กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่
โรคหัวใจ เป็นอีกหนึ่งโรคที่ใครๆ หลายคนคาดไม่ถึง และไม่มีอาการบ่งบอกว่านี้คือ “โรคหัวใจ” และเมื่ออาการกำเริบขึ้นมาแล้วนั้นผู้ป่วยคงต้องเข้ารับรักษาอย่างทันถ่วงเวลาในโรงพยาบาลที่เพียบพร้อมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ และเครื่องไม้เครื่องมือ เพื่อรักษาชีวิตของคนที่คุณรัก
เช่นเดียวกับ คุณธนะเดช สุทธิพินทุ อายุ 62 ปี เจ้าของกิจการร้านจำหน่ายยา ที่เข้ารับการรักษาด้วยภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา ด้วยอาการเจ็บหน้าอก และแน่นหน้าอก จึงเข้ารักษาตัว ณ โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ โดยทีมแพทย์แนะนำให้คุณธนะเดช สุทธิพินทุ เข้ารับการผ่าตัดทันที เนื่องจากมีอาการของ “ภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ และกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนกำลัง” และเข้าพักการรักษาตัวเพียง 7วัน จึงสามารถกลับบ้านและใช้ชีิวิตตามปกติได้
คุณธนะเดช สุทธิพินทุ กล่าวว่า “รู้สึกดีใจที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกรงุเทพเชียงใหม่ เนื่องจากเคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาลกรุงเทพ ที่จ.กรุงเทพ มีความมั่นใจในทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ซื่อสัตย์ในการรักษาผู้ป่วย และรู้สึกประทับใจทีมแพทย์ที่ใส่ใจ และดูแลผู้ป่วย ด้วยการพูดคุยและอธิบายถึงลักษณะอาการ วิธีการผ่าตัด การรักษาตัว และวิธีการหลีกเลี่ยงจากโรคหัวใจต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ซึ่งโรงพยาบากรุงเทพเชียงใหม่ ถือว่าเป็นอีก 1 ทางเลือกของการเข้ารับการรักษาหากมีเหตุการณ์ที่คุณไม่คาดคิดเหมือนเช่นผมครับ”
ด้านทีมแพทย์ผู้ให้การรักษา นพ.วีระชัย นาวาธวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ มีประการณ์ทำงานมากว่า 25 ปี ได้กล่าวถึงเคสการผ่าตัดเปิดทรวงอกเพื่อรักษาโรค “ภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ และกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนกำลัง” เคสแรกของโรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ และเคสแรกของจังหวัดเชียงใหม่ว่า “เคสนี้เป็นการประสานความร่วมมือระหว่างศูนย์วิจัยโรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ คณะแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่, และโรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ ด้วยการผ่าตัดทำ “Bypass” หรือ “การผ่าตัดทำทางเบี่ยงเส้นเลือดหัวใจ” จำนวน 3 เส้น ในระยะเวลาการผ่าตัดเพียง 3.30 ชม. ด้วยนำหลอดเลือดมาต่อเข้ากับเส้นเลือดใหม่ โดยนำเอาเส้นเลือดแดงใต้อกและเส้นเลือดดำที่ขามาตัดต่อยังจุดใหม่ซึ่งเลี่ยงจากจุดที่ตืบ เพื่อให้เลือดเดินทางไปเลี้ยงหัวใจได้สะดวกมากขึ้น และในเคสนี้คนไข้ยังมีภาวะการทำงานขอหัวใจกล้ามเนื้อหัวใจอ่อน ซึ่งปกติเส้นเลือดหัวใจบีบตัวอยู่ที่ 70% แต่เคสนี้คนไข้มีอยู่ที่ 30% แต่หลังจากทำการผ่าตัดแล้วกล้ามเนื้อหัวใจสามารถกลับมาอยู่ที่ 40 - 50% นั้นแสดงว่ากล้ามเนื้อที่ตัดต่อได้เลือดเป็นอย่างดี จึงทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งทางโรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ ยังเน้นระบบความปลอดภัยของคนไข้ หรือ “Duble Check” เป็นการเช็คการทำงานของกันและกัน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด เช่น การให้ยาคนไข้ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของคนไข้เป็นหลัก อีกทั้งด้านของความสะดวกสบายที่ทางโรงพยาบาลมีให้กับคนไข้ จึงทำให้การรักษาได้ผลเร็ว
ในด้านแผนกโรคหัวใจ โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ ตอนนี้เรามีความพร้อมในการตรวจรักษาแบบครบวงจรสามารถรองรับคนไข้ได้ 100% เต็มในการรักษาคนไข้ อาทิ การสวนหัวใจ, เช็คสุขภาพ, หัวใจเต้นผิดจังหวะ, เส้นเลือดหัวใจตืบ, หัวใจล้มเหลว โดยมีนพ.อภิชาติ สุคนธสรรพ์, พญ.สุจินดา หทัยธรรม และอาจารย์จากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เข้าร่วมทีมแพทย์ เพื่อให้การรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น