กรุงเทพฯ--17 ก.พ.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์
การมุ่งปลูกฝังให้เยาวชนไทยเป็นทั้ง “คนดี” และ “คนเก่ง” ไปพร้อมๆ กัน คือ เป้าหมายสูงสุดของสโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปู ที่ก่อตั้งและสนับสนุนโดย บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) "เราเชื่อมั่นว่าการฝึกฝนให้นักกีฬาในสังกัดสโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปูมีน้ำใจเป็นนักกีฬา มีระเบียบวินัยในการฝึกซ้อม เรียนรู้ที่จะปรับตัวเมื่อพบสิ่งใหม่ๆ และมุ่งมั่นเพิ่มพูนทักษะของตนอย่างไม่หยุดนิ่ง จะช่วยบ่มเพาะให้เยาวชนเติบโตขึ้นเป็นทั้งคนเก่งและคนดี และเป็นผู้สร้างสรรค์สิ่งดีๆ ตอบแทนให้กับสังคมในทุกๆ จุดที่เขายืนอยู่ ซึ่งจะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนสืบเนื่องไป"คำพูดเปิดใจจาก นางอุดมลักษณ์ โอฬาร ผู้อำนวยการสายอาวุโส - องค์กรสัมพันธ์ บริษัท บ้านปู จำกัด(มหาชน) และผู้จัดการสโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปู
ล่าสุด สโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปู ได้คัดเลือกและส่ง 3 นักกีฬาเยาวชนไทยดาวรุ่งในสังกัด ได้แก่ ด.ญ.มนต์สวรรค์ สฤษดิ์อภิรักษ์ นายคมกริช แสงเป๋า และนายศุภกร วัฒนศิริชัยพร ไปเก็บตัว ณ ศูนย์การฝึกซ้อมเทเบิลเทนนิสนานาชาติเจิ้งติ้ง มณฑลเหอเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน กับ "โปรแกรมพัฒนาทักษะนักกีฬาเทเบิลเทนนิสเยาวชนไทย สู่ความเป็นมืออาชีพระดับนานาชาติ” นับตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2557 เป็นต้นมา โดยเยาวชนไทยจะได้ฝึกฝนต่อเนื่องไปถึงเดือนพฤษภาคม 2558 รวมระยะเวลานานถึง 6 เดือน เป็นครั้งแรกในปีนี้ จากเดิมที่สโมสรฯ เคยส่งนักกีฬาในสังกัดไปเทรนปีละ 1 เดือน
นางอุดมลักษณ์ เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นของโครงการส่งนักกีฬาไทยในสังกัดสโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปู ไปเก็บตัวที่ประเทศจีนว่า "เป็นการส่งเสริมให้เยาวชนได้เปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้นเพื่อเติบโตสู่การเป็นมืออาชีพ โดยเรียนรู้จาก "ตัวจริง" ด้านเทเบิลเทนนิสที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับระดับโลก ซึ่งเป็นวิถีทางสอดคล้องกับค่านิยมหลักในการดำเนินงานและพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนของบ้านปูฯ "บ้านปู สปิริต" โดยเฉพาะในด้านนวัตกรรม (Innovation) ซึ่งหมายถึงการใส่ใจเรียนรู้เพื่อพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง และด้านพลังร่วม (Synergy) ที่สะท้อนผ่านความร่วมมือระหว่างสโมสเทเบิลเทนนิสบ้านปู ทั้งในประเทศไทยและในประเทศจีน ซึ่งสนับสนุนโดยบริษัทลูกของบ้านปูฯ คือ บริษัท Banpu Investment (China)"
ด้านนายศุภกร วัฒนศิริชัยพร อายุ 17 ปี ดาวรุ่งนักกีฬาเทเบิลเทนนิสเยาวชนไทย หนึ่งในสมาชิกสโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปู ที่เข้าโปรแกรมเก็บตัว 6 เดือน ณ ประเทศจีน ซึ่งเคยได้เข้าร่วมโปรแกรมเก็บตัวที่ประเทศจีนกับสโมสรฯ แบบ 1 เดือน มาก่อนหน้านี้แล้ว เล่าว่า การมาเก็บตัวในคราวนี้ แตกต่างอย่างมากกับแบบ 1 เดือน เพราะระยะเวลาที่นานถึง 6 เดือน ทำให้ได้รู้จักและสานสัมพันธ์กับเพื่อนๆ จากหลายประเทศ ทั้งชาวจีน คองโก ไนจีเรีย และสวีเดน ซึ่งทุกคนล้วนมีความใฝ่ฝันเดียวกัน คือมุ่งสู่การเป็นนักกีฬามืออาชีพ
"ผมเห็นภาพเส้นทางการไต่อันดับขึ้นเป็นนักเทเบิลเทนนิสระดับโลกชัดเจนขึ้น และมีแรงบันดาลใจตั้งใจฝึกซ้อมมากขึ้น พร้อมๆ กับต้องฝึกความเข้มแข็งของร่างกายและจิตใจให้ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่ท้าทาย และปรับตัวให้คุ้นเคยกับภาษาและวัฒนธรรมที่แตกต่าง เพื่อสื่อสารกับโค้ชและเพื่อนนักกีฬานานาชาติให้เข้าใจ จะได้พัฒนาฝีมือของตัวเองได้ถูกจุด และผมมั่นใจว่าประสบการณ์อันมีค่าที่ได้จากการเข้าโปรแกรมติวเข้มที่เมืองจีนนี้ จะช่วยปูทางให้ผมสามารถเติบโตต่อไปทางด้านการกีฬาและก้าวหน้าบนเส้นทางนี้ได้อย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้" นายศุภกร กล่าว
ทางด้าน มร.จือหยู ฟาน ผู้อำนวยการ ศูนย์การฝึกซ้อมเทเบิลเทนนิสนานาชาติเจิ้งติ้ง ผู้ริเริ่มผลักดันการพัฒนาให้ศูนย์ฯ ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางกีฬาเทเบิลเทนนิสระดับนานาชาติ เปิดเผยมุมมองเกี่ยวกับทักษะของนักกีฬาไทยที่ต่างจากนักกีฬาจากประเทศอื่นๆ ว่า "ในช่วงแรกของการเข้าร่วมโปรแกรมฝึกซ้อม นักกีฬาไทยดูเหมือนจะมีความแข็งแกร่งของร่างกายน้อยกว่านักกีฬาจากประเทศอื่นๆ อยู่บ้าง แต่เมื่อผ่านไป 2-3 สัปดาห์ ก็มีพัฒนาการด้านสมรรถนะร่างกายดีขึ้นเป็นลำดับ ที่นี่เรามีตารางฝึกซ้อมที่เข้มงวดมาก แต่นักกีฬาไทยมีวินัยและเรียนรู้ได้ไว สำหรับนักเทเบิลเทนนิส ความคล่องแคล่วกระฉับกระเฉงเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้ชิงชัยได้สำเร็จ เราจึงเน้นพัฒนาจุดนี้ให้นักกีฬาไทยเป็นอย่างมาก"
ภายใต้การกำกับดูแลของ มร.จือหยู ฟาน ศูนย์การฝึกซ้อมเทเบิลเทนนิสนานาชาติเจิ้งติ้งได้ต้อนรับนักกีฬาจากกว่า50 ประเทศทั่วโลก ผ่านโครงการนักกีฬาแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ โดยในปี 2558 นี้ ทางศูนย์ฯ มีแผนที่จะเพิ่มการลงทุนจำนวน 217 ล้านหยวน (ประมาณ 1,085 ล้านบาท) เพื่อปรับปรุงพื้นที่ด้านประโยชน์ใช้สอยและการอำนวยความสะดวกให้พร้อมรองรับนักกีฬาจากนานาประเทศได้อย่างเต็มภาคภูมิ
"ตลอดระยะเวลา 6 เดือน นักกีฬาเยาวชนไทยทั้ง 3 คน จะใช้ชีวิตอยู่ที่หอพักนักกีฬาร่วมกับนักกีฬาชาติอื่นๆ เพื่อฝึกความรับผิดชอบและวินัย เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรม ควบคู่ไปกับเรียนรู้วิถีชีวิตของนักกีฬามืออาชีพอย่างแท้จริงและเติบโตขึ้นเป็นนักกีฬาที่มีฝีมือทัดเทียมนานาชาติ เพราะบ้านปูฯ เชื่อว่าการเรียนรู้เป็นพลังสำคัญแห่งการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา สิ่งที่เราทุ่มเทให้กับเยาวชนทุกคนก็จะเป็นการช่วยยกระดับมาตรฐานด้านกีฬาเทเบิลเทนนิสของไทยพร้อมกับพัฒนาทักษะชีวิตของเยาวชนต่อไปในอนาคต" นางอุดมลักษณ์ กล่าวปิดท้าย