กรุงเทพฯ--18 ก.พ.--IR network
บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 4/57 กำไรสุทธิ 57.12ล้านบาท เพิ่มขึ้น 142.73% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 23.53 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และตลอดทั้งปีโชว์กำไร 199.30 ล้านบาท “สมพล ธนาดำรงศักดิ์”เปิดแผนปี”58 เตรียมขยายกำลังการผลิตเพิ่ม 30% หลัง Warehouse ใหม่สร้างเสร็จ ตั้งเป้ากวาดรายได้ 2.1 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 15% เทียบปีก่อน บอร์ดไฟเขียวจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.07 บาท/หุ้น
นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 4/2557 บริษัทมีกำไรสุทธิ 57.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.59 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 23.53 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 142.73% ขณะที่รายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 549.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 110.66 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 438.84 ล้านบาท และตลอดทั้งปี 2557 มีกำไรสุทธิ 199.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.53 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21.70% เมื่อเทียบกับปี 2556
“สาเหตุที่ทำให้กำไรในไตรมาส 4/58 ปรับตัวสูงสูงสุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการผลิตงานในกลุ่ม OEM เพิ่มขึ้น และมีการขยายตัวของตลาด REM ขณะเดียวกันยังได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดตัวโมเดลรถใหม่ในช่วงปลายปี”
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2558 นายสมพลกล่าวว่า FPI เตรียมเพิ่มอัตรากำลังการผลิตเพิ่มอีก 30% หลังจาก Warehouse แห่งใหม่สร้างเสร็จในช่วงปลายมีนาคมปีนี้ ซึ่งจะทำให้ลดต้นทุนต่อหน่วยลง และช่วยเพิ่มมาร์จินให้กับบริษัท
“ผมมั่นใจว่าภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปีนี้จะขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยคาดว่ายอดขายจะอยู่ที่ 2,100 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยรายได้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจะมาจาก 2 ส่วนที่สำคัญคือ การตั้งบริษัทร่วมทุนในเอกวาดอร์ และการเพิ่มกำลังการผลิต หลังจาก Warehouse หลังใหม่สร้างเสร็จ”นายสมพลกล่าว
ก่อนหน้านี้ บริษัทได้เซ็นสัญญาร่วมทุนกับ INVEMIK CIA,LTDA ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำเข้ารถยนต์รายใหญ่ในประเทศเอกวาดอร์ ครองส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) 60% จากปริมาณการผลิตรถยนต์ 100,000 คันต่อปี เพื่อจัดตั้งบริษัท FORTUNE-PARTS INDUSTRY ECUADOR CIA,LTDA. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย INVEMIK CIA,LTDA ถือหุ้นในสัดส่วน 55% ขณะที่FPI ถือหุ้น 45% มูลค่าลงทุน 2 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ลงทุนซื้อแม่พิมพ์และเครื่องจักร โดยจะเริ่มก่อสร้างโรงงานในช่วงปลายปีนี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 2/58 และสามารถดำเนินการผลิตได้ทันทีสำหร
“การเข้าไปลงทุนในเอกวาดอร์ถือเป็นจังหวะที่สำคัญในการบุกตลาดประเทศเพื่อนบ้านที่มีสนธิสัญญา ANDREAN REGION ซึ่งไม่มีภาษีนำเข้าระหว่างกันในประเทศเปรู โคลัมเบีย โบลิเวีย เอกวาดอร์ โดยทั้ง 4 ประเทศดังกล่าว ยังไม่มีโรงงานผู้ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกรายใหญ่ในประเทศดังนั้นการตั้งฐานการผลิตใน ECUADOR จะเป็นการยึดตลาดผู้ผลิตรถยนต์ในทั้ง 4 ประเทศ”นายสมพลกล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้เพิ่มทุนใหม่ 300.59 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อใช้รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอแรนต์) จำนวนไม่เกิน 300.59 ล้านหน่วยที่จะจัดสรรให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 วอแรนต์ เพื่อนำเงินมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
โดยจะออกวอแรนต์ FPI-W1 จำนวนไม่เกิน 300.59 ล้านหน่วย อายุ 3 ปี มีอัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วย ซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ที่ราคาการใช้สิทธิหุ้นละ 2 บาท พร้อมกันนี้ยังได้อนุมัติการเพิ่มทุนใหม่เพื่อรองรับการแปลงสภาพวอร์แรนต์ หรือจำนวน 300.59 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.25 บาท คิดเป็น 75.15 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 395.15 ล้านบาท จากเดิมที่ 320 บาท
สำหรับวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้จากการใช้สิทธิมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท สำหรับการดำเนินงานในอนาคต และลงทุนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ขณะที่การเพิ่มทุนจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัท เพื่อให้มีความยืดหยุ่นทางการเงินในการดำเนินโครงการต่างๆนำอนาคต และเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่บริษัทและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงมีเงินทุนเพียงพอเพื่อนำไปใช้สนับสนุนการลงทุนในธุรกิจของบริษัทในอนาคต
นอกจากนี้ ยังมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของปี 2557 เป็นเงินสดในอัตรา 0.07 บาท/หุ้น ปิดสมุดทะเบียนรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผล ตามมาตรา 225 ของพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 17 เม.ย.2558 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 29 เมษายน 2558