กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--เอไอเอส
เมื่อวันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เวลา 11.00 น. ณ ห้องบุหงา โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน นายวิมล กาญจนะ อุปนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานจัดการแข่งขันฟุตบอล เอไอเอสลีก ประจำปี 2558 และนายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ผู้สนับสนุนหลักการแข่งขัน ร่วมแถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอล เอไอเอสลีก ประจำปี 2558
พัฒนาอย่างต่อเนื่อง สำหรับลีกฟุตบอลระดับรากหญ้า เอไอเอสลีก ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ซึ่งเปรียบเสมือนลีกพื้นฐานที่จะช่วยต่อยอดให้นักฟุตบอลไทยได้ก้าวเดิน ยกระดับขึ้นไปในลีกสูงสุดของประเทศ ภายใต้การสนับสนุนหลักของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ที่ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6
นายวิมล กาญจนะ อุปนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และประธานจัดการแข่งขัน กล่าวว่า จากกระแสความนิยมในกีฬาฟุตบอลที่เพิ่มมากขึ้นในทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย มีแฟนบอลติดตามเข้าชมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก คาดว่าในฤดูกาล 2015 การแข่งขันจะมีสีสันมากกว่าเดิม และในส่วนของการจัดการแข่งขัน เช่น สนามแข่งขัน รวมถึงเรื่องของการรักษาความปลอดภัย ทางสมาคมฯ ได้ขอความร่วมมือให้แต่ละจังหวัดหามาตรการป้องกันให้ดีที่สุด พร้อมมั่นใจจะมีการพัฒนายกระดับมาตรฐานอย่างต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น
นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขาย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอสกล่าวถึงการสนับสนุนครั้งนี้ว่า ในทุกๆ การพัฒนาต้องเริ่มต้นจากการวางรากฐานในระดับรากหญ้าให้มีความแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับวงการฟุตบอลเมืองไทยที่จะพัฒนาและก้าวไปทัดเทียมทีมชั้นนำระดับโลก ต้องเริ่มต้นจากการที่ลีกภายในประเทศมีความแข็งแรง ตั้งแต่ลีกท้องถิ่นระดับภูมิภาคในทุกๆ จังหวัดของประเทศ จึงเป็นเหตุผลที่เอไอเอสเล็งเห็นความสำคัญ และสนับสนุนฟุตบอล “เอไอเอสลีก” อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จอีกก้าวในการพัฒนาลีกฟุตบอลของประเทศไทย ให้มีศักยภาพอย่างยั่งยืนเพื่อก้าวไปสู่ระดับสากลต่อไป
และเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ทีมสโมสรต่างๆ เอไอเอสจะมีรางวัลพิเศษมอบให้แก่นักเตะและโค้ชของทีมที่เป็นแชมป์เอไอเอสลีก ฤดูกาล 2015 เป็นโทรศัพท์มือถือ พร้อมค่าโทรฟรีและเล่นเน็ตฟรีตลอดปี 2558 และพิเศษสำหรับดาวซัลโวที่ทำประตูสูงสุด และโค้ชของทีมที่เป็นแชมป์ในฤดูกาล 2015 จะมีโอกาสได้ไปชมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ถึงขอบสนามประเทศอังกฤษในปีหน้าด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการเปิดประสบการณ์ให้กับนักกีฬาและโค้ชนั่นเอง
สำหรับฟุตบอล “เอไอเอสลีก” ฤดูกาล 2015 มี 83 ทีมเข้าร่วมแข่งขันโดยแบ่งเป็น 6 กลุ่มประกอบด้วย กลุ่มภาคเหนือ 14 ทีม, กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 ทีม,กลุ่มภาคกลางตะวันออก 14 ทีม, กลุ่มภาคกลางตะวันตก 13 ทีม กลุ่มกรุงเทพฯ และภาคกลาง 14 ทีม, กลุ่มภาคใต้ 10 ทีม ซึ่งทีมแชมป์เเละรองแชมป์ของทั้ง 6 ภูมิภาค จะเข้าไปเล่นในรอบเเชมเปี้ยนลีกทันที โดยปีนี้จะไม่มีการเพลย์ออฟ ซึ่งในรอบแชมเปี้ยนลีกจะแบ่งเป็น 2 สายๆ ละ 6 ทีมโดยทีมที่ได้อันดับ 1 และอันดับ 2 ของแต่ละสายจะได้เลื่อนชั้นไปเล่นในศึกดิวิชั่น 1 หรือ ยามาฮ่า ลีก 1 ในฤดูกาลต่อไป จำนวน 4 ทีม
ในส่วนของเงินรางวัลการแข่งขัน รอบกลุ่มภาค และรอบแชมเปี้ยนลีก ในรอบกลุ่มภาคทีมแชมป์แต่ละกลุ่มภาค จะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท และรองแชมป์ ได้รับ 5 แสนบาท ส่วนในรอบแชมเปี้ยนลีก ทีมชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัล 2.5 ล้านบาท, ทีมรองชนะเลิศ ได้รับ 1 ล้านบาท และทีมอันดับ 3 ได้รับเงิน 5 แสนบาท
ส่วนการเเข่งขันฟุตบอล “เอไอเอสลีก” นัดเปิดสนามฤดูกาล 2015 รอบแบ่งภาค ทั้ง 6 ภูมิภาค จะเริ่มแข่งขันพร้อมกันในวันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ – 26 กันยายน 2558นี้
นอกจากนี้ แฟนบอลไทยทั่วประเทศ ยังสามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลเอไอเอสลีก 2015 ในคู่บิ๊กแมตช์ ได้ทางช่องสยามสปอร์ตฟุตบอล ทรูวิชั่นส์ 694 และสยามสปอร์ตไลฟ์ ทรูวิชั่นส์ 695 โดยสามารถติดตามโปรแกรมถ่ายทอดสด และข่าวสารผลการแข่งขันได้ทางสื่อต่างๆ ในเครือสยามสปอร์ต
ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอล เอไอเอสลีก รอบแบ่งภาค (Regional League) แบ่งเป็น 6 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มภาคเหนือ จำนวน 14 ทีม ประกอบด้วย
1.สิงห์บุรี เอฟซี, 2.ลำปาง เอฟซี, 3.พิษณุโลก เอฟซี 2015, 4.อุตรดิตถ์ เอฟซี, 5.เพชรบูรณ์ เอฟซี, 6.น่าน เอฟซี, 7.นครสวรรค์ เอฟซี, 8.ลำพูน วอริเออร์, 9.กำแพงเพชร เอฟซี, 10.ลพบุรี เอฟซี, 11.แพร่ ยูไนเต็ด, 12. เชียงราย ซิตี้, 13.ตาก ซิตี้, 14.พะเยา เอฟซี
กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 18 ทีม ประกอบด้วย
1.ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด, 2.หนองคาย เอฟที, 3.ชัยภูมิ ยูไนเต็ด, 4.ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด, 5.สกลนคร เมืองไทย เอฟซี, 6.หนองบัว พิชญ เอฟซี, 7.ขอนแก่น เอฟซี, 8.มุกดาหาร ลำโขง, 9.อุดรธานี เอฟซี, 10.เลยซิตี้ อาร์แอร์ไลน์ เอฟซี, 11.ขอนแก่น ยูไนเต็ด,12.กาฬสินธุ์ เอฟซี, 13.สุรินทร์ ซิตี้, 14.อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด, 15.อำนาจ โปลี ยูไนเต็ด,16.อุบลราชธานี เอฟซี, 17.นครพนม เอฟซี, 18.มหาสารคาม ยูไนเต็ด
กลุ่มกรุงเทพ เเละภาคกลาง จำนวน 14 ทีม ประกอบด้วย
1.รังสิต เอฟซี, 2.ม.เกษตรศาสตร์, 3.ศุลกากร ยูไนเต็ด, 4.ม.เกษมบัณฑิต, 5.ทหารบก เอฟซี, 6.จามจุรี ยูไนเต็ด, 7.ม.นอร์ท กรุงเทพ, 8.อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด, 9.ม.รังสิต,10.บีซีซี-เทโร เอฟซี, 11.ปลวกแดง ระยอง ยูไนเต็ด, 12.BANGKOK U.DEFFO FC, 13.ราชบุรี มิตรผล อาร์แบค, 14.โดม เอฟซี
กลุ่มภาคกลางตะวันออก จำนวน 14 ทีม ประกอบด้วย
1.พานทอง เอฟซี, 2.ปทุมธานี ยูไนเต็ด, 3.กองเรือยุทธการ, 4.สมุทรปราการ สองสิงห์ เอฟซี, 5.ทวีวัฒนา เอฟซี, 6.ระยอง เอฟซี, 7.แก่งคอย TRU, 8.นาวิกโยธิน มาบตาพุด เอฟซี, 9.ฉะเชิงเทรา เอฟซี, 10.จันทบุรี เอฟซี, 11.ปราจีนบุรี ยูไนเต็ด,12.นครนายก เอฟซี, 13.กบินทร์ ยูไนเต็ด, 14.สระแก้ว เอฟซี
กลุ่มภาคกลางตะวันตก จำนวน 13 ทีม ประกอบด้วย
1.วานา นาวา หัวหิน ซิตี้, 2.ธนบุรี ซิตี้, 3.พีทียู ปทุมธานี ซิคเคอร์ เอฟซี, 4.ราชประชา, 5.นนทบุรี เอฟซี, 6.ม.ราชพฤกษ์ เมืองนนท์ ยูไนเต็ด, 7.สมุทรสาคร เอฟซี,8.เพชรบุรี เอฟซี, 9.เกร็กคู ลูกทัพฟ้า ปทุมธานี, 10.โกลเบล็ก ทีดับบลิวดี เอฟซี, 11.เจ.ดับบลิว. โปลิส เอฟซี, 12.กรุงธนบุรี เอฟซี, 13.สีหมอก เอฟซี
กลุ่มภาคใต้ จำนวน 10 ทีม ประกอบด้วย
1. ยะลา ยูไนเต็ด, 2. ชุมพร เอฟซี, 3. สุราษฎร์ เอฟซี, 4. ปัตตานี เอฟซี, 5. สตูล ยูไนเต็ด, 6. นครศรี เฮอริเทจ, 7. ระนอง ยูไนเต็ด, 8. นรา ยูไนเต็ด, 9. ตรัง เอฟซี, 10. พังงา เอฟซี