กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--มูลนิธิโรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์
ปัญหาฟันผุ มีกระจายอยู่ในเด็กทั่ว 77 จังหวัด ขณะที่ทันตแพทย์ทั่วประเทศ มีพียง 10,000 กว่าคน คิดเป็นสัดส่วนระหว่างประชากรไทย 67 ล้านคน ต้องบอกว่าขาดแคลน ยกตัวอย่าง อ.ปัว จ.น่าน มีทันตแพทย์ 1 คน ต่อประชาชนทั้งอำเภอ จึงเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส “หน่วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่” จึงเกิดขึ้น เพื่อ ให้บริการทำฟันฟรี เข้าถึงเด็กห่างไกล และช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน (โดยปัจจุบันเฉลี่ยอัตราค่าบริการทำฟัน ดังนี้ ถอนฟันน้ำนม 400-500 บาท, อุดฟันน้ำนม 500-1200 บาท, ขัดฟัน เคลือบฟลูออไรด์ 400-450 บาท, ถอนฟันแท้ 600-1200 บาท ฯลฯ)
จากความร่วมมือของผู้ใหญ่ใจดีที่อยากเห็นน้องๆ หนูๆ มีสุขภาพพลานามัยที่ดี มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย และ มูลนิธิ โรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮ้าส์ (ประเทศไทย) ร่วมกับ กองบัญชาการกองทัพไทย, กองทัพบก, กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ จึงได้จัดทำโครงการ “สุขภาพดี ใต้ร่มพระบารมี” พร้อมมุ่งเน้นในเรื่องการ ให้ความรู้เรื่องทันตกรรม และการรักษาโรคที่เกิดจากช่องปาก ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะน้องๆ หนูๆ ในถิ่นทุรกันดาร ห่างไกลความเจริญ ไม่สามารถเข้าถึงบริการด้านทันตสาธารณสุข ก่อให้เกิดผลกระทบมากมาย เพราะโรค “ฟันผุ” เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการติดเชื้อ สามารถลุกลามไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆ หากโรคไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ทันท่วงที!! งานนี้เลยเป็นเรื่องใหญ่และสร้างแรงบันดาลใจให้ทีมผู้ใหญ่ใจดี ทลายทุกข้อจำกัดของปัญหา โดยร่วมกันสร้าง หน่วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่ (Dental Care Unit) เพื่อให้บริการอุด ถอน ทำฟัน เคลือบฟลูออไรด์ ฯลฯ ให้กับเด็กๆ ในถิ่นห่างไกล พร้อมกันนี้ยังได้รับความร่วมมือ มูลนิธิทันตแพทย์เอกชน ในการจัดส่งแพทย์ฝีมือดี มาช่วยให้บริการน้องๆ หนูๆ รวมถึงประชาชนทุกคนด้วย ซึ่งหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่นี้ เป็นคันแรกของเมืองไทย ได้รับบริจาคจากรถบริษัท Fuso , เงินจากการตั้งกล่องบริจาคภายในร้านแมคโดนัลด์ ใช้ในการดัดแปลงรถและจัดซื้ออุปกรณ์ทำฟันที่ทันสมัย เตรียมออกหน่วยให้บริการไปทั่วประเทศ ประเดิมทริปแรก จ.น่าน เมื่อเร็วๆ นี้
ม.ร.ว. จิยากร เสสะเวช กรรมการอำนวยการและผู้บริหารโครงการ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย ในฐานะหัวหน้าคณะ เผยว่า “เราได้ทำการสำรวจโดยให้แต่ละจังหวัดส่งปัญหาเข้ามา แล้วก็พบว่าเด็กๆ ในถิ่นทุรกันดารยังมีปัญหาเรื่องการเข้าถึงการรักษาพยาบาลมาก อาจจะเนื่องด้วยทุนรอน, การเดินทาง แล้วก็ปัญหาด้านความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน และเห็นว่าปัญหาสุขภาพฟัน เป็นเรื่องใหญ่และเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องให้ความช่วยเหลือ จึงได้รวบรวมหน่วยงานที่มีความรู้ ความสามารถ ในแต่ละด้านมาทำงานร่วมกัน ภายใต้ชื่อโครงการสุขภาพดีใต้ร่วมพระบารมี โดยให้น้ำหนักการให้บริการด้านทันตสาธารณสุขเป็นหลัก ถ้าน้องๆ หนูๆ คนไหนฟันผุ มารักษา แล้วก็ต้องมาเรียนรู้วิธีป้องกันด้วย และเรียนว่ามารักษา อย่าร้องไห้ เสียงดังนะคะ ให้ยอมรับว่านี่คือวิธีแก้ปัญหาในชีวิตต่อไปในอนาคต”
ด้าน คุณสายชล ทรัพย์มากอุดม กรรมการบริหาร มูลนิธิ โรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮ้าส์ (ประเทศไทย) เผยว่า “แนวคิดในการย้ายคลินิกทำฟันขึ้นมาอยู่บนรถ ก็เพื่อขจัดปัญหาเรื่องการเข้าถึงการทำฟัน เพราะหน่วยรถเคลื่อนที่จะสามารถเดินทางไปให้บริการกับน้องๆ ในพื้นที่ห่างไกลได้ ภายในรถได้รับการออกแบบจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ ม.มหิดล ช่วยเป็นที่ปรึกษา จัดวางยูนิต, อุปกรณ์ทำฟัน ระบบน้ำ ระบบไฟฟ้า และลม ให้เหมาะสมและเอื้อต่อการรักษาที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยนอกจาก สะดวก สะอาด ปลอดภัย แล้ว สิ่งที่จะได้จากหน่วยรถ ทันตกรรมเคลื่อนที่คันนี้ ยังมีนิทรรศการความรู้เคลื่อนที่ ในเรื่องของการป้องกันปัญหาสุขภาพฟันอีกด้วย”
ท้ายสุด ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ประธานมูลนิธิทันตแพทย์เอกชน เผยว่า “การออกหน่วยให้บริการของทันตแพทย์นั้น แต่ละปีมีอยู่หลายโครงการฯ แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการด้านการรักษา โดยปัญหาฟันผุ มีกระจายอยู่ในเด็กทั่ว 77 จังหวัด ขณะที่ทันตแพทย์ทั่วประเทศ มีพียง 10,000 กว่าคน คิดเป็นสัดส่วนระหว่างประชากรไทย 67 ล้านคน ต้องบอกว่าขาดแคลน ยกตัวอย่าง อ.ปัว จ.น่าน มีทันตแพทย์ 1 คน ต่อประชาชนทั้งอำเภอ จึงเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส และไม่ใช่เฉพาะเด็กต่างจังหวัด ในกทม.ก็มีเด็กที่มีปัญหาสุขภาพฟันจำนวนมาก อย่าลืมว่าฟันของเด็กมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโต เพราะการเคี้ยว ต้องมีอุปกรณ์คือฟันที่ดีและสุขภาพช่องปากที่ดี เราพบว่าเด็กที่มีฟันผุ ในชนบทจำนวยไม่น้อยติดเชื้อ ลามไปที่ตา ไซนัส จมูก ใบหน้าทั้งหมด คอ และถึงหัวใจ เพราะปัญหาเรื่องฟันส่งผลกระทบทั้งร่างกาย การออกไปแบ่งปันให้กับเด็กๆ ที่ขาดแคลน พร้อมรถเคลื่อนที่ที่สมบูรณ์ สามารถเคลื่อนที่ไปได้ทั่วประเทศ ปัญหาในที่ห่างไกล บนภูเขา ทุรกันดาร เป็นอะไรที่น่ามีส่วนร่วมและน่าสนับสนุนมาก หนำซ้ำเครื่องมือทางการแพทย์บนรถคันนี้ ใหม่เอี่ยมถอดด้าม จึงขอฝากถึงพี่น้องประชาชน ได้โปรด ติดตามข่าวและเข้าร่วม เพราะนี่เป็นโอกาสที่ดีมากๆ”
สามารถติดตามความเคลื่อนไหว ของทริปต่อไป รวมถึงกำหนดการเคลื่อนที่ ได้ที่ www.rmhc.or.th และfacebook/rmhcthailand
(ล้อมกรอบ) ความรู้เรื่องป้องกันฟันผุ
- ฟันผุ เป็นปัญหาอันดับ 1 โดยส่วนใหญ่ มาจากพฤติกรรมการทานที่ไม่เหมาะสมและไม่รักษาสุขภาพช่องปาก
- การแก้ปัญหา คุณครูและผู้ปกครอง ควรให้ความรู้เรื่องพฤติกรรมการทานอาหาร และการแปรงฟัน คอยอธิบาย และสอน การทำความสะอาด ให้เด็กคุ้นชินกับการใช้เครื่องมือในการทำความสะอาดฟันตั้งแต่เด็ก
- พฤติกรรมการทาน เป็นปัจจัยหลักทำให้ฟันผุ ในเด็กเล็ก พบเด็กที่ดื่มนมแล้วหลับคาอกคุณแม่ จะมีปัญหาเรื่องฟันผุมาก เนื่องจากคราบน้ำนมเป็นอาหารชั้นดีของแบคทีเรีย และเป็นต้นเหตุนำไปสู่โรคสุขภาพฟันต่างๆ เรื่องน่าระวังคือ โรคสุขภาฟัน มี 100 กว่าโรค และแบคทีเรียมีกว่า 800 ชนิด
- น้ำตาลทรายขาว เป็น อาหารชั้นดีของแบคทีเรีย แฝงตัวในอาหาร, เครื่องดื่ม น้องๆหนูๆ และผู้ปกครองต้องระวัง และหมั่นทำความสะอาดทุกครั้งหลังทาน เลิกพฤติกรรมทานอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลทรายขาว บ่อยๆ ถี่ๆ
- โรคฟันผุ สัมพันธ์กับการกิน อาหารเสี่ยงสูง คือ อาหารที่มีความเหนียวติด เช่น ลูกอม หมากฝั่ง ท็อฟฟี่ ผลไม้กวน อาหารที่เสี่ยงปานกลาง คือ ขนมปังกรอบ ขนมปังนิ่ม เค้ก น้ำอัดลม
- การเลือกชนิดของอาหารรับประทานเป็นเรื่องสำคัญ ลักษณะอาหาร, ความถี่ในการรับประทาน, เวลาในการรับประทาน ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง (เช้า, ก่อนนอน) ใช้เวลาแปรงฟันอย่างน้อย 2 นาที ด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ หลังเสร็จทำความสะอาดแปรงและนำขนแปรงตั้งขั้น พร้อมงดทานอาหารหลังแปรงฟันสองชั่วโมง
- หน่วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ให้บริการทำฟันฟรี เข้าถึงเด็กห่างไกล และช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน โดยปัจจุบันเฉลี่ยอัตราค่าบริการทำฟัน ดังนี้ ถอนฟันน้ำนม 400-500 บาท, อุดฟันน้ำนม 500-1200 บาท, ขัดฟัน เคลือบฟลูออไรด์ 400-450 บาท, ถอนฟันแท้ 600-1200 บาท ฯลฯ