กรุงเทพ--9 ต.ค.--บมจ.ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทยแจงนำเงินกู้เข้าบัญชีนักเรียนที่กู้เงินในโครงการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาไปแล้วเกือบ 250,000 ราย ยอดเงินกู้รวมกว่า 7,500 ล้านบาท ส่วนเหตุที่นักเรียนบางคนได้รับเงินล่าช้าเนื่องจากกรอกเอกสารไม่ถูกต้อง
นายอัสนี ทรัพยวณิช ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาของรัฐบาล ซึ่งธนาคารกรุงไทยเป็นตัวกลางในการให้บริการทางการเงินแก่ นักเรียน นิสิต นักศึกษาที่เข้าเกณฑ์ได้รับคัดเลือกให้ใช้บริการกองทุนดังกล่าวในอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 1 ต่อปี นั้น ขณะนี้ธนาคารได้โอนเงินจากบัญชีของกองทุนฯ เข้าบัญชีให้กับนักเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการไปแล้ว 198,969 ราย ยอดเงินรวมตามสัญญา 4,547.10 ล้านบาท สำหรับนิสิต นักศึกษาในสังกัดทบวงมหาวิทยาลัยของรัฐ นำเงินเข้าบัญชีให้แล้ว 44,252 ราย ยอดเงินรวมตามสัญญา 3,010 ล้านบาท รวมเป็นผู้กู้ทั้งสิ้น 243,221 ราย ยอดเงินรวมตามสัญญา 7,557.10 ล้านบาท
โดยขณะนี้ได้รับแจ้งยอดการอนุมัติเงินกู้จากสถาบันการศึกษาทั้งสองแห่งว่า ณ สิ้นปี 2540 จะสามารถปล่อยเงินกู้ได้ทั้งสิ้น 380,079 ราย เป็นเงิน 11,510.08 ล้านบาท แบ่งเป็นนักเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการจำนวน 314,708 ราย เป็นเงิน 7,089.36 ล้านบาท และ นิสิต นักศึกษา ในสังกัดทบวงมหาวิทยาลัยของรัฐ จำนวน 65,271 รายเป็นเงิน 4,420.72 ล้านบาท โดยสามารถปล่อยกู้ได้สูงกว่ายอดการปล่อยกู้เมื่อปี 2539 ซึ่งปล่อยกู้เพียง 148,444 ราย เป็นเงิน 3,652.59 ล้านบาท
สำหรับผู้กู้ที่ร้องเรียนว่าได้รับเงินล่าช้านั้น ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด ธ.กรุงไทยชี้แจงว่า เป็นเพราะเอกสารสัญญาที่ทางสถาบันการศึกษาส่งมาให้ธนาคารมีข้อผิดพลาดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงมาก เช่น ชื่อผู้กู้ เลขที่บัญชี วันเดือนปีเกิด เป็นต้น ทำให้เสียเวลาส่งคืนไปที่สถาบันการศึกษาเพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง สำหรับประเด็นดังกล่าว นายอัสนี ฯ ยืนยันว่าหากเอกสารสัญญาไม่ต้องแก้ไข และทางโรงเรียนทยอยส่งให้ธนาคารโดยเร็ว ธนาคารจะสามารถโอนเงินเข้าบัญชีผู้กู้ได้ในเวลาเพียง 2-3 สัปดาห์เท่านั้น--จบ