กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--พีอาร์ดีดี
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของราคาทองคำในตลาดโลกตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 3% จากราคาปิดของปี 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการแกว่งตัวอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงประมาณ 138ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ คิดเป็น 11% โดยราคาไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,306.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศนั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 400 บาทต่อบาททองคำ หรือ2% เทียบกับราคาปิดของปีที่ผ่านมา ขณะที่แกว่งตัวในระดับ 1,550 บาทต่อบาททองคำ หรือ 8.35% จะเห็นได้ว่าปรับตัวขึ้นน้อยกว่าราคาทองคำในตลาดโลกอยู่บ้างจากการแข็งค่าของค่าเงินบาท
สำหรับมุมมองของราคาทองคำในช่วงนี้ไปถึงเทศกาลตรุษจีนนั้น วายแอลจีคาดการณ์ว่าราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบของราคาในช่วง1,180-1,305 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยน้ำหนักของการเคลื่อนไหวจะอยู่ที่กระแสของนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ในเรื่องอัตราดอกเบี้ย ที่มีการคาดการณ์กันว่าจะมีการปรับขึ้น จะเห็นได้ว่าเมื่อมีกระแสข่าวดังกล่าวจะสร้างความผันผวนให้กับตลาดทองคำอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ประเด็นปัญหาของกรีซนั้นยังคอยส่งผลกระทบต่อตลาดทองคำเป็นระยะซึ่งหากมีการคลี่คลายในทางที่กรีซไม่ต้องออกจากยูโรโซน จะส่งผลเชิงลบต่อตลาดทองคำได้อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าเทศกาลตรุษจีนนั้นสามารถสร้างจิตวิทยาเชิงบวกได้บ้าง แต่คงไม่มีนัยสำคัญมากนัก เพราะโดยปกติมักจะมีการซื้อทองคำไปก่อนช่วงเทศกาลดังกล่าวก่อนหน้าแล้ว
นางพวรรณ์ กล่าวว่า ส่วนกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ถึงเทศกาลตรุษจีน วายแอลจีแนะนำให้ลงทุนไปตามกรอบราคา1,180-1,305 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ ประมาณ 18,200 -20,200 บาทต่อบาททองคำ โดยเน้นการลงทุนระยะสั้นจากความผันผวนที่เริ่มมากขึ้นจากกระแสคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่หากต้องการลงทุนในระยะกลางถึงยาว อาจรอการซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาเข้าใกล้โซน 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือประมาณ 18,200 บาทต่อบาททองคำ และเลือกขายทำกำไรเมื่อราคาเข้าใกล้บริเวณ 1,305 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือประมาณ 20,200 บาทต่อบาททองคำ แต่หากนักลงทุนรับความเสี่ยงได้มากอาจเลือกทยอยขายในโซน 1,305 ดอลลาร์ต่อออนซ์บางส่วน และอีกส่วนในบริเวณ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือประมาณ 20,900 บาทต่อบาททองคำ