กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--อินคริสซ์ เน็ทเวิร์ค เอเจนซี แอนด์ คอนซัลแทนส์
บริษัท เอเซนเทค(ประเทศไทย) จำกัด จัดงานแถลงข่าว ACENTECH 2015 : Simplify Your Business เพื่อเปิดตัวบริษัท นโยบายและทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2015 ในฐานะผู้นำธุรกิจ RFID ครบวงจรที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 18 ปี โดยนำเสนอจุดเด่นสำคัญของบริษัท 3 ประการคือ INNOVATION หรือความสามารถด้านการนำเสนอนวัตกรรม RFID ระดับโลก CONSULTANT หรือความสามารถในการให้คำปรึกษาการใช้งานนวัตกรรม RFID เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจของลูกค้าซึ่งมีความแตกต่างกัน และ EXPERT TEAM หรือความเชี่ยวชาญของทีมงาน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ออกแบบ การติดตั้ง การ Implement ระบบ และบริการปรับปรุงระบบต่อเนื่อง โดยมั่นใจว่าจุดเด่นนี้จะสามารถให้การสนับสนุนลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตรของบริษัทในการนำนวัตกรรม RFID สู่การขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถแข่งขันในโลกการค้าที่มีความสลับซับซ้อนเช่นปัจจุบัน และจะส่งผลให้บริษัทมีอัตราการเติบโตทางธุรกิจในปี 2015 ประมาณ 25%
นายกำพล โชคสุนทสุทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท เอเซนเทค(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากเริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2540 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Simplify Your Business บริษัทคือผู้นำธุรกิจ RFID ซึ่งดำเนินธุรกิจ 3 กลุ่ม คือการนำเข้าอุปกรณ์ RFID เพื่อจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนจัดจำหน่ายทั่วประเทศ กลุ่มที่สองคือนวัตกรรม RFID ที่เป็นระบบ เพื่อรองรับธุรกิจทั้งระบบติดตั้งมาตรฐานและระบบสำหรับเช่า และกลุ่มที่สามคืองานที่ปรึกษา วิจัยและพัฒนาออกแบบระบบ RFID ให้กับลูกค้าเป็นการตอบโจทย์ธุรกิจที่มีความต้องการแบบเฉพาะเจาะจง ที่ผ่านมาบริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีโครงการใหญ่ ๆ หลายโครงการ อาทิเช่น การนำระบบ RFID ไปใช้สำหรับการแข่งขันวิ่งมาราธอนนานาชาติ ปี 2014 และปี 2015 ซึ่งจัดโดย มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อจัดการข้อมูลผู้ร่วมแข่งขัน 15,000 คน ฯลฯ ทั้งนี้บริษัทเชื่อว่านวัตกรรม RFID มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และมีศักยภาพที่จะตอบโจทย์ธุรกิจสู้การแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดความสลับซับซ้อนทางธุรกิจ ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ15-20% สำหรับในปี 2015 เป็นปีที่ประเทศไทยเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ธุรกิจทุกประเภทจำเป็นต้องปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานเพื่อรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้น จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อการเติบโตของบริษัท โดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 25 % โดยแบ่งออกเป็นงานภาครัฐประมาณ 30% และงานจากบริษัทเอกชนประมาณ 70%
“ เอเซนเทค..ดำเนินธุรกิจโดยเน้นไปที่การเสริมสร้างผลิตภัณฑ์ให้มีความสามารถตามที่ลูกค้าคาดหวัง เพราะต้องการให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากระบบที่เราสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าอย่างดีที่สุดภายใต้...วิสัยทัศน์ของบริษัท....ที่ต้องการเป็นผู้นำธุรกิจด้านเทคโนโลยี RFID ที่ครบวงจรและน่าเชื่อถือที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดระยะเวลากว่า18 ปีที่เราสั่งสมประสบการณ์ในการทำงานของบุคลากรบริษัทในการนำเทคโนโลยี RFID มาสร้างนวัตกรรมต่างๆ ให้แก่ผู้ใช้ จนได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง ผลงานหนึ่งที่เราภาคภูมิใจคือการได้รับแต่งตั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี RFID จาก iTap (Industrial Technology Assistance Program หรือโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย ซึ่งกิจกรรมหนึ่งของสวทช.) บริษัทมีจุดเด่นในด้านของความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีที่จะสามารถเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาและออกแบบการดำเนินการให้แก่ผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายกำพลกล่าวและว่า จุดเด่นสำคัญของบริษัท 3 ประการคือ INNOVATION หรือความ สามารถด้านการนำเสนอนวัตกรรม RFID ระดับโลก CONSULTANT หรือความสามารถในการให้คำปรึกษาการใช้ นวัตกรรม RFID เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจของลูกค้าซึ่งมีความแตกต่างกัน และ EXPERT TEAM หรือความเชี่ยวชาญของทีมงาน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ออกแบบ การติดตั้ง การ Implement ระบบ และบริการปรับปรุงระบบต่อเนื่อง ฯลฯ ทำให้ลูกค้า สามารถเลือกใช้บริการของเอเซนเทคได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด
นายกำพล โชคสุนทสุทธิ์ กล่าวถึงความต้องการใช้นวัตกรรม RFID ว่า ปัจจุบันเป็นยุคของการแข่งขันทางเทคโนโลยี แต่ก่อนจะต้องดูข้อมูลเป็นรายไตรมาส แต่ตอนนี้ระบบข้อมูลต้องดูกันเป็นรายชั่วโมง เวลาต้องเป็นแบบเรียลไทม์ เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สามารถแข่งขันได้ ตัวอย่างง่าย ๆ เช่น การจัดการขายสินค้าของห้างสรรพสินค้า จะต้องมีการนำสินค้าไปเติมในชั้นวางให้ทันก่อนสินค้าขาด แล้วจะทำอย่างไรให้คนมีอำนาจตัดสินใจรับรู้ทันเวลา ฯลฯ เพราะ ฉะนั้นแนวโน้มการใช้นวัตกรรม RFID จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบรับกับการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น ในปัจจุบันยังมีธุรกิจอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่มีการนำ RFID ไปใช้ ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจนั้นเสียเปรียบด้านการแข่งขัน
สำหรับแผนการตลาดของบริษัทนั้น นายกำพล โชคสุนทสุทธิ์ กล่าวว่า เอเซนเทคเน้นการทำตลาดอย่างมีประสิทธิ ภาพ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญของเอเซนเทคจะทำความเข้าใจกับลูกค้าที่ต้องการใช้นวัตกรรม RFID ถึงความสามารถในการตอบโจทย์ทางธุรกิจแก่ลูกค้า โดยเปรียบเทียบถึงเม็ดเงินในการลงทุนกับประโยชน์ที่ได้รับ พร้อมกันนี้เอเซนเทคยังให้การสนับสนุนความรู้ต่อเนื่องแก่หน่วยงานต่างๆ ทั้งในรูปแบบของการจัดสัมมนาเฉพาะกลุ่มธุรกิจ กิจกรรมโรดโชว์ในงานต่าง ๆ โดยมีกิจกรรมประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย สำหรับการส่งเสริมการตลาดในส่วนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ RFID นั้น จะได้รับการสนับสนุนจากคู่ค้าซึ่งเป็นผู้นำนวัตกรรม RFID ของโลก อาทิเช่นเครื่องอ่าน Impinj จากประเทศสหรัฐอมริกา หรือเครื่องอ่าน Nedap จากประเทศฮอลแลนด์ ฯลฯ โดยแต่ละแบรนด์จะสนับสนุนความรู้ด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งบริษัทพร้อมส่งต่อความก้าวหน้านี้ไปยังลูกค้าและหน่วยงานที่สนใจ โดยงบสำหรับการตลาดในปีนี้นั้นจะใช้งบประมาณ 10% ของมูลค่าการตลาดในปี 2015 สำหรับผู้สนใจเกี่ยวกับนวัตกรรม RFID สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่.....บริษัท เอเซนเทค(ประเทศไทย) จำกัด....ฝ่ายข้อมูลการตลาด โทร. 02 7432533-34 ทุกวันในเวลาทำการ