กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--ลีฟ เฮลท์ตี้
“ลีฟ เฮลท์ตี้” สบช่องแบ่งเซกเมนต์ธุรกิจเครื่องกรองน้ำและธุรกิจน้ำแร่บรรจุขวด ทุ่ม 20 ล้าน ชูจุดขายเครื่องทำน้ำแร่ในบ้าน อิมพอร์ตสินค้าใน 4 แบรนด์ คือ เควายเค , ไฮโดรคิวบ์ , โนวิต้า และ ลีฟ เฮลท์ตี้ ครอบคลุมไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ใส่ใจสุขภาพ
นายไพฑูรย์ โตวรวิรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีฟ เฮลท์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯเห็นช่องว่าทางการตลาดของธุรกิจเครื่องกรองน้ำ เพราะปัจจุบันคนรุ่นใหม่และผู้บริโภคที่ใส่ใจดูแลสุขภาพไม่ได้ต้องการแค่น้ำสะอาดเท่านั้น แต่ด้วยความเครียดจากการทำงาน สภาพการแข่งขันจากการดำเนินชีวิต การรับประทานอาหารที่ไม่ได้สัดส่วนทางโภชนาการ และการสูญเสียแร่ธาตุจากการทำงานหนักหรือการออกกำลังกาย ทำให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้ต้องการน้ำที่มีแร่ธาตุซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งตลาดน้ำแร่บรรจุขวดในบ้านเราได้ขยายตัวและเติบโตรับกระแสสุขภาพที่กำลังบูมอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันตลาดน้ำแร่บรรจุขวดมีมูลค่าประมาณ 2,500ล้านบาท แต่ข้อจำกัดของน้ำแร่บรรจุขวดซึ่งส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศมีราคาสูงกว่าน้ำดื่มบรรจุขวดมาก และน้ำแร่ที่นำเข้าจากต่างประเทศมีความเสี่ยงที่แร่ธาตุในน้ำจะสูญเสียไปกับการขนส่งและบรรจุภัณฑ์ บริษัทฯจึงเห็นโอกาสทางการตลาดที่มีช่องว่างระหว่างตลาดเครื่องกรองน้ำและตลาดน้ำแร่บรรจุขวด บริษัทฯจึงได้นำเข้าเครื่องผลิตน้ำอัลคาไลน์ ซึ่งเป็นทั้งเครื่องกรองน้ำและผลิตน้ำแร่ได้ในตัว และบางรุ่นยังตอบสนองและอำนวยความสะดวกมากขึ้นด้วยการผลิตน้ำแร่ได้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็นในตัว โดยบริษัทฯ ได้นำเข้าเครื่องผลิตน้ำอัลคาไลน์ จากประเทศเกาหลีและสิงคโปร์ ภายใต้ 4 แบรนด์ ได้แก่ เควายเค , ไฮโดรคิวบ์ , โนวิต้า และ ลีฟ เฮลท์ตี้ ซึ่งยังได้แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มออกไป รวมทั้งสิ้น 10 รุ่น ตามฟังก์ชันการใช้งาน โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 25,900- 99,900 บาท ซึ่งถือว่าในระยะยาวคุ้มค่ากว่าการซื้อน้ำแร่บรรจุขวดอยู่มาก และน้ำอัลคาไลน์ที่ได้จากเครื่องทำน้ำอัลคาไลน์ยังมีแร่ธาตุสดๆดื่มได้ทันที ไม้ต้องเสี่ยงกับการที่แร่ธาตุในน้ำถูกทำลายจากความร้อนและการขนส่ง
สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของลีฟ เฮลท์ตี้ คือ อายุ 30 ปีขึ้นไป เป็นคนใส่ใจสุขภาพ ศึกษาและหาข้อมูลด้านสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ระดับรายได้ปานกลาง-สูง นอกจากนี้ยังชอบดีไซน์ เพราะตัวเครื่องผลิตน้ำอัลคาไลน์ถูกออกแบบได้เรียบง่าย สวยงามและทันสมัย ติดตั้งง่ายและไม่เปลืองเนื้อที่ บริษัทฯจึงเน้นไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้ที่พักอาศัยในเมือง คอนโดนิเนียม และบ้านพักอาศัยที่มีพื้นที่ไม่มาก รวมทั้งกลุ่มคนที่พิถีพิถันในการเลือกสิ่งของให้เข้ากับบ้าน เน้นดีไซน์และเห็นผลิตภัณฑ์เป็นเหมือนเฟอร์นิเจอร์อีกชิ้นในบ้าน
ทั้งนี้บริษัท ฯ ได้จัดสรรงบประมาณ 20 ล้านบาทในการทำตลาด โดยเน้นการสื่อสารผ่านผู้บริโภคโดยตรง ผ่านพนักงานของบริษัทฯซึ่งผ่านการฝึกอบรมและเทรนนิ่งเรื่องการให้ข้อมูลแก่ลูกค้าเป็นอย่างดี ในกิจกรรมโรดโชว์ลงพื้นที่ให้ความรู้เรื่องน้ำอัลคาไลน์แก่ผู้บริโภค ตามสวนสาธารณะซึ่งเป็นสถานที่ออกกำลังกาย , ออฟฟิศ บิวดิ้ง , ร้านค้าปลีกสินค้าเพื่อสุขภาพ , ฟิตเนส และสปา นอกจากนี้ยังเดินสายออกงานแฟร์ ทั้งงานแฟร์เพื่อสุขภาพ รวมทั้งงานที่เกี่ยวกับบ้าน , ดีไซน์และการออกแบบ ทั้งงานบ้านและสวน งานสถาปนิก รวมทั้งการใช้ช่องทางสื่อสารผ่านทางสื่อออนไลน์ โซเชียลมีเดียซึ่งเชื่อมั่นว่าจะโดนใจผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้ดีที่สุด
โดยขณะนี้ มีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านสาขาของลีฟ เฮลท์ตี้ ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ 5 แห่ง ได้แก่ สยามพารากอน , เซ็นทรัล พระราม 3 และเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ , เดอะพาสิโอ พาร์ค กาญจนาภิเษก และ เดอะไนน์ พระราม 9