กรุงเทพฯ--17 ก.พ.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
บมจ.สแกน อินเตอร์ เคาะราคาขายหุ้น IPO หุ้นละ 5.00 บาท หลังสำรวจความต้องการซื้อ (Book Building) ของ นักลงทุนสถานบัน พร้อมเปิดจองหุ้นระหว่าง 16-18 ก.พ.นี้ ก่อนเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 23 ก.พ.นี้ เซ็นสัญญาแต่งตั้ง บล.กสิกรไทย เป็นผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับที่ดี ขณะที่ผู้บริหาร บมจ.สแกน อินเตอร์ มั่นใจยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจที่มุ่งต่อยอดสร้างความแข็งแกร่งจากนวัตกรรมพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติ โดยบริษัทฯ เป็นเจ้าของสิทธิบัตรแต่เพียง ผู้เดียวในประเทศไทย จะช่วยผลักดันการเติบโตแบบยั่งยืนและมุ่งสู่การเป็นผู้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีพลังงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2558 บริษัทสแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ได้จัดพิธีลงนามในสัญญาแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด เป็นผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ รวมทั้งยังแต่งตั้งผู้ร่วมจัดจำหน่ายฯ อีก 4 ราย ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า หลังจากที่ บล.กสิกรไทย ได้ทำการสำรวจความต้องการซื้อหุ้น (Book Building) ของนักลงทุนสถาบัน เมื่อวันที่ 11 - 12 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา โดยมีราคาเสนอที่4.70-5.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งพบว่า นักลงทุนสถาบันได้แสดงความต้องการซื้อที่ราคาสูงสุดหุ้นละ 5.00 บาทเป็นจำนวนมาก โดยมีความต้องการซื้อรวมคิดเป็น 20 เท่าของจำนวนหุ้นที่จัดสรรให้แก่นักลงทุนสถาบัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของ บมจ.สแกน อินเตอร์ ที่นักลงทุนให้ความมั่นใจและสนใจเป็นอย่างดี ดังนั้น จึงได้กำหนดราคาหุ้น IPOในราคาหุ้นละ 5.00 บาท โดยจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในระหว่างวันที่ 16-18 กุมภาพันธ์ และคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้
สำหรับ บมจ. สแกน อินเตอร์ เป็นผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร ได้แก่ ธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติหลักโดยเอกชน (Private Mother Station) ธุรกิจขนส่งก๊าซ NGV ธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ ธุรกิจขนส่งก๊าซธรรมชาติสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม ธุรกิจออกแบบรับเหมา ติดตั้งและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ก๊าซ NGV และธุรกิจติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีเกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติในระดับสูง มีการวิจัยและพัฒนาด้วยตนเอง เพื่อนำมาใช้ต่อยอดทางธุรกิจและสร้างการเติบโต เช่น การคิดค้นระบบลดความดันก๊าซธรรมชาติ(Pressure Reducing System) ที่สามารถนำไปติดตั้งให้กับโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันเตา เป็นการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงเพื่อลดต้นทุน ซึ่ง บมจ.สแกน อินเตอร์ ได้ทำการจดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหวังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติ
“เรามั่นใจว่าด้วยพื้นฐานของบริษัทฯ ที่เป็นเจ้าของนวัตกรรมเทคโนโลยีพลังงานที่เกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติ โดยสามารถนำมาต่อยอดเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ให้มีความแข็งแกร่ง รองรับแนวโน้มความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง จึงมั่นใจว่า หุ้น บมจ.สแกน อินเตอร์ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั่วไปให้ความสนใจจองซื้อหุ้น IPO ของ บมจ.สแกน อินเตอร์ แน่นอน” นายแมนพงศ์ กล่าว
สำหรับ บมจ.สแกน อินเตอร์ ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวน 300 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนที่ออกจำหน่ายและชำระแล้วทั้งหมด 450 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นจำนวน 900 ล้านหุ้น โดยจะนำเงินที่ได้จากการะดมทุนครั้งนี้ ส่วนหนึ่งจะนำเงินไปลงทุนในโครงการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติ ส่วนที่เหลือจะนำเงินไปชำระเงินกู้และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อไป
ด้านนายธัญชาติ กิจพิพิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. สแกน อินเตอร์ กล่าวว่า บริษัทฯ ถือเป็นผู้อยู่เบื้องหลังอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติของประเทศอย่างแท้จริง โดยเป็นคู่สัญญาระยะยาวกับ ปตท.ในการรับบริการตั้งแต่การสูบอัดก๊าซจากท่อก๊าซธรรมชาติของ ปตท. จนถึงลูกค้าปลายทาง ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติหลักเพื่อให้บริการอัดก๊าซธรรมชาติแก่ ปตท. พร้อมบริการขนส่งก๊าซ NGV จากสถานีก๊าซธรรมชาติหลักไปยังสถานีบริการลูกของ ปตท.ที่ไม่ได้อยู่ตามแนวท่อก๊าซ (Gas Supply Chain & Logistics) และให้บริการขนส่งก๊าซธรรมชาติให้แก่กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงยังเป็นผู้ออกแบบ รับเหมา ติดตั้งและซ่อมอุปกรณ์ตามสถานีก๊าซ NGV และอุปกรณ์เกี่ยวกับระบบก๊าซธรรมชาติอื่นๆ
ส่วนผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนของปี 2557 บริษัทฯ มีรายได้ (รวมรายได้จากการขายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ) ทั้งสิ้น 1,737.68 ล้าบาท ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 377.89 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้และกำไรสุทธิส่วนใหญ่มาจากธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติ รองลงมาได้แก่ธุรกิจจำหน่ายรถยนต์และธุรกิจอื่นๆ
“บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีพลังงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เราจึงมุ่งมั่นวิจัยค้นคว้าพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานที่เกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติ โดยสามารถผลิตและประกอบเครื่องอัดก๊าซธรรมชาติได้ด้วยตนเอง รวมถึงการค้นคว้าวิจัยอุปกรณ์ต่างๆ และได้จดสิทธิบัตรทางนวัตกรรมเทคโนโลยีของตนเอง ซึ่งนำมาสู่การสร้างการเติบโตของรายได้ในอนาคตและสร้างความโดดเด่นให้แก่บริษัทฯ เป็นอย่างมาก” นายธัญชาติ กล่าว