กรุงเทพฯ--11 ก.พ.--ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
LHBANK เผยผลการดำเนินงาน ปี 57 กำไรสุทธิ 1,201 ล้านบาท เติบโต 34.5% สินทรัพย์รวม 164,970 ล้านบาท สินเชื่อเติบโต 11.6% สินเชื่อด้อยคุณภาพต่ำเพียง 1.98%กลยุทธ์ปี 58 ตั้งเป้าขยายฐานเงินฝากรายย่อยกว่าแสนราย พร้อมรุกตลาดดิจิตอลแบงกิ้ง เน้นสร้างความหลากหลายทางธุรกิจ ผ่านกลุ่มการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
นางศศิธร พงศธร (ฉัตรศิริวิชัยกุล) กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) แถลงผลการดำเนินงานปี 2557 ของกลุ่มธุรกิจการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งประกอบด้วย บมจ. แอล เอช ไฟแนนซ์ เชียล กรุ๊ป ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ว่า แม้ภาพรวมการขยายตัวทางเศรษฐกิจของปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าที่ประเมินไว้ แต่ผลการดำเนินงานโดยรวมของธนาคารถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ และล่าสุดธนาคารยังคงได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด อยู่ที่ระดับ “A-” (Single A Minus) และแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งแสดงถึงสถานะทางธุรกิจและการเงินของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
ผลการดำเนินงาน ปี 2557 มีกำไรสุทธิ 1,201 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 34.5% ส่วนใหญ่มาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินเชื่อ รายได้จากเงินปันผล และกำไรจากเงินลงทุน คุณภาพสินเชื่อจัดอยู่ในเกณฑ์ดี มีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ที่ต่ำเพียง 1.98% ของเงินให้สินเชื่อรวม เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของระบบธนาคารพาณิชย์ที่อยู่ที่ 2.3% ธนาคารได้ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญต่อสำรองพึงกันตามเกณฑ์ธนาคารแห่ง ประเทศไทย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องปัจจุบันอยู่ที่ 157.3% ทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในด้านเงินสำรองของธนาคาร และเพื่อรองรับความผันผวนทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ด้านสินทรัพย์เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2557 ธนาคารมีสินทรัพย์รวม 164,970 ล้านบาท เติบโต 10.6% เมื่อเทียบกันสิ้นปีก่อน มีเงินให้สินเชื่อรวม 115,634 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.6% เป็นผลจากการผลักดันกลยุทธ์ในการมุ่งเน้นสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพ และมีอันดับ Credit Rating ที่ดี โครงสร้างสินเชื่อส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่คิดเป็น 52% รองลงมาเป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 28% และส่วนที่เหลือคือสินเชื่อเอสเอ็มอี อยู่ที่ 20% ของเงินให้สินเชื่อรวม
ด้านเงินฝากอยู่ที่ 122,632 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 12.7% เป็นผลมาจากการขยายตัวของบัญชี เงินฝากไม่ประจำ (Non-fixed) ตลอดจนการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้นกว่า 117 สาขา เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน 16 สาขา แบ่งเป็นสาขาในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 60 สาขา และสาขาในภูมิภาค 57 สาขา เงินฝากที่เป็นกลุ่มลูกค้าบุคคลขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ณ สิ้นปี 2557 มีสัดส่วนอยู่ที่ 56% ของเงินฝาก ซึ่งปีก่อนอยู่ที่ 47% ทั้งนี้เพื่อรองรับกับการทยอยลดความคุ้มครองเงินฝากที่กำหนดจำนวนเงินฝากที่ได้รับการคุ้มครองไม่เกิน 1 ล้านบาท ในเดือนสิงหาคม 2559
ด้านความเพียงพอของเงินกองทุน ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2557 อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 11.32% และเงินกองทุนทั้งสิ้นอยู่ที่ 12.41% สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งกำหนดไว้ที่ 8.50% และในปี 2558 ธนาคารมีแผนที่จะออกตราสารด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 อายุ 10 ปี 6 เดือน จำนวน 3,000 ล้านบาท จะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ คาดว่าจะเสนอขายในเดือนพฤษภาคม 2558 ซึ่งจะเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของเงินกองทุนของธนาคาร และเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจได้อย่างมั่นคง
นอกจากนี้ ธนาคารได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ให้มีความครอบคลุมตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นบริการ Cash Management ที่ตอบโจทย์การจัดการธุรกิจให้แก่ลูกค้าได้อย่างครบวงจร ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยลดภาระการทำงานเอกสาร การเพิ่มช่องทางรับชำระค่าสินค้าและบริการ, บริการบัตร ATM LH Bank ที่ลูกค้าสามารถถอน/โอน หรือสอบถามยอดเงิน ผ่านตู้ ATM ได้ทุกตู้ ทุกธนาคาร ทุกที่ ทั่วไทย แบบ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และฟรีค่าธรรมเนียมทุกการกด, บริการ Internet Banking, บริการธนาคารบนมือถือ, บริการ SMS Alert ที่จะส่งข้อความ SMS แจ้งเตือนเมื่อมีเงินเข้าออกบัญชีเงินฝากผ่านโทรศัพท์มือถือ การอำนวยความสะดวกให้แก่นักธุรกิจ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ถือบัตร CUP, JCB ให้สามารถถอนเงินสด (สกุลเงินบาท) ได้ที่ตู้ ATM LH Bank ทุกตู้ ทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงการให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Currency Exchange)
นางศศิธร กล่าวถึงแผนกลยุทธ์ในปี 2558 ว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อที่ 10-15% โดยยังคงมุ่งเน้นขยายสินเชื่อที่มีคุณภาพ และจะยังคงรักษาระดับความสามารถในการทำกำไรให้เพิ่มขึ้น 10-15% เช่นกัน อีกทั้งเร่งเพิ่มรายได้และค่าธรรมเนียมจากธุรกิจ Bancassurance ค่าธรรมเนียมจากการขายกองทุน และค่าธรรมเนียมต่างๆ จากบริการที่ธนาคารได้พัฒนาและให้บริการ เช่น ATM, Internet Banking, Mobile Banking, Mobile Branch เป็นต้น
กลยุทธ์ด้านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ธนาคารยังคงมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมและบริการทางการเงินใหม่ๆ เพื่อดึงฐานลูกค้าเข้ามาใช้บริการกับธนาคารเป็นหลัก (Main Bank) ธนาคารมีเป้าหมายเพิ่มฐานลูกค้าใหม่กว่า แสนราย รวมไปถึงการเพิ่มสัดส่วนการถือครองผลิตภัณฑ์ของลูกค้าแต่ละกลุ่มมากขึ้น ผ่าน 3 ผลิตภัณฑ์หลักๆ ดังนี้
ผลิตภัณฑ์เงินฝาก อาทิ เงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง 5 เท่า ที่ให้ดอกเบี้ยสูงสุดถึง 2.50% ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความคล่องตัวสูง เพราะลูกค้าสามารถฝากถอนเมื่อไรก็ได้ดอกเบี้ยสูง โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมากจากช่วงที่ผ่านมา สำหรับในปีนี้ ธนาคารจึงยังคงนำเสนอผลิตภัณฑ์นี้อย่างต่อเนื่อง
ผลิตภัณฑ์ด้านสินเชื่อเอสเอ็มอี ธนาคารจะมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าโดยเฉพาะส่วนภูมิภาคในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญคอยดูแลลูกค้าทั้งในด้านการให้คำปรึกษาทางการเงิน การสร้างเครือข่ายธุรกิจที่เข้มแข็ง และการเสริมสร้างองค์ความรู้ให้กับลูกค้าในแต่ละกลุ่มธุรกิจ ผ่านสาขาของธนาคารที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
ผลิตภัณฑ์ดิจิตอลแบงกิ้ง จากการที่ธนาคารได้เปิดให้บริการธนาคารทางอินเตอร์เน็ต หรือ LH Bank Speedy และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าที่สมัครเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ธนาคารจึงได้ต่อยอดพัฒนานวัตกรรมในรูปแบบแอพพลิเคชั่นทางการเงินบนโทรศัพท์มือถือ ที่ให้ลูกค้าสามารถเช็คยอดเงิน โอนเงิน เติมเงิน การชำระค่าบริการต่างๆ ได้สะดวกและรวดเร็ว ได้ทุกที่ ทุกเวลา รวมไปถึงลูกค้ายังสามารถค้นหาสาขาและ ตู้เอทีเอ็มของธนาคารได้อีกด้วย ทั้งนี้เพื่อรองรับความต้องการใช้งานของลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ที่นิยมทำธุกรรมผ่านช่องทางดิจิตอลสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีแผนจะเปิดให้บริการประมาณไตรมาสที่ 4 ของปี 58
ธนาคารได้วางกลยุทธ์การทำการตลาดผ่าน Social Media ต่างๆ เช่น LINE Facebook Youtube เพื่อเพิ่มช่องทางการสื่อสารในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น และเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ธนาคารได้เปิดตัวสติกเกอร์ LINE แอนนิเมชั่น "ตังค์ ตังค์ แมน" เวอร์ชั่นใหม่ โดยลูกค้าสามารถดาวน์โหลดฟรีได้ตั้งแต่วันนี้ – 11 มีนาคม 2558 อีกทั้งธนาคารได้นำคาแรคเตอร์ของ ตังค์ ตังค์ แมน มาออกแบบเป็นสมุดบัญชีเงินฝาก บัตร ATM และของพรีเมี่ยมต่างๆ ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
ปี 2558 ธนาคารมีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 10 สาขา ทำให้สิ้นปีนี้ธนาคารจะมีสาขารวมทั้งสิ้น 127 สาขา ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งธนาคารร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทโฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (HomePro) โดยจะขยายสาขาไปในทุกจังหวัดที่ HomePro ตั้งอยู่ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์การขยายสาขาของธนาคารให้มีจุดบริการครอบคลุม เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้นและอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในการทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคาร
ธนาคารเป็นตัวแทนขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนต่างๆ โดยเฉพาะบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ โดยปัจจุบัน LH Fund เป็นผู้บริหารกองทุนมูลค่ากว่า 41,000 ล้านบาท เป็นอันดับที่ 12 ของอุตสาหกรรม ถือเป็นผลงานที่น่าพอใจอย่างมาก และเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมากลุ่มการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้เปิดตัว บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Securities) ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่จะมาช่วยเสริมศักยภาพด้านธุรกิจหลักทรัพย์ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่กลุ่มการเงิน ทำให้มีบริการที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งล่าสุด LH Securities และ LH Bank และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ร่วมมือดำเนินโครงการ Banker-to-Broker 2015 หรือโครงการส่งเสริมช่องทางการลงทุนผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ และช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ลูกค้าและนักลงทุนสามารถเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นผ่านสาขาของ LH Bank ที่มีอยู่ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้ลูกค้าของธนาคารและประชาชนทั่วไป ออมเงินผ่านการลงทุนในหุ้นเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง LH Securities ได้พัฒนาระบบการซื้อขาย ทางอินเตอร์เน็ต ในชื่อ "Prompt Trade" เพียง One User One Password ก็สามารถซื้อขายหุ้น อนุพันธ์ได้ ภายใน Log-in เดียว พร้อมอัพเกรดระบบโดยเน้นการบริหาร Asset Allocation ให้สะดวกและง่ายดาย เพื่อรองรับการบริหารพอร์ทการลงทุนอย่างครบถ้วน ซึ่งจะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้
นางศศิธร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการดำเนินการด้านต่างๆ แล้ว ธนาคารยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาทักษะ ความรู้ ความสามารถ ของพนักงานในทุกระดับ เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการของพนักงานให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็จะเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยการดำเนินโครงการเพื่อสังคมเพื่อสร้างผลระยะยาว ควบคู่ไปกับการเติบโตของธุรกิจ ด้วยการมีส่วนร่วมของ “พนักงาน” “กลุ่มการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” รวมไปถึงการเป็นพันธมิตรที่ไว้วางใจได้สำหรับลูกค้า ผู้ถือหุ้นและคู่ค้า