กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--โอร์ล็อฟ ดรีมเมกเกอร์
“ไทยโคโคนัท” แชมป์ผู้ส่งออกน้ำมะพร้าวพร้อมดื่มของไทยวางเป้าเข้าระดมทุนใน SET พร้อมกระจายหุ้น 150 ล้านหุ้น พาร์ 1 บาท ภายใน ไตรมาส 3 ปีนี้ เตรียมนำเงินขยายการลงทุน เพิ่มซัพพลายเชนในและนอกประเทศ วางเป้าสยายปีกลุยร่วมทุนธุรกิจมะพร้าวแปรรูปเพื่อส่งออกใน“อินโดนีเซีย” รับเออีซี ตั้งเป้าหมายรายได้สดใส โตเท่าตัวต่อเนื่องอีก 3-5 ปี
นางสาวชัญญา ธนศักดิภัทร ประธานกรรมการบริหาร บริษัทไทยโคโคนัท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมการที่จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 27.27 ของ จำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้ว ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 550 ล้านบาท โดยมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 400 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนและซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2558
บริษัทไทยโคโคนัท จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการแปรรูปมะพร้าวเพื่อการส่งออก ในรูปของ ผลิตภัณฑ์กะทิสำเร็จรูป กะทิแปรรูป มียอดขายเป็นอันดับ 3 ของผู้ผลิตกะทิของไทย และเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มน้ำมะพร้าวพร้อมดื่ม น้ำกะทิพร้อมดื่ม ที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งของไทย โดยดำเนินธุรกิจรับจ้างผลิตและส่งออกภายใต้แบรนด์ต่างชาติไปยัง 53 ประเทศทั่วโลก โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักได้แก่ Coca cola inc. ,Linbro inc. ,Trader’s Joe’s สหรัฐอเมริกา และตลาดโมเดรินเทรดขนาดใหญ่ในทุกทวีป อาทิเช่น Sainburry อังกฤษ ,Directus ออสเตรเลีย ,Mc Cormick สวิสเซอร์แลนด์ Pan Asia คานาดา
จากผลการดำเนินงานในปี 2557 มีรายได้รวม 2,113 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 274.69 ล้านบาท โดยมีโครงสร้างรายได้จากการส่งออกถึง 93.13% ส่วนที่เหลือเป็นการผลิตเพื่อป้อนให้กับอุตสาหกรรมอาหารภายในประเทศ วางเป้าหมายรายได้รวมในปี 2558 ไว้ที่ 3,300 ล้านบาท ขยายตัวประมาณ 56% เมื่อเทียบกับปี 2557 และเมื่อปี 2556 ที่มีรายได้รวม 1,374 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 67.10 ล้านบาท
“ที่มาของการเพิ่มทุนในครั้งนี้ มาจากการที่บริษัทฯ จะต้องขยายการลงทุนเพื่อเพิ่มปริมาณวัตถุดิบรองรับการขยายตัวของธุรกิจ ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ที่คาดว่าจะโตอีกเฉลี่ยปีละ 30-50% โดยหลักๆมาจากการขยายตัวทางด้านธุรกิจน้ำมะพร้าวพร้อมดื่มที่ตลาดกำลังโตและไปได้ดีอย่างต่อเนื่อง นางสาวชัญญา กล่าว
สำหรับแผนการระดมทุนดังกล่าวบริษัทฯจะได้นำเงินประมาณ 600 ล้านบาท และบางส่วนจากกำไรสะสมของบริษัทฯเพื่อจัดตั้งธุรกิจสวนมะพร้าวน้ำหอม แบ่งเป็นการลงทุนซื้อสวนมะพร้าวในเขตภาคกลางมูลค่า 300 ล้านบาท และขยายการลงทุนผ่านการจัดตั้งโรงงานแปรรูปมะพร้าวในอินโดนีเซียมูลค่า 300 ล้านบาท ภายในปี 2561 เพื่อที่จะมีปริมาณวัตถุดิบเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 50% ของปริมาณมะพร้าวที่ใช้วันละ 200,000 ลูก และยังสามารถแก้ไขปัญหาความเพียงพอของวัตถุดิบ และลดความผันผวนของราคาวัตถุดิบในแต่ละฤดูกาลเพื่อผลดีในการดำเนินธุรกิจในระยะต่อไป
นางสาวชัญญากล่าวว่า ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุนที่เหลือจะนำไปขยายการลงทุนโรงงานผลิตไฟฟ้าประเภทชีวมวล กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 300 ล้านบาท คาดว่าแล้วเสร็จประมาณ ปี 2561 โดยนำเศษวัสดุทางการเกษตรได้แก่ กะลา และเปลือกมะพร้าวเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า และป้อนกระแสไฟฟ้าให้กับโรงงาน และหากมีส่วนที่เหลือก็จะจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ทั้งนี้บริษัทฯวางเป้าหมายที่จะคัดเลือกที่ปรึกษาทางการเงินและผู้รับประกันการจำหน่ายให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกของปี 2558 และยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ภายในไตรมาสที่สองของปีนี้และคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ภายในเดือนสิงหาคม 2558