กรุงเทพฯ--23 ก.พ.--IR network
บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) ประกาศผลประกอบการรอบปี"57 ออกมาสุดอลังการ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยตัวเลขกำไรสุทธิปี"57 ที่ 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.4% เมื่อเทียบปีก่อนมีกำไรสุทธิ 831 ล้านบาท อานิสงส์น้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงแรง! ยอดส่งออกทะลัก ดันมาร์จิ้นขยายตัว นอกเหนือจากการจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นในเงินสดในอัตรา 1 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา บอร์ดยังใจป้ำเตรียมนำเสนอในการประชุมผู้ถือหุ้นที่จะจัดขึ้น วันที่ 7 เมษายน 2558 สำหรับประกาศจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 1 บาทต่อหุ้น พร้อมเปิดมิติใหม่แห่งการลงทุนสำหรับ TASCO ประกาศแตกพาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าเป็น บจ. จาก 10 บาท เหลือ 1 บาทต่อหุ้น เพื่อเพิ่มสภาพคล่องการซื้อขาย หลังนักลงทุนสถาบันและรายย่อยจ้องตาเป็นมันอยากเก็บหุ้นเข้าพอร์ต
นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) (TASCO) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2557 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์จำนวน 1,200 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 7.85 บาท เพิ่มขึ้น 44.4% เมื่อเทียบกับปี 2556 มีกำไรสุทธิ 831 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 45,727 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.75% เทียบปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการที่บริษัทสามารถจัดหาน้ำมันดิบชนิดหนักได้เป็นจำนวนมาก และยอดขายจากการส่งออกเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการสินค้าในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้น และการเพิ่มผลผลิตของโรงกลั่นของบริษัทในประเทศมาเลเซียในช่วงต้นปี 2557 ซึ่งบริษัทฯ ได้ทำสัญญาซื้อน้ำมันดิบระยะยาวกับผู้ค้าน้ำมันดิบรายใหญ่ ซึ่งทำให้สามารถจัดหาน้ำมันดิบได้ประมาณ 11 ล้านบาร์เรลต่อปี ขณะเดียวกันการขายผลิตภัณฑ์ยางมะตอยภายในประเทศยังคงไปได้ดี
"ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ทำให้ต้นทุนลดลงตามไปด้วยขณะที่ราคาขายไม่ได้ปรับลดลงเร็วเท่ากับราคาน้ำมันที่ขยับลง ส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้นให้มีสเปรดที่กว้างขึ้น โดยอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในปี 2557 อยู่ที่ 2,005 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2556 อยู่ที่ 1,740 ล้านบาท นอกจากนี้ กลยุทธ์ในการทำประกันความเสี่ยงราคาสินค้ายังช่วยรักษาระดับกำไรขั้นต้นในสภาวะที่ตลาดมีความผันผวนอย่างมาก โดยมีอัตรากำไรจากการป้องกันความเสี่ยงราคาสินค้าเป็นจำนวน 1,452 ล้านบาท ซึ่งตรงนี้ก็ถือเป็นรายการสำคัญเชิงบวกที่มีผลต่อผลประกอบการในปี 2557 ที่ผ่านมา”
ในด้านของอัตราส่วนหนี้สินระยะสั้นที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนผู้ถือหุ้นรวมของกลุ่มบริษัท อยู่ในระดับที่ดีมาก โดยลดลงมาอยู่ที่ 0.80 จาก 1.72 เป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบลดลงและการบริหารต้นทุนหมุนเวียนที่ดีขึ้น ซึ่งการบริหารเงินทุนหมุนเวียนที่ดีขึ้นเกิดจากมีวงจรเงินสดที่ดีขึ้น และอัตราส่วนหนี้สินระยะยาวที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนผู้ถือหุ้นรวมของกลุ่มบริษัทฯ ลดลงจาก 0.37 เป็น 0.37 เท่า
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2557 ในอัตรา 1 บาท/หุ้นรวมเป็นเงิน 153.42 ล้านบาท โดยจะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 เมษายน 2558 อีกทั้ง และให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) ของหุ้น TASCO จาก 10 บาทต่อหุ้น เหลือ 1 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะทำให้สภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นเพิ่มขึ้น
"ครั้งนี้ถือว่าได้ว่าเป็นการเปิดมิติใหม่ทางด้านการลงทุนของ TASCO เพราะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของเราที่ได้ประกาศแตกพาร์หุ้นจาก 10 บาท เหลือ 1 บาท ซึ่งนอกเหนือจากจะทำให้สภาพคล่องในการซื้อขายเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังจะทำให้มีปริมาณนักลงทุนเพิ่มจำนวนขึ้นมาอีกด้วย ทั้งนักลงทุนที่เป็นประเภทสถาบันและนักลงทุนรายย่อย เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของ TASCO ที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นผู้นำตลาดในธุรกิจแอสฟัลท์อีกด้วย "นายชัยวัฒน์กล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ TASCO ได้กำหนดประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี ครั้งที่ 1/2558 ในวันที่ 7 เมษายน 2558 และได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์เข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรวมทั้งรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 10 มีนาคม 2558