กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
รายได้จากการดำเนินงานตลอดปี 2557 คิดเป็นมูลค่า 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐกระแสเงินสดตลอดปี 2557 อยู่ที่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐภูมิภาคอเมริกาเหนือสร้างสถิติใหม่ในการทำรายได้ ในไตรมาส 4 ตลอดปี 2557
บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายการสร้างรายได้จากหุ้นสามัญในช่วงไตรมาส 4 ไว้ที่ 150 ล้านเหรียญสหรัฐ
ค่าเผื่อภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี มูลค่า 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงของการจ่ายภาษี
บริษัทคาดการณ์รายได้จากการดำเนินงานในปี 2558 จะมีการเติบโตร้อยละ 10 -15 เมื่อเทียบกับปี 2557
บริษัท กู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด สหรัฐอเมริกาแถลงผลประกอบการประจำไตรมาส 4 และผลประกอบการประจำปี 2557
มร.ริชาร์ด เจ. เครเมอร์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า "บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมาแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจของโลกกำลังผันผวนและถดถอย ในขณะที่สภาวะของอุตสาหกรรมยางรถยนต์โดยรวมนั้น ส่งผลลัพธ์ออกมาในหลายทิศทางต่างกันแต่เรายังสามารถประสบความสำเร็จด้านรายได้ในภูมิภาคอเมริกาเหนือและเอเชียแปซิฟิก ซึ่งนับเป็นเครื่องชี้วัดถึงความสำเร็จของเราในการนำมาตรการทางธุรกิจไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
"ค่าเผื่อภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี (U.S. tax valuation allowance) ที่บริษัทได้ปล่อยออกมาในรอบ 12 ปีนั้นนับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของกู๊ดเยียร์ ซึ่งเป็นการประกาศถึงความสำเร็จในการสร้างความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจในแถบอเมริกาเหนือค่าเผื่อภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี ที่มีมูลค่าถึง 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐในครั้งนี้ท ถือเป็นมาตรการสร้างผลประโยชน์ให้แก่ธุรกิจทั้งหลายในอเมริกาเหนือเลยทีเดียว กู๊ดเยียร์จะบันทึกรายได้ที่มาจากภาษีในครั้งนี้ในอนาคต ซึ่งจะทำให้บริษัทไม่ต้องเสียภาษีไปอย่างน้อย 5 ปี
"และด้วยเหตุนี้ เราได้ตั้งเป้าทำรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10-15 จากที่ทำไว้ในปี 2557 มูลค่าถึง 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ แม้ต้องเผชิญกับภาวะค่าเงินเหรียญสหรั ที่เพิ่มขึ้น" มร.เครเมอร์กล่าว
ยอดขายของกู๊ดเยียร์ในช่วงไตรมาส 4/2557 อยู่ที่ 4.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาทีทำรายได้อยู่ที่ 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้สาเหตุเกิดมาจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลของต่างประเทศที่ไม่น่าพอใจ เป็นมูลค่าถึง 256 ล้านเหรียญสหรัฐ และยอดขายในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาที่ลดลง โดยมีมีมูลค่าอยู่ที่ 181 ล้านเหรียญสหรัฐ
ปริมาณยางกู๊ดเยียร์ที่ขายในไตรมาสที่ 4/2557 อยู่ที่ 39.5 ล้าน โดยที่ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์กู๊ดเยียร์ในตลาดยางติดรถ (Original Equipment) ลดลงร้อยละ 1 เนื่องจากความซบเซาของตลาดในแถบลาตินอเมริกา ขณะที่บราซิลปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์ในตลาดยางรถยนต์ทดแทน (Replacement) ลดลงร้อยละ 4 เนื่องจากยอดขายที่ลดลงของยางรถยนต์ใช้สำหรับฤดูหนาวในยุโรป อันสืบเนื่องมาจากอากาศที่อุ่นเป็นประวัติการณ์ในทวีปดังกล่าวกู๊ดเยียร์ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2557 มูลค่า 359 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามูลค่า 419 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งรายได้ที่ลดลงนี้เป็นผลจากการใช้กลยุทธ์ราคา ความหลากหลาย และจำนวนของผลิตภัณฑ์ที่ไม่รวมวัตถุดิบ ซึ่งรวมแล้วมากกว่ามูลค่าชดเชยที่มาจากการปรับต้นทุนวัตถุดิบและมาตรการลดต้นทุนด้านอื่น ๆ
กำไรสุทธิในไตรมาส 4/2557 ของกู๊ดเยียร์สำหรับผู้ถือหุ้นสามัญมีมูลค่าถึง 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราคาหุ้นละ 7.68 เหรียญสหรัฐ) ทั้งนี้ไม่รวมกำไรสุทธิที่ปรับแล้วที่มีมูลค่า 166 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราคาหุ้นละ 59 เซ็นต์)
ในขณะที่กำไรสุทธิในไตรมาส 4/2556 ของกู๊ดเยียร์สำหรับผู้ถือหุ้นทั่วไปมีมูลค่าถึง 228 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราคาหุ้นละ 84 เซ็นต์)ทั้งนี้ไม่รวม กำไรสุทธิที่ปรับแล้วที่มีมูลค่า 209 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราคาหุ้นละ 74 เซ็นต์) ราคาต่อหุ้นลดลง
ผลประกอบการตลอดทั้งปี
ยอดขายของกู๊ดเยียร์ตลอดปี 2557 มีมูลค่า 18.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับปี 2556 ที่มีมูลค่า 19.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเกิดจากผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นมูลค่าถึง 571 ล้านเหรียญสหรัฐ มีปริมาณยางรวมทั้งสิ้น 162 ล้านเส้น ในขณะที่ตลาดยางรถยนต์ทดแทน (Replacement) เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์กู๊ดเยียร์ในตลาดยางติดรถ (Original Equipment) ลดลงร้อยละ 3
รายได้จากการดำเนินงานตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาของกู๊ดเยียร์ มีมูลค่า 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเปรียบเทียบรายได้จากการดำเนินงานหนึ่งปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันของปี 2556 ซึ่งรายได้ที่มีอัตราลดลงนี้ สะท้อนให้เห็นถึงวัตถุดิบและต้นทุนแปลงสภาพที่ลดลงซึ่งบางส่วนเป็นผลจากการใช้กลยุทธ์ราคา ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ไม่รวมวัตถุดิบและผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน
ตลอดทั้งปี 2557 กำไรสุทธิของผู้ถือหุ้นสามัญมีมูลค่า 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราคาหุ้นละ 8.78 เหรียญสหรัฐ) ทั้งนี้ไม่รวม กำไรสุทธิที่ปรับแล้วที่มีมูลค่า 790 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราคาหุ้นละ 2.83 เหรียญสหรัฐ)
ในขณะที่กำไรสุทธิในปี 2556 ของกู๊ดเยียร์สำหรับผู้ถือหุ้นสามัญมีมูลค่า 600 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราคาหุ้นละ 2.28 เหรียญสหรัฐ)ทั้งนี้ไม่รวม กำไรสุทธิที่ปรับแล้วมูลค่า 723 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราคาหุ้นละ 2.63 เหรียญสหรัฐ) ราคาต่อหุ้นทั้งหมดลดลง
ในไตรมาส 4/2557 มูลค่ายอดขายยางกู๊ดเยียร์ในภูมิภาคอเมริกาเหนือลดลงร้อยละ 1 จากปี 2556มาอยู่ที่ 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ยอดขายที่ลดลงดังกล่าวเกิดจากผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน และการขายยางที่ลดลงร้อยละ 1 ทั้งนี้ บางส่วนเป็นผลจากการใช้กลยุทธ์ราคาความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ไม่รวมวัตถุดิบ ในขณะที่กู๊ดเยียร์มีปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์กู๊ดเยียร์ในตลาดยางรถยนต์ทดแทน (Replacement) ลดลงร้อยละ 1 และในตลาดยางติดรถ (Original Equipment) คงที่ซึ่งในไตรมาส 4/2557 นี้ กู๊ดเยียร์มีกำไรจากการดำเนินงานรวมทั้งสิ้นคิดเป็น 229 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการใช้มาตรการลดต้นทุนวัตถุดิบและเงินบำเหน็จพนักงาน
มร.ริชาร์ด เจ. เครเมอร์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร