กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
ก่อนที่ประเทศไทยจะแข็งแรง และมั่นคงได้นั้น ต้องเริ่มจากการพัฒนา สร้างความแข็งแรงจากภายในครอบครัวเสียก่อน ล่าสุด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส นำโดย สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมกับ ทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเอไอเอส สานรัก แห่งที่ 5 ณ พื้นที่ราชพัสดุโรงเรียนทุ่งต้นปีก ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ โดยถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นบ้านและโรงเรียนที่จะมอบความรัก ความเอาใจใส่ดูแล และความอบอุ่นเสมือนหนึ่งได้รับการดูแลจากครอบครัว เพื่อเตรียมความพร้อมไปสู่การเรียนในระดับต่อไป ควบคู่ไปกับการสร้างพัฒนาการให้เด็กได้มีความมั่นใจ กล้าเข้าสังคม มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ อันจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการเจริญเติบโต และอยู่ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในสังคมที่แข็งแรงต่อไป
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “สำหรับเอไอเอสแนวคิดของเราคือ การสร้าง “ครอบครัวไทยแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง” โดยที่มุ่งรณรงค์ส่งเสริมการสร้างความรัก ความผูกพัน และช่วยกระชับความสัมพันธ์ภายในครอบครัวให้แน่นแฟ้นแข็งแรง ภายใต้ โครงการสานรักสนับสนุนสถาบันครอบครัว ด้วยความเชื่อมั่นว่าครอบครัวจะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาคนไปสู่สังคมไทยที่ดี เพราะหากครอบครัวไทยแข็งแรง ย่อมส่งเสริมให้ประเทศไทยแข็งแรงไปด้วย
กว่า 17 ปีที่ผ่านมา เราได้ทำกิจกรรมต่างๆ มามากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเอไอเอส สานรัก” เพราะการจัดสถานที่เพื่อดูแลเด็กก่อนวัยเรียนนั้น มีความสำคัญต่อครอบครัวอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งเบาภาระครอบครัวที่ผู้ปกครองต้องทำงาน, การปูพื้นฐาน ความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจให้แก่เด็กๆ ก่อนจะที่เข้าสู่การศึกษาในระบบ ซึ่งหากทำได้ ก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ครอบครัวแข็งแรง ดังนั้นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเอไอเอส สานรัก จึงถูกสร้างขึ้น เพื่อเป็นบ้านและโรงเรียนที่จะมอบความรัก ความเอาใจใส่ดูแลและการให้การศึกษาแก่เด็กๆ ที่เรียนหนังสือเสมือนได้รับการดูแลจากครอบครัว
สำหรับ “ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สานรัก 5” ที่ จ.กระบี่ นี้ จะรับเด็กอ่อนก่อนวัยเรียนอายุระหว่าง 2 ปีครึ่ง ถึง 3 ปี โดยปัจจุบันนี้มีนักเรียนจำนวน 52 คน และมีคุณครู 3 ท่าน และเอไอเอสได้ให้การสนับสนุนการก่อสร้างอาคารเรียน ตลอดจนงบประมาณการบริหารจัดการอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี หลังจากนั้นจะมอบให้ องค์การบริหารส่วนตำบล ในพื้นที่เป็นผู้จัดสรรงบประมาณดูแลรับผิดชอบต่อไป และผมขอยืนยันว่าชาวเอไอเอสทุกคนพร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะพัฒนาชุมชนและสังคม เพื่อให้ครอบครัวไทยแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรงตลอดไป”
ทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า “กระบี่ถือเป็นจังหวัดที่สร้างรายได้การท่องเที่ยวให้แก่ประเทศไทยพอสมควร แต่ส่วนมากเด็กๆ ที่นี่จะมีปัญหาในเรื่องของการอ่านหนังสือ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขเป็นอย่างยิ่ง นอกจากเรื่องของการอ่านแล้ว ในเรื่องไอคิว สติปัญญาก็ต้องได้รับการเสริมสร้าง รวมถึงเรื่องการสร้างความรักความผูกพันในครอบครัว และแก้ปัญหาในกรณีที่ผู้ปกครองไม่มีเวลาดูแลเด็ก ฉะนั้นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเอไอเอส แห่งที่ 5 นี้ จึงเป็นสถานที่จำเป็นและสำคัญมากที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาเด็กเล็กๆ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นถือว่าตอบโจทย์กับทางจังหวัดกระบี่”
คุณครูขวัญใจ ม่วงแก้ว รักษาการหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก บ้านทุ่งต้นปีก กล่าวว่า “ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเอไอเอส สานรัก 5 นี้ เราเน้นความอบอุ่น แบบครอบครัว ไปพร้อมๆกับการสอนให้เด็กได้เรียนรู้ในเรื่องของกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการเคลื่อนไหว กิจกรรมการเสริมประสบการณ์ กิจกรรมสร้างสรรค์ หรือกิจกรรมเสรีคือการเล่นตามมุมกลางแจ้ง และเป็นเกมการศึกษา โดยที่เราจะส่งเสริมให้เด็กได้มีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย ในด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม จิตใจ และสติปัญญา สอนในเรื่องของมารยาทด้วย มีการเข้าแถวเคารพธงชาติ มีกิจกรรมหน้าเสาธงเหมือนโรงเรียนทั่วๆ ไป ที่มีการจัดการเรียนการสอน เน้นกิจกรรมโดยให้เขาได้เรียนรู้ ได้สัมผัส จากประสบการณ์โดยตรง แถมฝึกให้กล้าแสดงออกอีกด้วย”
บัณฑูร ภูมิภมร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาคราม กล่าวว่า “ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเอไอเอส สานรัก 5 ถือว่าเป็นประโยชน์แก่ชุมชนเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นสถานที่พัฒนาการเรียนรู้และมอบความอบอุ่นฉันท์ครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ได้พัฒนาสมองเด็กก่อนวัยเรียน ในเรื่องของอาหารก็ถูกต้องตามหลักโภชนาการ เด็กยังได้ฝึกระเบียบวินัยทุกอย่าง โดยที่เอไอเอสก็ได้ช่วยเรื่องงบประมาณมาอย่างต่อเนื่อง”
เด็กๆ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในครอบครัว หากพวกเขาเหล่านั้นได้รับการอบรม ความอบอุ่น ปลูกฝังสิ่งดีๆ รวมถึงได้รับการเสริมสร้างความรู้และสติปัญญา การดำรงชีวิตให้เป็นคนดีของสังคม ก็จะทำให้เด็กเหล่านี้เติบโต สร้างครอบครัวไทยที่แข็งแรง และช่วยนำพาประเทศไทยให้แข็งแรงต่อไปอย่างแน่นอน