กรุงเทพฯ--24 ก.พ.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) เป็นประเด็นเร่งด่วน โดยได้มอบหมายให้กรมประมงเป็นหน่วยงานหลักในจัดทำแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการทำประมง IUU ของไทย เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานที่ชัดเจนให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำหรับบูรณาการร่วมกันในการแก้ไขปัญหาให้เกิดประสิทธิภาพอย่างแท้จริง โดยหนึ่งในแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการทำประมง IUU ที่กำลังเร่งดำเนินการ นั่นคือการกำหนดให้มีการจดทะเบียนเรือประมงและออกใบอนุญาตทำการประมง (การออกอาชญาบัตร) ให้กับเรือประมงของไทยทุกลำเพื่อให้ถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด ซึ่งเป็นการบูรณาการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่าง กรมประมง กรมเจ้าท่า และกรมการปกครอง โดยได้มีจัดหน่วยเคลื่อนที่แบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ในระดับอำเภอ รวมทั้งสิ้น 112 หน่วย ครอบคลุมพื้นที่ใน 23 จังหวัดชายทะเล ออกปฏิบัติงานพร้อมกันตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2558 จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558
ด้านนายจุมพล สงวนสิน อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเรือประมงเข้ารับการจดทะเบียนแล้ว จำนวน 6,017 ลำ จากเป้าหมาย 12,258 ลำ คิดเป็นร้อยละ 49 ทำให้ขณะนี้มีเรือประมงที่จดทะเบียนแล้วรวม 53,268 ลำ และสามารถออกอาชญาบัตรการทำประมงได้จำนวน 11,312 ลำ จากจำนวนเป้าหมาย 19,107 ลำ คิดเป็นร้อยละ 60 รวมจำนวนเรือทั้งหมดที่มีใบอนุญาตทำการประมง รวม 29,579 ลำ โดยกรมประมงจะเร่งรัดการดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 นี้
นอกจากนี้ ในการออกหน่วยเคลื่อนที่ กรมประมงยังได้ประกาศให้เรือประมงทุกประเภทมาจดแจ้งเครื่องมือประมงที่มีอยู่ในครอบครองและแสดงความประสงค์การใช้เครื่องมือประมงของตน พร้อมทั้งสำรวจและลงพิกัดตำแหน่งท่าเทียบเรือที่เรือประมงไทยนำสัตว์น้ำขึ้นท่าด้วย เพื่อรวบรวมข้อมูลเรือประมงทุกประเภท และท่าเทียบเรือสำคัญ สำหรับใช้ในการจัดระเบียบเรือประมงให้เหมาะสม และใช้สำหรับวางแผนการควบคุมการทำประมง IUU ณ ท่าเทียบเรือต่อไป
“สำหรับชาวประมงท่านใดที่ยังไม่ได้มาขอจดทะเบียนเรือประมงและขอใบอนุญาตทำการประมง รวมทั้งรับการจดแจ้งการมีเครื่องมือประมงไว้ในครอบครอง และแสดงความประสงค์ในการใช้เครื่องมือประมง สามารถขอรับบริการได้ที่หน่วยบริการเคลื่อนที่ทั้ง 112 แห่ง ตลอดชายฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน ได้จนกระทั่งถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558 นี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาการทำประมง IUU ได้ทันตามระยะเวลาที่สหภาพยุโรป (EU) กำหนด” นายจุมพล กล่าว