กรุงเทพฯ--24 ก.พ.--คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สร้างสถิติสูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ด้วยยอดขายรวมของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ 8,386 คัน ยอดขายมินิ เพิ่มขึ้นกว่า 51% มอเตอร์ราดเพิ่มขึ้น 75% เมื่อเทียบปีต่อปี บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปสร้างสถิติในปี 2557 ด้วยยอดขายทั่วโลกสูงสุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ที่ 2,117,965 คัน โตขึ้น 7.9% มากกว่าที่เคยจำหน่ายมาในประวัติศาสตร์ สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และโรลส์-รอยซ์ รักษาตำแหน่งผู้นำตลาดรถหรูของโลก
ในภาพ คณะผู้บริหารของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย นำโดย มร.แมทธิอัส พฟาลซ์ (ที่ 6 จากซ้าย) ถ่ายภาพร่วมกับผู้บริหารของบริษัท เยอรมัน ออโต้ จำกัด นำโดย คุณปิยวิทย์ เขมะรังสรรค์ ประธาน (ที่ 5 จากซ้าย) ในงานแถลงข่าวประจำปีของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย และการขยายศักยภาพการจำหน่ายและให้บริการของเยอรมัน ออโต้ แจ้งวัฒนะอย่างเป็นทางการ
ในภาพจากซ้ายคุณกฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย,คุณปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย,มร.ซีซาร์ บาดิลย่า ผู้อำนวยการฝ่ายบริการหลังการขาย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย,คุณจตุพล พุทธวิบูลย์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย,คุณปิยวิทย์ เขมะรังสรรค์ ประธาน บริษัท เยอรมัน ออโต้ จำกัด,
มร.แมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย,คุณวิชัย เจริญลาภดิลก ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เยอรมัน ออโต้ จำกัด,ดร.ปีเตอร์-โอลิเวอร์ วากเน่อร์ กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย,มร.มาร์กุส กลาเซอร์ ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด,มร. ลาร์ส นีลเซ่น เป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด ของบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สร้างสถิติยอดขายใหม่สำหรับปี 2557 สูงสุดถึง 8,386 คันสำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทย พร้อมเปิดตัว เยอรมัน ออโต้ แจ้งวัฒนะ อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายรายแรกที่ให้บริการทั้ง บีเอ็มดับเบิลยู บีเอ็มดับเบิลยู i มินิ บีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราด และรถยนต์คุณภาพที่ผ่านการใช้งานแล้วภายใต้โปรแกรม
บีเอ็มดับเบิลยู พรีเมี่ยม ซีเล็คชั่นและมินิ เน็กซ์ ภายในพื้นที่เดียวกัน
มร.แมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “ในปี 2557 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปสร้างสถิติใหม่ ด้วยยอดขายสูงสุดทั่วโลกมากกว่า 2 ล้านคัน รวมรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิและโรลส์-รอยซ์ ที่ส่งมอบให้แก่ลูกค้าทั้งสิ้น 2,117,965คัน นับเป็นยอดขายที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของกรุ๊ป ส่งผลให้มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วที่ 7.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า การสร้างสถิติยอดขายสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทครั้งนี้ตอกย้ำความสำเร็จในการเป็นผู้นำการผลิตรถยนต์พรีเมี่ยมระดับโลกของเรา ในปีที่ผ่านมา”
“ในเดือนธันวาคม 2557 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ก็ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยการส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 1,205 คัน ภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือน ส่งผลให้ยอดขายเมื่อสิ้นปี 2557 ของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิรวมเป็น 8,386 คัน สร้างสถิติต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แสดงให้เห็นถึงความต้องการในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่ปกติในปีที่ผ่านมา”
ไฮไลท์ของบีเอ็มดับเบิลยูกรุ๊ป คือ ความสำเร็จที่โดดเด่นของมินิ ด้วยสถิติเติบโตเพิ่มขึ้น 51% เทียบกับปีที่ผ่านมา ด้วยยอดการส่งมอบรถยนต์ ที่ 921 คัน ส่งผลให้มินิเป็นแบรนด์ที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในตลาดรถ พรีเมี่ยมของไทย และยังเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับมินิทั่วโลก ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของ มินิ คันทรี่แมน ซึ่งประกอบขึ้นภายในประเทศนั้น มีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อภาพรวมความสำเร็จของแบรนด์มินิ โดยเป็นผลจากการตอบรับอันดีเยี่ยมของลูกค้าในแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์และความเป็นมาที่ยาวนาน นอกจากนี้ การขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ให้บริการมินิ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปที่มิลเลนเนียม ออโต้ อุบลราชธานี และ เยอรมัน ออโต้ แจ้งวัฒนะ ในกรุงเทพฯ นี้ ส่งผลให้มินิ ประเทศไทย เติบโตด้วยการเพิ่มขึ้นของฐานลูกค้าทั่วประเทศ
สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดนั้นก็สร้างสถิติยอดขายใหม่ จากการเปิดตัวมอเตอร์ไซค์สองรุ่นบีเอ็มดับเบิลยู F 800 R และ บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS ที่ประกอบภายในประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากกลุ่มคนรักบิ้กไบค์ในประเทศไทย สามารถทำยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยยอดส่งมอบมอเตอร์ไซค์ที่ 700 คัน เติบโตขึ้น75% เทียบกับปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดยังคงเสริมความแกร่งด้วยการเปิดตัวโชว์รูมเฉพาะของแบรนด์แห่งที่สองคือ เอ็มเอฟ มอเตอร์ราด บนถนนพระราม 2 รวมทั้งการขยายผู้จำหน่าย ทั้งเยอรมัน ออโต้ แจ้งวัฒนะ เยอรมัน ออโต้ พัทยา และเชิดชัย ออโต้เฮ้าส์ โคราช ภายในไตรมาสแรกของปี 2558 นี้
“ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของบีเอ็มดับเบิลยูกรุ๊ป ในประเทศไทย นี้เกิดจากนวัตกรรมของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ความแข็งแกร่งของการเป็นแบรนด์พรีเมี่ยม และชื่อเสียงระดับโลกในด้านความยั่งยืน เราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกจากนิตยสาร เดอะ คอมพานี ให้เป็นบริษัทรถยนต์ที่ได้รับความชื่นชอบสูงสุด (Thailand’s Most Admired Automotive Company 2014) สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจที่ลูกค้าชาวไทยมีต่อวิสัยทัศน์ของบีเอ็มดับเบิลยู”
“พันธกิจของเราที่มีต่อประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและยาวนานยังรวมถึงการดำเนินธุรกิจครบรอบ 15 ปี ในปี 2558 นี้ ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ที่ จ.ระยอง ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญสำหรับโรงงานแห่งเดียวในโลกของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปที่สามารถผลิตยนตรกรรมหรูทั้ง 3 แบรนด์ ได้แก่บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นรถยนต์คันที่ 50,000 ผลิตจากโรงงานแห่งนี้ เมื่อปี 2557 และหวังที่จะเห็นอีก 50,000 คันถัดไป” มร.แมทธิอัส กล่าวเสริมการขยายขอบเขตให้บริการสู่พื้นที่กรุงเทพฯ ตอนบน ณ เยอรมัน ออโต้ แจ้งวัฒนะ ผู้จำหน่าย บีเอ็มดับเบิลยูแห่งแรกที่ให้บริการทั้ง บีเอ็มดับเบิลยู บีเอ็มดับเบิลยู i มินิ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด รวมถึงรถยนต์คุณภาพที่ผ่านการใช้งานแล้วภายใต้โปรแกรม บีเอ็มดับเบิลยู พรีเมี่ยม ซีเล็คชั่นและมินิ เน็กซ์ บนพื้นที่เดียวกัน
นายปิยวิทย์ เขมะรังสรรค์ ประธานบริษัท เยอรมัน ออโต้ กล่าวว่า “เพื่อเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการให้บริการด้วยมาตรฐานระดับสากลของบีเอ็มดับเบิลยู และยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า เราตัดสินใจที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งในความร่วมมือระหว่างเราและบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ด้วยการขยายธุรกิจของเยอรมัน ออโต้ บนถนนแจ้งวัฒนะแห่งนี้ หลังจากความสำเร็จของโชว์รูมที่บางนาซึ่งให้บริการทั้งสาม แบรนด์ ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สำหรับเยอรมัน ออโต้ แจ้งวัฒนะ นั้น จะให้บริการทั้ง บีเอ็มดับเบิลยู มินิ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด รวมถึงรถยนต์คุณภาพที่ผ่านการใช้งานแล้วภายใต้โปรแกรม บีเอ็มดับเบิลยู พรีเมี่ยม ซีเล็คชั่นและมินิ เน็กซ์ ที่สำคัญ เรายังเป็นผู้จำหน่ายและให้บริการ บีเอ็มดับเบิลยู i อย่างเป็นทางการอีกด้วย โชว์รูมแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการในเขตกรุงเทพฯ ตอนบน นนทบุรี และปทุมธานี ด้วยพนักงานที่มีศักยภาพ 75 คน ที่พร้อมให้บริการและการดูแลหลังการขายที่ดีที่สุด และเหนือความคาดหมายของลูกค้า”
ด้วยงบประมาณในการลงทุน 420 ล้านบาท เยอรมัน ออโต้ แจ้งวัฒนะ นับเป็นโชว์รูมและศูนย์บริการที่มี ความทันสมัยตามมาตรฐานระดับโลกของบีเอ็มดับเบิลยู ครอบคลุมพื้นที่ 2.5 ไร่ (4,000 ตารางเมตร) พร้อมด้วยช่องบริการทางเทคนิคมากถึง 18 ช่อง โชว์รูมใหม่แห่งนี้มีพื้นที่จัดแสดงรถยนต์สำหรับบีเอ็มดับเบิลยูและมินิได้มากถึง 19 คัน มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู 9 คัน และรถยนต์คุณภาพที่ผ่านการใช้งานแล้วภายใต้โปรแกรม บีเอ็มดับเบิลยู พรีเมี่ยม ซีเล็คชั่นและมินิ เน็กซ์ 17คัน
2015: มุ่งหน้าสู่อนาคตแห่งความยั่งยืนการเปิดตัวของเยอรมัน ออโต้ แจ้งวัฒนะ ในครั้งนี้ ถูกเติมเต็มความสมบูรณ์แบบด้วย บีเอ็มดับเบิลยู i3 นวัตกรรมยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยระบบพลังงานไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีอันก้าวหน้า และ บีเอ็มดับเบิลยู i8
รถสปอร์ตระบบปลั๊ก-อินไฮบริด ซึ่งพร้อมให้ลูกค้าได้สัมผัสที่โชว์รูมแห่งนี้
“ด้วยชื่อเสียงของยนตรกรรมทั้งสองรุ่นนี้ บีเอ็มดับเบิลยูได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในด้านยนตรกรรมแห่งความยั่งยืนของอนาคต การปรากฎตัวของ บีเอ็มดับเบิลยู i3 ในไทย แสดงถึงความมุ่งมั่นของเราในการนำอนาคตของยนตรกรรมแห่งความยั่งยืนมาสู่ประเทศไทย” มร.แมทธิอัส กล่าว
การริเริ่มด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ก้าวหน้าที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการถ่ายทอดผ่านบีเอ็มดับเบิลยู i3นวัตกรรมแห่งยานยนต์ระบบไฟฟ้าที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก มาพร้อมกับห้องโดยสารซึ่งประกอบขึ้นจากวัสดุเส้นใยคาร์บอนน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ซึ่งถือเป็นวัสดุแห่งอนาคตในวงการวิศวกรรมยานยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู i3 ไม่เพียงนำเสนอการออกแบบอันทันสมัยและโครงแบบด้านสถาปัตยกรรมของตัวรถที่งดงามโฉบเฉี่ยว แต่ยังมาพร้อมกับสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมพร้อมกับนวัตกรรมระบบการเชื่อมต่อไร้สายอีกด้วย
ในปี 2558 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จะสานต่อโครงการวิจัยและพัฒนาที่ชาร์จไฟฟ้ากระแสตรงแบบเร็ว (DC quick charger) สำหรับยานยนต์ระบบไฟฟ้า ซึ่งริเริ่มร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และบริษัท ThaiGerTec เพื่อต่อยอดไปสู่อีกขั้นของการถ่ายโอนเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของเยอรมนีและความเชี่ยวชาญด้านยนตรกรรมระบบไฟฟ้ามาสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย โดยมุ่งผลักดันให้เกิดนโยบายด้านการขับเคลื่อนอย่างยั่งยืนและปราศจากการปล่อยไอเสียในประเทศไทย รวมถึงสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางแห่งนวัตกรรมยานยนต์ของอาเซียนอีกด้วย
“บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มุ่งมั่นด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกขั้นตอนการดำเนินงานและในทุกประเทศที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ เห็นได้จากกระบวนการผลิตต่างๆ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ของเรา โดยบีเอ็มดับเบิลยู i3 และบีเอ็มดับเบิลยู i8 เป็นเครื่องยืนยันที่ดีที่สุดถึงความมุ่งมั่นนี้” มร.แมทธิอัส กล่าวสรุป
2015: เปิดตัวรุ่นใหม่เติมเต็มประสบการณ์การขับขี่
มร.พฟาลซ์ ได้ประกาศการเปิดตัวบิ๊กไบค์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นใหม่ล่าสุดในประเทศไทย The new BMW F 800 R พร้อมทั้งการเผยโฉมบีเอ็มดับเบิลยู i3 สู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 36
“การจัดแสดงบีเอ็มดับเบิลยู i3 เป็นการขยายศักยภาพของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยให้ครอบคลุมยนตรกรรมล้ำสมัยทุกเซ็กเมนต์ โดยสมาชิกใหม่ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าโดยสมบูรณ์นี้จะได้รับการจัดแสดงในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นจังหวะที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งในการตอบรับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นของนวัตกรรมยานยนต์สำหรับการขับขี่ในเมือง เพื่อต่อยอดความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู i8 เราเชื่อมั่นว่าบีเอ็มดับเบิลยู i3 พร้อมระบบขับเคลื่อนเทคโนโลยี eDrive จะเปิดประสบการณ์ของยนตรกรรมแห่ง
ความยั่งยืนครั้งใหม่ให้แก่ลูกค้าชาวไทย และพร้อมเข้าสู่ยุคแห่งยนตรกรรมขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าอย่างแน่นอน”
นอกเหนือจากบีเอ็มดับเบิลยู i3 เรามีความยินดีที่จะนำเสนอมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุดของบีเอ็มดับเบิลยูที่จะได้รับการประกอบเพิ่มเติมในประเทศไทย The new BMW F 800 R โดยตลาดบิ๊กไบค์ไทยได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีนี้เห็นได้จากความสำเร็จของเราที่ได้แจ้งไปก่อนหน้า
บีเอ็มดับเบิลยูเชื่อมั่นว่า The new BMW F 800 R ซึ่งมากพร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ ซึ่งได้รับการพัฒนาใหม่จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะตอบสนองความต้องการของนักขี่บิ๊กไบค์ชาวไทยอย่างแน่นอน” มร.พฟาลซ์ เสริมThe new BMW F 800 R ทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยระบบรองรับแรงกระแทกแบบใหม่พร้อมทั้งการปรับปรุงการออกแบบตามหลักการยศาสตร์ ได้แก่ โช้คกลับหัวซึ่งจะรองรับแรงกระแทกบริเวณล้อหน้า รวมถึงเบาะที่นั่งซึ่งปรับระดับต่ำลง (เป็น 790 มล. จากเดิม 800 มล.) โดยเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์เป็น 66 กิโลวัตต์(90 แรงม้า) ที่ 8,000 รอบต่อนาที นอกจากนี้การออกแบบมอเตอร์ไซค์ยังเน้นการผสานเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ขับขี่มากกว่าที่เคยด้วยไฟหน้าแบบใหม่ซึ่งออกแบบให้สมมาตร มอบรูปลักษณ์แบบใหม่ให้กับบิ๊กไบค์คันนี้ เสริมด้วยฟีเจอร์ทีได้รับการออกแบบใหม่ต่างๆ ได้แก่ แฟริ่ง แผงหม้อน้ำ บังโคลนหน้า และล้อโปรแกรมคุ้มครองการบำรุงรักษา BMW Service Inclusive (BSI) และ MINI Service Inclusive (MSI) ได้ปรับเปลี่ยนเพิ่มเป็นโปรแกรม BMW และ MINI Service and Extended Warranty packages โดยมีระยะเวลาคุ้มครองรถยนต์ถึง 5 ปี/100,000 กม. สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู และ5 ปี/50,000 กม. สำหรับมินิ
มร.พฟาลซ์ กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมบำรุงรักษาว่า “ในโอกาสฉลองครบรอบ 10 ปี ของการมอบโปรแกรมบริการหลังการขายสำหรับลูกค้า BMW Service Inclusive หรือ BSI ในประเทศไทย เราจึงนำเสนอแพ็กเกจใหม่สำหรับเจ้าของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ ซึ่งมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น โดยนับตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2558 เป็นต้นไป ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูและมินิจะได้รับข้อเสนอการต่อระยะเวลาคุ้มครองรถยนต์เพิ่ม ซึ่งเป็นแพ็กเกจมาตรฐานที่มาพร้อมกับรถยนต์ใหม่ทุกคัน”
“ข้อเสนอ BMW และ MINI Service and Extended Warranty packages จะเพิ่มความสบายใจให้แก่ลูกค้าของเรามากขึ้นด้วยการครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษารถยนต์ถึง ถึง 5 ปี/100,000 กม. สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู และ 5 ปี/50,000 กม. สำหรับมินิ พร้อมทั้งการรับประกันภายใต้เงื่อนไขและข้อตกลงเช่นเดียวกันการรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์ตลอดระยะเวลาการคุ้มครองนี้อีกด้วย ”
“BMW และ MINI Service and Extended Warranty packages นี้เป็นสิทธิ์ที่ผูกกับรถยนต์ทุกคัน มอบความสบายใจให้กับเจ้าของใหม่ยามส่งต่อรถยนต์ตลอดระยะเวลาการคุ้มครองที่เหลืออยู่ ซึ่งส่งผลให้มูลค่าของการส่งต่อรถยนต์บีเอ็มดับบิลยูและมินิเพิ่มขึ้นอีกด้วย” มร.พฟาลซ์สรุปขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการนอกเหนือจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของเยอรมัน ออโต้ แจ้งวัฒนะ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยได้ประกาศกลยุทธ์ในการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายให้ครอบคลุมพื้นทื่ในกรุงเทพมหานครและพื้นที่สำคัญบริเวณใกล้เคียงร่วมกับผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ
“ภายในปีพ.ศ. 2558 เราจะขยายศูนย์บริการครบวงจรผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายของเราได้แก่ ผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูแห่งใหม่ 5 แห่ง, มินิ 4 แห่ง และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 4 แห่ง โดยมุ่งนำเสนอบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูทุกท่าน ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งรวมถึงโปรแกรมฝึกทักษะช่างเทคนิคมืออาชีพBMW Apprentice Service เพื่อรักษามาตรฐานระดับสูงของการให้บริการเชิงเทคนิคอีกด้วย” มร.พฟาลซ์ สรุปบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส สร้างสถิติใหม่อีกครั้ง สะท้อนการเติบโตต่อเนื่องทุกปีของลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ
ดร. ปีเตอร์-โอลิเวอร์ วากเน่อร์ กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย กล่าวว่า “ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส และ มินิ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส บริษัทประสบความสำเร็จในการสร้างสถิติยอดสัญญาเช่าซื้อในปี 2557 ที่เติบโตขึ้นอย่างมั่นคงถึง 25% เมื่อเทียบกับ ปีที่ผ่านมา
โดยมีฐานลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูและมินิเพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปี 2556 แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จด้านยอดขายยนตรกรรมในประเทศไทยของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ใน ปี 2557”
“ความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย และเครือข่ายผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยู และมินิทำให้บริษัทสามารถออกแบบขั้นตอนในการจำหน่ายซึ่งประสบความสำเร็จในการสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจของผู้จำหน่ายได้ เรามุ่งมั่นที่จะดูแลและมอบบริการชั้นเยี่ยมให้แก่ลูกค้าเพื่อให้การเป็นเจ้าของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิมีความสะดวกสบายมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ผ่านการออกแบบสินค้าที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าและให้บริการระดับพรีเมี่ยมผ่านแคมเปญการตลาดต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบัน ในปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ได้เปิดตัวแคมเปญต่างๆ เพื่อตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้ามีให้เสมอมา ทั้งนี้ เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ยังได้ลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนงานด้านการขาย ผ่านการประสานงานอย่างใกล้ชิดของทีมCustomer Interaction Centre (CIC) และผู้จำหน่ายของเรา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการนำเสนอสินค้าและสุดยอดบริการที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคลมากยิ่งขึ้น”
“ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2558 นี้ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิสยังคงเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการเงินล่าสุด หรือ “BeJoy” อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการผ่อนชำระ ช่วยให้ลูกค้าบริหารด้านการเงินได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการมอบความสุขให้กับลูกค้ายามที่ได้เป็นเจ้าของบีเอ็มดับเบิลยูด้วยเช่นกัน” มร. วากเน่อร์ กล่าวสรุป