กรุงเทพฯ--23 ก.พ.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมนิคมสร้างตนเองคำสร้อย พร้อมมอบเงินสงเคราะห์เด็กและครอบครัว เงินกู้ประกอบอาชีพผู้สูงอายุ เงินซ่อมบ้านผู้สูงอายุ ผ้าห่มกันหนาว และเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์กลุ่มอาชีพ ของนิคมฯ ได้แก่ กลุ่มจักสานตะกร้าพลาสติกบ้านม่วงไข่ กลุ่มอาชีพทำไม้กวาดจากดอกอ้อบ้านเดชจำนงค์ กลุ่มอาชีพทำไข่เค็มบ้านด่านมน และกลุ่มอาชีพทำผ้าเช็ดมือบ้านหนองนกเขียน
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า นิคมสร้างตนเองคำสร้อย เป็นงานจัดสวัสดิการสังคมรูปแบบหนึ่ง จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๙ ตามมติคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ เพื่อช่วยเหลือราษฎรยากจนขาดแคลนที่ดินทำกิน และเพื่อแก้ไขปัญหาการอพยพแรงงานเข้ามาทำงานในเมือง บริเวณที่จัดตั้งนิคมฯ เดิมเป็นป่าสงวนแห่งชาติ มีพื้นที่ ๑๑๘,๗๕๐ ไร่ มีสมาชิกนิคมทั้งสิ้น ๒,๗๘๒ ครอบครัว ประกอบอาชีพการเกษตร การจักสานตะกร้าจากเส้นพลาสติก การทำตุ๊กตาผ้าเช็ดมือ การทำไม้กวาดจากดอกอ้อ เป็นต้น
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า สมาชิกนิคมฯ ซึ่งได้สิทธิ์ทำกินในพื้นที่ของนิคมฯ ส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อย ประกอบอาชีพด้านการเกษตรและอื่นๆ ในการสร้างรายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัว ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีภารกิจหลักในการให้บริการสวัสดิการสังคมและการสงเคราะห์แก่ผู้ด้อยโอกาสและผู้ประสบปัญหาสังคม เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตและพึ่งตนเองได้อย่างมั่นคงและมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ในการมาลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อให้กำลังใจแก่สมาชิกนิคมฯ และมามอบเงินสงเคราะห์เด็ก จำนวน ๑๔๐ ราย เป็นเงินจำนวน ๑๔๐,๐๐๐ บาท เงินสงเคราะห์ครอบครัว จำนวน ๗๐ ราย เป็นเงินจำนวน ๑๔๐,๐๐๐ บาท เงินกู้ประกอบอาชีพผู้สูงอายุ จำนวน ๑๐ ราย เป็นเงินจำนวน ๓๐๐,๐๐๐ บาท มอบเงินซ่อมบ้านผู้สูงอายุ จำนวน ๙ หลัง และผ้าห่มกันหนาว จำนวน ๗,๕๐๐ ผืน แก่ราษฎรในพื้นที่ ๗ อำเภอของจังหวัดมุกดาหาร
“สมาชิกนิคมสร้างตนเองคำสร้อย มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง และมีกรรมสิทธิ์อย่างถูกต้องด้วยความภาคภูมิใจ มีความมั่นคงและยั่งยืน นอกจากนั้น ประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหาร มีคุณภาพชีวิตที่ดีอันเนื่องมาจากนโยบายของรัฐบาล หน่วยงานทุกภาคส่วน ตระหนักถึงความเป็นอยู่ของประชาชนโดยเฉพาะด้านสวัสดิการสังคม สำหรับผู้สูงอายุที่ได้รับทุนประกอบอาชีพ ให้ตั้งใจประกอบอาชีพตามที่ตนถนัด เพื่อประโยชน์แก่ตนเอง และครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ อยากให้สังคมไทยเป็นสังคมที่มีความสุข มีความมั่นคง เป็นสังคม ที่เกื้อกูลกัน” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย