กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--อินทิเกรต คอมมูนิเคชั่น
พฤกษา เรียลเอสเตท ทำรายได้และกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์เติบโตต่อเนื่อง ท่ามกลางสภาวะตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว โดยมีรายได้สูงถึง 42,702 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 6,655 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.0% และ 14.7% ตามลำดับ
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า ผลประกอบการประจำปี 2557 “ในปีที่ผ่านมา สามารถทำรายได้และกำไรสุทธิ สูงสุดเป็นสถิติใหม่ ในรอบ 21 ปี คือ มีรายได้ 42,702ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.0% จากปี 2556 ที่มีรายได้ 38,811 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยว 32,567 ล้านบาท และรายได้จากคอนโดมิเนียมและโครงการในต่างประเทศ อีก 10,135 ล้านบาท ด้าน กำไรสุทธิ ทำได้ 6,655 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้น 14.7% จากปี 2556 ที่มีกำไรสุทธิ 5,802 ล้านบาท กำไรสุทธิดังกล่าว เติบโตมาจากการบริหารต้นทุนและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้แม้ปี 2557 ภาพรวมตลาด อสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ลดลง 15.8% แต่พฤกษา สามารถครองส่วนแบ่งตลาดที่อยู่อาศัยใน เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพิ่มสูงขึ้นจาก 11% ในปี 2556 เป็น 13% โดยสินค้าในกลุ่มทาวน์เฮาส์ ยังคงครอง ส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดอยู่ที่32%”
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ เปิดเผยว่า “บริษัทฯ มุ่ง ดำเนินงาน ตาม Business Platform ที่วางไว้ โดยยังคงเน้นตลาดแนวราบ โดยเพียงสิ้นปี 2557 ปรากฏสัดส่วนรายได้ คือ แนวราบ77% และแนวสูง 23% และสามารถลดระยะเวลาในการก่อสร้างบ้านแนวราบ โดยสามารถเร่งการส่งมอบทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยวได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการนำเทคโนโลยี Pruksa Precast รวมถึงระบบการก่อสร้างบ้านที่มีคุณภาพPruksa REM ส่งผลให้รอบธุรกิจ ระยะเวลาจากจองถึงโอน ( Business Cycle Time ) โครงการแนวราบลดลงเหลือเพียง87 วัน จากในปี 2556 ที่ 146 วัน ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ ทำให้เกิดการหมุนเวียนของทรัพย์สินที่รวดเร็ว และทำให้บริษัทฯ มีรายได้ และกำไรสุทธิเพิ่มสูงขึ้นตามกล่าว
สำหรับในปี 2558 บริษัทฯ ยังคงมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ รวมทั้งสิ้นสูงถึง 34,224 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในปีนี้ จะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ให้เป็นรายได้ มูลค่ารวมสูงถึง 22,862 ล้านบาท หรือคิดเป็น 48.6% ของเป้ารายได้ของปี2558 ทั้งปี ที่ประมาณไว้ 47,000 ล้านบาท จึงมั่นใจได้ว่าในปี 2558 นี้จะเป็นอีกปีหนึ่งที่บริษัทฯ จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้”