เป็นเพศชาย กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 30.89 มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 31 ถึง 40 ปี นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีคิดเป็นร้อยละ 34.03 และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นลูกจ้าง/พนักงานในห้างร้านหรือบริษัทเอกชน ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจคิดเป็นร้อยละ 29.93 ร้อยละ 24.35 และร้อยละ 20.77 ตามลำดับ ในด้านพฤติกรรมการใช้บัตรเครดิต กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 40.14 เป็นเจ้าของบัตรเครดิต 2 ถึง 3 ใบรองลงมาเป็นเจ้าของบัตรเครดิตอยู่ 1 ใบคิดเป็นร้อยละ 27.75 ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 22.95 เป็นเจ้าของบัตรเครดิตอยู่ 4 ถึง 5 ใบ และมีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 9.16 เป็นเจ้าของบัตรเครดิตมากกว่า 5 ใบขึ้นไป สำหรับสาเหตุสำคัญสูงสุด 5 อันดับที่กลุ่มตัวอย่างตัดสินใจสมัครใช้บริการบัตรเครดิตคือ ไม่ต้องการจ่ายค่าสินค้า/บริการเป็นเงินสด คิดเป็นร้อยละ 81.33 ไม่จำเป็นต้องพกเงินสดเป็นจำนวนมาก คิดเป็นร้อยละ 78.88 ใช้ซื้อสินค้า/บริการได้ง่าย คิดเป็นร้อยละ 75.92 พกพา/ใช้งานได้สะดวก คิดเป็นร้อยละ 73.91 และมีผู้อื่นชักชวน คิดเป็นร้อยละ 71.47 นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 70.07 ระบุว่าตนเองไม่เคยชำระค่าใช้จ่ายจากการใช้บริการบัตรเครดิตช้ากว่าที่กำหนด ขณะที่มีกลุ่มตัวอย่างถึงเกือบหนึ่งในห้าหรือคิดเป็นร้อยละ 19.63 ยอมรับว่าเคยบ้างเป็นบางครั้ง และมีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 10.3 ยอมรับว่าเคยเป็นประจำ ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 46.68 ระบุว่าตนเองเคยใช้บริการชำระค่าสินค้า/บริการโดยบัตรเครดิตผ่านช่องทางออนไลน์เป็นบางครั้ง ขณะที่กลุ่มตัวอย่างประมาณหนึ่งในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 33.77 ระบุว่าตนเองใช้บริการเป็นประจำ และมีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 19.55 ระบุว่าตนเองไม่เคยใช้บริการเลย ในด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้บัตรเครดิต กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 62.39 ร้อยละ 59.51 และร้อยละ 54.45 ยอมรับว่าการมีบัตรเครดิตส่งผลให้ตนเองมีรายจ่ายโดยเฉลี่ยต่อเดือนเพิ่มมากขึ้น มีการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยมากขึ้นส่งผลให้ตนเองใช้เวลาตัดสินใจซื้อสินค้า/บริการสั้นลงตามลำดับ แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 56.37 ยอมรับว่าตนเองรู้สึกกลัวถูกขโมยข้อมูลสำคัญของตนเองผ่านการใช้บัตรเครดิตเพื่อจ่ายค่าสินค้า/บริการ และเมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อความปลอดภัยในการใช้บัตรเครดิตผ่านช่องทางออนไลน์กับผ่านเครื่องรูดบัตรทั่วไปนั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 37.61 มีความคิดเห็นว่าทั้งสองช่องทางไม่มีความปลอดภัยพอๆ กัน ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 29.49 มีความคิดเห็นว่าผ่านช่องทางออนไลน์มีความปลอดภัยน้อยกว่า ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 22.95 มีความคิดเห็นว่าผ่านเครื่องรูดบัตรทั่วไปมีความปลอดภัยน้อยกว่า และมีกลุ่มตัวอย่างเพียงร้อยละ 9.95 ที่มีความคิดเห็นว่าทั้งสองช่องทางมีความปลอดภัยเท่าๆ กัน ขณะที่กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 51.66 มีความคิดเห็นว่าการกำหนดจำนวนบัตรเครดิตที่ให้แต่ละบุคคลสามารถเป็นเจ้าของได้จะมีส่วนช่วยลดปัญหาการเป็นหนี้บัตรเครดิตได้ และกลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 52.53 มีความคิดเห็นว่าการเพิ่มขั้นตอน/ข้อกำหนด/คุณสมบัติในการทำบัตรเครดิตให้มากขึ้นจะมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาวินัยทางการเงิน-ปัญหาหนี้สาธารณะได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ