กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--พีอาร์ดีดี
นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยที่ลงทุนในกองทุนหุ้นไทยจำนวน 3 กองทุน ที่มีผลการดำเนินงานสูงเมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2557 – วันที่ 31 มกราคม 2558 โดยจะจ่ายให้กับผู้ถือหน่วยพร้อมกันในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558 รวมเป็นเงินกว่า 38 ล้านบาท ประกอบด้วย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET BANKING SECTOR INDEX (SCBBANKING) ในอัตราหน่วยละ 0.60 บาท สำหรับการจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้คิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 4.23 % เมื่อเทียบกับมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ 9 ก.พ. 58 .ซึ่งอยู่ที่ 14.1748 บาทต่อหน่วย
สำหรับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET BANKING SECTOR INDEX ถือว่ายังสามารถมีผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 37.18% ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2558 สูงกว่าดัชนีราคาหลักทรัพย์ในหมวดธุรกิจธนาคารของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยซึ่งอยู่ที่ 35.94% โดยกองทุนฯมีนโยบายการลงทุนในหุ้นหมวดธุรกิจธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เฉลี่ยปีละไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ และจะใช้กลยุทธ์ที่สร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีหมวดธุรกิจธนาคารให้มากที่สุดซึ่งเป็นกองทุนเดียวในอุตสาหกรรมกองทุนที่ลงทุนโดยเน้นเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคาร
นายสมิทธ์ กล่าวว่า ส่วนอีก 2 กองทุนคือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (SCBSE) จ่ายปันผลในอัตราหน่วยละ 0.20 บาท คิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 1.75 % เมื่อเทียบกับมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ 9 ก.พ. 58 ซึ่งอยู่ที่ 11.4035 บาท/หน่วย สามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 26.76% หากเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อยู่ที่ 24.58% ณ วันที่ 6 ก.พ. 58 โดยกองทุนนี้เป็นกองทุนที่มีกลยุทธ์การลงทุนด้วยวิธี Active Approach คือ จะคัดเลือกลงทุนในรายหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่น่าสนใจลงทุนมากที่สุดและสอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนในขณะนั้น โดยจะใส่น้ำหนักการลงทุนมากน้อยตามความน่าสนใจลงทุนของหุ้นนั้น และกองทุนจะลงทุนในหุ้นไม่เกิน 30 ตัว จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงในระดับสูงได้
สำหรับอีกหนึ่งกองทุน คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET ENERGY SECTOR INDEX (SCBENERGY) จ่ายปันผลในอัตราหน่วยละ 0.10 บาท คิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 1.01% เมื่อเทียบกับมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ 9 ก.พ.58 ซึ่งอยู่ที่ 9.8758 บาทต่อหน่วย สามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 16.55% เมื่อเทียบกับดัชนีราคาหลักทรัพย์ในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อยู่ที่ 13.31% ณ วันที่ 6 ก.พ. 58 โดยมีนโยบายการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีหมวดพลังงานและสาธารณูปโภคของตลาดหุ้นไทยมากที่สุด